ต้องบอกว่า ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม นางร้ายหน้าหวาน ตกอยู่ในความสนใจแฟนๆ อีกครั้ง หลังไปออกรายการแล้วเปิดตัวว่าเคยคบพระเอกช่อง 3 แต่ปิดปากเงียบไม่กล้าบอกใคร จนเลิกราและได้มาเป็นแฟนพระเอกวิกหมอชิต พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์
หลังจากนั้นฝ่ายชาย พระเอกวิก 3 เกรช-วรินทร ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเป็นตัวเอง แต่เป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว ไม่อยากให้กระทบใครอีก แต่ พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์ โพสต์เดือดแบบสุดๆ ในไอจี เป็นข้อความที่หนุ่มพอร์ชจัดหนักแบบทำเอาหลายคนอึ้งแล้วหาคำตอบว่า ใครกันที่ทำให้หนุ่มพอร์ชเดือดได้เช่นนี้
โดยพระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ได้โพสต์ข้อความแบบเดือดๆ ลงไอจีว่า เรื่องเก่าๆ จะเอามาพูดทำ….ไรกัน ไม่เข้าใจ…หุบปากกันบ้างเถอะ พร้อมแคปชั่นว่า เข้าใจนะ
เมื่อเรื่องราว ดูจะระอุ เพราะศึกหน้านาง ขนาดนี้ ทีวีพูล เลยขอพาทุกท่านย้อนไปทำความรู้จัก ดาว-พิมพ์ทอง นางร้ายในใจ 2 พระเอกดังกันค่ะ
พูดถึงนางร้ายดาวรุ่งแห่งวิกสามพระรามสี่ คงไม่มีใครสวย แซบ หุ่นเป๊ะได้เท่าเธอคนนี้”ดาว-พิมพ์ทอง วชิราคม” นางร้ายหน้าหวานที่เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้กับบท “หม่อมหลวงศินีนุช” ในละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ ซึ่งไม่เพียงแต่ความร้ายตะแล๊ดแต๊ดแต๋ เธอยังมีเสียงกรี๊ดป่าลั่น พร้อมสีปากแดงสดชวนให้จดจำอีกด้วย ดาว กลับมาสวยซ่อนพิษกว่าเดิม ในละครรักกลิ่นอายญี่ปุ่น “รอยฝันตะวันเดือด”
นางเอกละครเย็นสู่นางร้ายป่าลั่น
ดาว พิมพ์ทอง ชื่อนี้มีทั้งคนรู้จัก และไม่รู้จัก แต่ก่อนจะมาเป็นนางร้ายปากแดง “ดาว” หรือที่ใครหลายคนเรียกกันติดปากว่า “พิมพ์ดาว” เคยผ่านงานละครหลานสาวนายพลมาก่อนแล้ว โดยรับบทเป็นหนึ่งในสามนางเอกของเรื่อง ทั้งยังเคยเป็นนางเอกหนังดังสุดสัปดาห์ เรื่อง ลิเกต๊องเต้นก้องโลก ด้วย“ดาวเริ่มเข้ามาอยู่ช่อง 3 จากการเป็นผู้ประกาศแจ้งรายการก่อน ทำอยู่ได้ประมาณ 1 ปีทางช่องก็เรียกให้มาเรียนการแสดง และได้รับเลือกให้เล่นหลานสาวนายพล ซึ่งเป็นละครเย็น เหมือนเป็นการชิมลางก่อน
…เรื่องนี้ดาวเล่นเป็นคนดี (ทำเสียงแบ๊วๆ) ขัดกับตัวเองมากๆ (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าหนูเป็นคนไม่ดีนะ แต่ด้วยความที่เราหน้าตาเป็นคนจัดเต็ม มันก็เลยค่อนข้างขัดกับตัวเอง แรกๆ ก็ลำบากพี่ผู้จัดกับพี่ๆ แต่งหน้าเหมือนกัน สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ..
หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาส และพลิกบทบาทให้เป็นนางร้ายในคุณชายรัชชานนท์ รับบทเป็น หม่อมหลวงศินีนุช ซึ่งเรตติ้งดีที่สุดในช่องเลยก็ว่าได้ แล้วคนก็จำดาวได้จากเรื่องนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จกับบทร้ายตั้งแต่นั้นมา (หัวเราะ)” ดาวเล่าถึงผลงานละครชิ้นแรก ตามมาด้วยบทนางร้ายปากแดงในเรื่องคุณชายรัชชานนท์ที่สร้างชื่อให้แก่เธอ
กลับมาร้ายอีกครั้งในบท “อาคิโกะ”
หลังจากเรื่องคุณชายรัชชานนท์จบไป เธอหวนคืนจออีกครั้งกับบทบาทใหม่ อาคิโกะ ในซีรีส์ช่อง 3 “รอยฝันตะวันเดือด” การกลับมาครั้งนี้ ต้องบอกเลยว่า ร้าย และแรงกว่าเดิม นับเป็นบทบาทที่ท้าทายสำหรับเธอมาก เพราะได้ร่วมงานกับคู่พระ-นางสุดฮอตอย่าง ณเดชน์ และญาญ่า
“เรื่องนี้ ได้รับโอกาสจากพี่จ๋า ยศสินี ณ นคร ค่ะ เป็นบทสาวญี่ปุ่นชื่อ อาคิโกะ ซึ่งเป็นบทนางร้ายที่ท้าทายมาก ๆ ค่ะ ออกแนวเสแสร้ง ตีสองหน้า ไม่ใช่ร้ายแบนๆ เอะอะอะไรก็กรี๊ดเหมือนที่ผ่านๆ มา”
เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับคู่พระ-นางสุดฮอตอย่าง ณเดชน์ และญาญ่า ดาวบอกว่า ต้องมีเขิน และเกร็งกันบ้างเป็นธรรมดา
เปิดตัวตน นางร้ายหน้าหวาน
เห็นเล่นแต่บทร้ายๆ ไม่แปลกที่ใครหลายจะมองว่าเธอร้ายและแรง แต่จริง ๆ แล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก และเป็นกันเองมาก
“ดาวเป็นคนจริงใจ และชอบคนที่จริงใจค่ะ ถ้าเจอคนที่ไม่จริงใจ ดาวจะปลีกตัวออกห่างทันที เพราะดาวค่อนข้างเป็นคนดูคนออก ใครเป็นใคร ใครจริงใจ ไม่จริงใจ ดังนั้นจะมีบ้างที่คนมองดาวว่า หยิ่ง แต่จริงๆ แล้วดาวเป็นคนชอบสังคมนะ อีกอย่าง ชีวิตดาวไม่ค่อยเครียดเท่าไร ลั้ลลา ร่าเริง ที่สำคัญ ดาวเป็นคนกินง่าย ไม่เรื่องมากค่ะ อย่างอาหารที่กองถ่าย อร่อยมาก ส้มตำปูปลาร้า น้ำพริกแมงดา อุ้ย ชอบมากค่ะ”
ปัจจุบัน ดาว กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) แม้จะต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่ก็สามารถจัดเวลาได้อย่างลงตัว
“การทำงานกับการเรียน ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ดาวลงเรียนจันทร์ อังคาร พุธ ส่วนพฤหัสฯ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ก็ถ่ายละครเต็มที่ ตอนนี้ดาวเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 แล้วค่ะ เรียกว่าใกล้ถึงฝั่งละ (หัวเราะ) ซึ่งเรื่องเรียนกับเรื่องงานต้องไปด้วยกัน และที่บ้านก็ให้ความสำคัญมากค่ะ ถ้าแบ่งเวลาให้ดีก็ไม่มีปัญหา”
