เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ บุญลือประดิษฐ์” อดีตดาราหนุ่ม ที่ล้มป่วยเป็นวัณโรคทับตับและต่อมน้ำเหลือง กระจายไปทั่วโซเชียล ทำให้ชาวเน็ตเห็นใจและโอนเงินบริจาคช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมา เจ้าตัวก็โพสต์คลิปร่ำไห้ บอกว่าอาการไม่ค่อยดี อาจไม่มีโอกาสได้พบกัน แต่ต่อมาธีร์ก็ถูกแฉว่าได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตกแต่งเพิ่ม พร้อมมีรถอีกหนึ่งคัน เมื่อสอบถามเจ้าตัวก็เผยว่าเป็นบ้านที่มีคนใจบุญอนุญาตให้มาเช่า

ค่าเช่าเดือนละ 2 พัน ในขณะที่ยืนยันว่ายอดเงินบริจาคที่ได้รับ มีแค่ 5 หมื่น ถึง 6 หมื่นบาทเท่านั้น และไม่ยอมเปิดเผยยอดบริจาคที่แท้จริง หลังถูกสังคมตั้งคำถามถึงเรื่องเงินบริจาค

ล่าสุดธีร์ก็ได้เปิดใจผ่านรายการหนึ่ง บอกที่ผ่านมาตนเองทานยา แล้วอาจจะทำให้สมองเบลอ จึงตอบคำถามสื่อหลายสำนักผิดพลาด จริงๆ แล้วได้ยอดเงินบริจาครวมๆ 5 แสน แต่ยืนยันว่าไม่ถึงหลักล้าน ซึ่งก็นำเงินบางส่วนใช้ไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 2 แสน ถึง สามแสน เหตุผลที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขในบัญชีได้ เนื่องจากมีการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ ไม่ได้ไปปรับสมุดบัญชี

ทั้งนี้ บ้านที่อาศัยอยู่ จ่ายชำระเป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท ซึ่งเจ้าของบ้านก็อาศัยอยู่ร่วมกับตนเอง เพราะเจ้าของบ้านเป็นคนที่เคยคบหากันมาก่อน ส่วนรถอีกคันที่จอดอยู่หน้าบ้าน เป็นรถของเจ้าของบ้าน พร้อมเปิดเผยสัญญาเช่าบ้านให้ทีมข่าวดู ขณะที่เปิดเผยในครั้งแรก ทีมข่าวสังเกตว่าบริเวณหัวสัญญา ลงวันที่สัญญาคือวันที่ 24 ก.ค.62 ต่อมาก็ขอยืมปากกาทีมข่าวขีดฆ่าเพื่อเขียนข้อมูลใหม่ เปลี่ยนเป็นวันที่ 6 ก.ค. 62 ซึ่งอ้างว่าจำวันผิด พร้อมอ้างว่าวันทำสัญญาตนเองมีปัญหาเรื่องสายตาเอียง จึงทำให้เห็นตัวอักษรไม่ชัด ขณะที่ “นายจำนงค์ ใคร้วงศ์” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 เปิดเผยว่า ธีร์ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยประมาณช่วงต้นเดือนมกราคม มีโอกาสไปเยี่ยม 1 ครั้ง พบว่าสามารถนั่งพูดคุย และใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง แต่หากมีการเดินทางหรือเคลื่อนย้ายก็จะต้องใช้ไม้เท้าพยุง

ขณะที่เพื่อนบ้านที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ที่ จ. เชียงใหม่ เผยว่า วันที่ธีร์และแม่ย้ายออกไป มีลักษณะเร่งรีบ ชาวบ้านเชื่อว่าการย้ายออกไปในวันศุกร์เป็นวันที่ไม่ดี แต่นายธีร์ก็ยังยืนยันที่จะย้ายออกไปในวันดังกล่าว พร้อมกับบอกชาวบ้านว่า “ย้ายออกไปเร็ว จะได้ทันต่อวันทำบุญพระ” ซึ่งก็ตกใจว่า การย้ายออกไปอยู่บ้านเช่า ทำไมต้องมีการทำบุญบ้าน อีกทั้งนายธีร์หลุดปากพูดให้ชาวบ้านได้ยินเรื่องซื้อเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่ง รวมถึงจัดภูมิทัศน์รอบบ้าน ส่วนตัวในฐานะคนที่เคยให้การสนับสนุนไม่คิดที่จะเรียกเงินคืน ถือว่าได้ทำบุญทำทานไป