เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถ สำหรับ สุเชาว์ พงษ์วิไล ซึ่งหลายคนได้เห็นฝีมือการแสดงของอามาแล้วหลายเรื่อง แต่น้อยคนที่จะรู้เรื่องส่วนตัวของ สุเชาว์ พงษ์วิไล ล่าสุด สุเชาว์ พงษ์วิไล ได้มาเปิดใจในประเด็นต่างๆ รวมถึงครั้งหนึ่งอาเคยติดเหล้าหนัก ถูกภรรยามองว่าไม่แมนจนขอเลิก
อาอยู่ในวงการมาทั้งหมดกี่ปี?
อาสุเชาว์ : “ผมเริ่มปี 2518 ประมาณ 43 ปี”
หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบประวัติของอาว่าอาแต่งงาน มีลูกสาว 2 คน?
อาสุเชาว์ : “คนเขาอาจจะลืมไปแล้ว ผมแต่งงานน่าจะอายุ 32-33 ปี แล้วก็มีลูกเลย ถามว่าคบกันนานไหมถึงแต่ง คือเราทำงานประจำด้วยกันที่การไฟฟ้า”
ก่อนมาเป็นศิลปิน นักแสดง อาทำงานการไฟฟ้ามาก่อน?
อาสุเชาว์ : “ครับ ส่วนงานประชาสัมพันธ์ของการไฟฟ้า”
แต่ว่าเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น คุณอาได้เลิกกับภรรยา?
อาสุเชาว์ : “ครับ มันพูดได้สองอย่าง เขาบอกเลิกหรือถ้าทำงานด้วยกันก็ลาออกจากการเป็นภรรยา”
ณ ตอนนั้น อาติดเหล้าหนักมาก?
อาสุเชาว์ : “ติดเหล้า ติดเพื่อน ติดหลายอย่าง ก็เลยไม่ได้กลับบ้าน คือตอนเข้าวงการทำงานการไฟฟ้าด้วย แล้วก็ทำงานการแสดงด้วย กับเพื่อนเด็กๆ ในวงการ เสร็จแล้วไปต่อกัน ช่วงนั้นจะกินเหล้าเยอะมาก”
แล้วตอนที่ภรรยามาขอเลิกอารู้สึกยังไงบ้าง?
อาสุเชาว์ : “มันเต็มที่แล้ว คิดว่ามันถึงเวลา แยกกันอยู่ดีกว่าจะได้ไม่ต้องทะเลาะให้เด็กมันเห็นตอนนั้นก็แบ่งลูกคนละคน เขาเอาคนเล็กไปเลี้ยง แล้วคนโตก็อยู่กับผม สุดท้ายเขาเป็นคุณแม่ที่เข้มงวดมากแล้วก็ดุ เขาไม่ค่อยมีเวลาที่จะไปรับไปส่ง ก็เลยให้ผมมาดูแล”
นอกเหนือเหตุผลที่ติดเหล้า อาไม่แมน?
อาสุเชาว์ : “ประมาณนั้นครับ เพราะว่าเพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงานในวงการ ส่วนมากก็จะเป็นเพศทางเลือกเยอะ แล้วผมกินเหล้ากับพวกเขาอยู่ แล้วบางทีมันดึกมากกลับไม่ได้ ก็นอนที่นั่นก็เลยเข้าใจไขว้เขวกันไป แล้วมีช่วงหนึ่งผมไปเล่นหนัง เรื่องขบวนการคนใช้ ผมเล่นเป็นกะเทย ซึ่งผมไม่คิดว่าผมจะเล่นได้ วันแรกที่เข้าเซตแต่งเต็มยศเลยเป็นผู้หญิง แล้วผมติดคาแรคเตอร์นี่มานานมากจนแบบผมอยู่ตรงนี้เล่นเป็นกะเทยบ้าง ผู้ชายบ้าง ผมตกใจร้องว้ายมาตั้งหลายปี”
อันนี้เป็นเหตุผลนึงด้วยไหมที่ภรรยาคิดว่าอาไม่แมน?
อาสุเชาว์ : “มันมีส่วน”
อย่างนี้อาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจยังไง?