“ส่วนชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ดาวไม่ค่อยมีสังคมเท่าไร อาจจะมีเพื่อนสักคน สองคน เพราะเวลาของเรา ไม่สามารถลงเรียนกับเพื่อนได้ บางทีก็ยากอยู่เหมือนกันนะที่ไม่มีคนช่วยเหลือ แต่บางวิชาก็โอเคค่ะ ด้านกิจกรรมในมหา’ลัย ก็จะมีบ้าง เช่นร้องเพลง แต่หลังๆ มานี้ ไม่ค่อยมีเวลาเลยค่ะ เพราะติดถ่ายละครบ้าง ทำงานอื่น ๆ บ้าง ประมาณนี้ค่ะ หนักอยู่ค่ะ แต่ก็ต้องอดทนค่ะ” เธอเล่า
เป็นนางร้ายที่ร้องเพลงเพราะ
ไม่เพียงแต่งานละครเท่านั้น เธอยังเคยเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปวง I’m Lady จากโครงการ R U Ready To Be a Singer by L.C.H. สังกัดอยู่ค่ายอาร์เอส โดยมีซิงเกิลที่ชื่อว่า Lonely Valentine หลังจากนั้น ก็ได้หันไปเป็นนางแบบนิตยสาร และพลิกผันมาเป็นพิธีกรคั่นรายการของช่อง 3
“ดาวเรียนร้องเพลงตอนอายุ 10 ขวบ ซึ่งดาวเรียนร้องเพลงมาเรื่อยๆ และก็พัฒนาตัวเองมาตลอด เพราะเวลาเราไปออกงาน บางงานเราก็จะถูกเรียกให้ขึ้นไปร้องเพลง ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอด หลังๆ มาไม่ค่อยได้เรียนแล้ว ฝึกเองกับยูทิวบ์ที่บ้านค่ะ ส่วนแนวเพลงที่ร้องจะเป็นสากลมากกว่า เนื่องจากดาวยึดแนวเพลงนี้มาตั้งแต่เด็ก นอกจากนั้นดาวยังเรียนเต้น และก็รำด้วยค่ะ เต้นนี่คุณแม่ส่งเรียนเหมือนกัน มีตั้งแต่บัลเลต์ แจ๊ส ฮิปฮอป ด้านการรำไทย คุณแม่ส่งเรียนตั้งแต่ 5 ขวบค่ะ” เธอย้อนวันวาน
ฝันจริงๆ อยากเป็นดีไซเนอร์
เชื่อว่าทุกคนมีฝัน เช่นเดียวกับ ดาว พิมพ์ทอง เธอมีฝันอยากจะเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง
“ดาวอยากเป็นดีไซเนอร์ค่ะ อยากทำแฟชั่นโชว์ อยากมีแบรนด์เป็นชื่อ พิมพ์วิลา ซึ่งเป็นชื่อดาวกับชื่อแม่ (วิลาวรรณ) รวมกัน ขายอยู่ตามศูนย์การค้าต่างๆ นี่คือสิ่งที่ดาวอยากทำ คือดาวจะทำงานในวงการบันเทิงให้มีชื่อเสียงขึ้นมาก่อน เพราะไม่อยากให้โอกาสตรงนี้หลุดลอยไป อย่างตอนนี้ดาวก็เริ่มคิดเรื่องเรียนต่อแล้วค่ะ เน้นการออกแบบโดยตรง โดยดาวตั้งใจจะเรียนแฟชั่นดีไซน์ และแฟชั่นมาร์เกตติ้งควบคู่กันไป ซึ่งตรงนี้ดาวถือว่า ไม่ใช่เรื่องที่ทำเล่นๆ แต่มันคือเป้าหมายในชีวิตของดาว เพราะดาวอยากให้คนจดจำว่านี่คือเสื้อผ้าแบรนด์ของดาว เห็นปุ๊บรู้เลยว่า นี่คือเรา”
“ตอนนี้วางแผนคร่าวๆ ไว้บ้างแล้วค่ะ มีแรงบันดาลใจบ้างแล้วว่า คอลเลกชันแรกจะทำเป็นอะไรดี จะเปิดโชว์รูมที่ไหน และจะใช้การตลาดออกไปอย่างไร เพราะแฟชั่นก็เหมือนความรักนะ ถ้าให้ความรัก เอาใจใส่ ใจเย็นๆ แฟชั่นก็จะออกมาสดใส น่าสวมใส่” เธอเผยถึงความฝันที่ใกล้จะเป็นจริงแล้ว
ทำให้วันนี้เธอเป็นอีกหนึ่งสาวที่ต้องสถาปนาให้เป็น ‘แฟชั่นนิสต้า’ ของวงการบันเทิงไทยไม่แพ้ซุป’ตาร์รุ่นพี่อย่าง “ชมพู่ อารยา” ด้วยสไตล์การแต่งตัวเด่นเด้ง เปรี้ยวปรี๊ดของเธอคนนี้
