เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พระเอกชื่อดัง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องชาวเน็ตตาไวเทียบช็อตภาพทริปเกาะสมุยว่าเหมือน กันเป๊ะกับเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า NICHA ทายาทชุดชั้นในจินตนา จนสงสัยกันว่าใช่สาวที่กำลังดูใจกันหรือเปล่า
“ครับๆ ป่านนี้เขาก็รู้กันหมดแล้วป่ะ สำหรับฝั่งผมมันไม่ได้เป็นความลับอยู่แล้ว เพราะว่าเราก็คบกันมาปีกว่า ถามว่าพอเป็นที่รู้กันแบบนี้แล้วฝ่ายหญิงโอเคมั้ย ผมก็ยังขออนุญาตอยู่เช่นเดิม ว่าจะไม่เอาเรื่องของเขามาพูด ด้วยความที่อาชีพของเราต่างกัน อาชีพของเขาคือเป็นดีไซเนอร์ ที่ผ่านมาเราเคยปรึกษากันว่าไม่อยากให้คนนึกถึงแบรนด์เขาหรือตัวเขาในฐานะว่าเป็นแฟนผม ซึ่งผมว่ามันก็ไม่แฟร์สำหรับคนที่อยู่ในวัยเขาที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่”

พอรู้กันในวงกว้าง กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของทั้งคู่ไหม?
“สำหรับผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่เรื่องความส่วนตัว เพราะโตมาในวงการนี้ตั้งแต่อายุ 13 ส่วนแฟนผมก็ไม่น่ากังวล คือผมก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่แล้ว ไม่ได้หวือหวา เลยไม่ค่อยมีปัญหา”

แล้วเจ้าตัวเขารู้ไหมว่ามีคนจับผิดเปรียบเทียบรูปที่ไปเที่ยวกัน?
“เขารู้อยู่แล้ว รู้ไปถึงทางครอบครัวเขาด้วย แต่ว่าคบกันมาปีกว่าแล้ว ผมก็สนิทกับทางครอบครัวเขาด้วย คุยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร รวมถึงเขาเองก็สนิทกับครอบครัวผมเหมือนกัน”

คาดหวังกับความรักครั้งนี้ขนาดไหน?
“จริงๆ ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว เพราะความรักที่เรามีให้กันมันสำคัญกว่ากระดาษใบนึงหรือจดทะเบียนสมรส ยิ่งในยุคสมัยนี้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยศักดิ์สิทธิ์ด้วย คนแต่งงานแล้วก็เลิกกัน ผมอยากได้พาร์ตเนอร์หรือคู่ชีวิตมากกว่า ถามว่าคาดหวังมั้ย ก็ไม่เชิง รู้สึกว่าถ้าเราทำดีที่สุด หัดแชร์ชีวิตเรากับคนอื่นเขา ฟังเขาด้วยว่าอยากมีอะไรในอนาคตของเขา ค่อยๆ ไป ไม่ได้รีบครับ”

ผู้หญิงคิดตรงกันกับเราไหม?
“คบกันมาได้ขนาดนี้ก็ค่อนข้างตรงกันนะครับ จริงๆ การแต่งงานคือพื้นฐานของการมีครอบครัว แต่เรื่องมีครอบครัวเราทั้งคู่ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ฉะนั้นคำว่าแต่งงานเลยยังไม่ได้จำเป็น แต่เมื่อไหร่ถ้าเราพูดถึงเรื่องครอบครัว คำว่าแต่งงานมันก็จะมีความหมายมากขึ้น”

คิดอยากมีลูกไหม?
“ถ้าถามผมไม่เคยคิดเลยเรื่องนี้ ยิ่งในช่วงวัยรุ่นยิ่งไม่คิด ผมใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยแบบคาบเหยื่อระหว่างทางไปเรื่อย แต่ในช่วงชีวิตตอนนี้โตขึ้นแล้วความคิดทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จากที่แบบเคยคิดว่าคงไม่มีวันที่เราจะมีครอบครัวก็มีภาพนั้นเกิดขึ้น แต่มันไม่ใช่ฝันใหญ่ที่สุดในชีวิต เราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนสำคัญเหลือเกินที่เราจะต้องมีทายาทหรือเลือดเอเวอร์ริ่งแฮมมันต้องอยู่ตลอดไป”