อาสุเชาว์ : “ไม่อธิบาย แต่มันจะมีเสียงเล็ดลอดมาเข้าหูตลอดว่าเราเป็น ก็เราอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้ อยู่กับพวกเขามันสนุกแล้วสบายใจมากกว่า”
เห็นว่ามีกรี๊ดแตกกลางตลาดด้วย?
อาสุเชาว์ : “อ่อ เขาก็มามุงดูกันใหญ่ ตอนแรกเราก็อายๆ สักพักมันก็คุ้นชินไปเอง ตอนนั้นเขาก็นึกไม่ถึงว่าเราจะแต่งแบบนี้มาที่ตลาด ก็ต้องอธิบายว่านี่ไปถ่ายหนัง”
อยากจะบอกอะไรกับคนที่คิดว่าอาไม่แมน?
อาสุเชาว์ : “มันเป็นแค่การแสดงนะครับ ผมอยากจะบอกว่าโดยทางวิทยาศาสตร์โคโมโซมของเรา บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าด้านไหนชัดเจน บางคนเป็นตั้งนาน มีลูกตั้งหลายคนถึงลุกมาแปลงเพศก็มี”
อาลำบากไหมเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกสาวที่โตแล้วสองคน?
อาสุเชาว์ : “มันลำบากขึ้น เพราะเราทำงานหลายอย่างแล้วต้องดูแลเขาด้วย มันดีที่เขาโตแล้วเขาช่วยตัวเองได้”
ทุกวันนี้อาอยู่คนเดียวเหรอ?
อาสุเชาว์ : “อยู่คนเดียว มีเวลาเราก็แวะหาเขา บางทีค้างนอนเป็นเพื่อนเขา”
อาอยู่คนเดียวมากี่ปีแล้ว?
อาสุเชาว์ : “โห…นานแล้ว ร่วม 20 ปีได้ ตั้งแต่ผมแยกกับภรรยาผมก็อยู่คนเดียวมาตลอด ถามว่ามีใครเข้ามาบ้างก็มีมา แต่อยากเป็นเพื่อนกันมากกว่า มันจบไม่ลง เพราะเราเป็นคนอิสระ เราได้อิสระภาพมาแล้วเราก็ไม่อยากเสียไป”
แสดงว่าเป็นโสดทางเลือกเราเลือกเอง ไม่เหงาเหรอ?
อาสุเชาว์ : “ครับเราเลือกเอง ถามว่าเหงาไหม ผมว่าผมไม่เหงานะมันมีอะไรให้ผมทำตั้งเยอะแยะ แล้วผมเป็นคนที่อยู่ไม่ติดที่อยู่แล้ว ถ้ามีใครมาอยู่ด้วยอีกคนมันก็จะไปไหนมาไหนไม่สะดวก กลายเป็นภาระ แล้วผมก็ไม่อยากเป็นภาระใครด้วย”
อาหันมาใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่?
อาสุเชาว์ : “ตอนผมเออร์ลี่ รีไทร์ ลูกสาวก็พาไปเข้ายิม แล้วผมเล่นเวทมา 2 ปี พอปีที่ 2 ที่ 3 มันมีกล้ามเนื้อ แล้วมันเฟิร์มขึ้น ผมก็เลยให้เทรนเนอร์มาดูแล แล้วโอ้โห…ล้ำมาก”
แล้วพออาหุ่นขนาดนี้คนมาจีบเยอะไหม?
อาสุเชาว์ : “มันมีแต่เพศทางเลือก แต่ผมคิดว่านักแสดงถ้าตัวใหญ่เกินไปมันจะมีบทให้เล่นน้อย ผมเลยต้องลด”
แล้วเวลาคนเข้ามาจีบอาเขาเข้ามายังไง?
อาสุเชาว์ : “มันก็เป็นเพื่อนๆ กัน บางทีเขาก็วางโทรศัพท์ให้สแกน เดี๋ยวนี้มันรู้จักกันง่ายขึ้น”
จากนี้ไปอาคิดว่าจะครองความโสดตลอดชีวิตอย่างนี้เหรอ?
อาสุเชาว์ : “คือเราต้องดูแลตัวเราเองด้วย เราอายุมากขึ้นเนี่ย คนที่ต่างวัยกันมากๆ ช่วงแรกๆ มันยังปรับกันได้ แต่ถ้าไปนานๆ จะมองเห็นช่องว่างแล้วมันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้”