“แฟชั่นนิสต้า เป็นเหมือนคนที่รักในแฟชั่น และพยายามทำตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น ถือเป็นบุคคลหนึ่งที่ลุกขึ้นมาเพื่อเป็นไอดอลของแฟชั่น เพื่อให้คน ดูเป็นไอดอล อย่างพี่ชมพู่ อารยา พี่เขาเป็นตัวแม่ของแฟชั่นนิสต้าเลย พี่อั้มก็เหมือนกัน แต่พี่อั้มจะออกแนวเรียบหรู ซึ่งดาวชอบแบบพี่อั้มมากกว่า แต่บางงานก็ต้องผสมผสานของพี่ชมพู่เข้าไปด้วย ซึ่งการเป็นแฟชั่นนิสต้า สำหรับดาว ไม่ใช่แต่งตัวให้แตกต่างจากคนอื่น ฉีกแนวให้เป็นสไตล์ของเรา แต่ต้องแต่งออกมาสวย น่ารัก และชวนมองด้วย” ดาวอธิบายความเป็นแฟชั่นนิสต้า
มีข่าวกิ๊กกับดาราหลายคน
“ข่าวกิ๊กกับดาราคนนั้นคนนี้ อย่างบอม ธนิน เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยแล้วค่ะ เป็นความบังเอิญที่ได้เล่นเรื่องคุณชายรัชชานนท์ด้วยกัน ต่างคนต่างมาแคสติ้ง พอมาเจอกัน อ้าว บอม ส่วนเจมส์ มาร์ก็ด้วย นั่นก็เพื่อนค่ะ เป็นเพื่อนที่ทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยด้วยกันตลอด มีให้ช่วยโปรโมตมหาวิทยาลัย เราก็จะไปกัน 3 คน ทางด้านเจมส์ จิรายุ ด้วยความที่น้องเขาเป็นคนขี้อ้อน ขี้เล่นกับทุกคน มันก็เลยเป็นข่าว ซึ่งตัวดาวไม่เครียดนะคะ แต่กลัวน้องเขาจะเครียดมากกว่า”
เสียใจกับข่าวว่ามีเสี่ยเลี้ยง!
ดารากับข่าวฉาว เป็นของคู่กัน แต่ถ้าข่าวนั้นไม่เป็นความจริงก็ทำเอาเจ้าตัว และครอบครัวเสื่อมเสียได้ โดยเฉพาะดาราสาว กับเสี่ยกระเป๋าหนัก นี่คือการเปิดใจครั้งแรกกับข่าวลือที่ว่า เธอมีเสี่ยเลี้ยง?
“เคยเจอคนต่อว่ามาค่ะ เพราะมีคนใส่ความดาวบ่อยมาก ว่าเนี่ย เห็นมีกระเป๋าใช้ มีรถใช้ ต้องมีคนเลี้ยงแน่ ๆ แล้วก็เอาไปพูดปากต่อปากจนเราเสียหาย ดาวขอพูดตรงนี้เลยนะคะว่า ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของดาวเอง และคุณแม่ก็เป็นคนให้มาด้วย ไม่รู้ว่าเอาไปพูดกันได้อย่างไร เราไม่เข้าใจ คงดูภาพรวมๆ แล้วว่า เนี่ย แบบนี้ต้องมีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ เลย แต่จะมีสักคนไหมที่ไม่เป็นแบบนี้ นั่นก็คือ ดาว
เอาจริง ๆ นะ ได้ยินข่าวแบบนี้แล้วเสียใจมากค่ะ คุณแม่ร้องไห้กับข่าวนี้ไปตั้งหลายรอบ เพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานหนักมาตั้งแต่ดาว และพี่ยังเด็กๆ ของทุกอย่างที่หามาได้ ก็มาจากเงินที่ท่านทำงาน ของบางอย่าง เช่น กำไลข้อมือ หรือของอื่น ๆ ที่มีค่า ท่านก็เก็บไว้ให้ลูก พอมีข่าวแบบนี้ เหมือนดูถูกเรา ดูถูกคุณแม่ ดูถูกคุณพ่อดาวด้วย” เธอเผยความรู้สึกต่อกรณีข่าวฉาวที่เกิดขึ้น
ล่าสุดตกเป็นข่าวอีกครั้ง หลังไปออกรายการเปิดใจ จนต้องออกมาขอโทษผ่านอินสตราแกรม
by TVPOOL ONLINE




