หลังจากเป็นประเด็นช็อกวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อข่าวลือหลุดออกมาว่า คู่สามีภรรยานักแสดงและนางแบบได้จบความสัมพันธ์ด้วยการหย่า สำหรับคู่ของ “ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล และ แอนนา นาตาชา” ที่ใช้ชีวิตคู่มากว่า 11 ปี โดยตุ้ยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า
ทุกอย่างเป็นความจริงครับ เราหย่ากันได้โดยประมาณ 4-5 เดือน มันก็เหมือนชีวิตคู่ของหลายๆ คน ที่มีปัญหาบ้าง ราบรื่นบ้าง และเราก็พยายามปรับเข้าหากันตลอด พยายามทำให้มันดีขึ้น แต่เมื่อมันมาถึงจุดที่เราสองคนเห็นตรงกัน เราก็เลยตัดสินใจด้วยเหตุและผลแล้วว่า จะเปลี่ยนสถานะ
สำหรับสาเหตุหลัก คงเป็นเรื่องของทัศนคติ และมุมมองการใช้ชีวิตที่ต่างกัน ส่วนเรื่องอายุไม่เกี่ยวเลยครับ มันเป็นเรื่องมุมมองการใช้ชีวิตมากกว่า ถามว่าเรารู้ตัวเมื่อไหร่ว่าเราไม่ใช่ เอ่อ…มันก็คงเป็นระยะๆ มากกว่า เพราะอย่างที่บอกเราก็ใช้เวลาในการปรับตัวแล้ว
ยืนยันครับว่าไม่มีมือที่สามแน่นอน ไม่มีแน่ๆ และประเด็นนี้ก็ไม่ได้มีผลอะไรทั้งสิ้นในการตัดสินใจ
ถามว่าลำบากใจแค่ไหนที่ต้องตัดสินใจจบชีวิตคู่ เอ่อ…มันก็มีต้องมีความผิดหวัง และเสียใจอยู่แล้ว แต่ถ้ามันมาถึงช่วงหนึ่งของชีวิตที่มันไม่สามารถไปต่อได้ เราก็ต้องยอมรับความจริง และคุยกันว่าเราจะตัดสินใจเปลี่ยนสถานะ หรือเปลี่ยนบทบาทกันยังไงต่อไ
เรื่องการตัดสินใจของเรามันไม่ได้มีจุดเริ่มต้นเลย มันเป็นการพูดคุยกัน และยอมรับในธรรมชาติของกันและกันมากกว่า
สำหรับลูกชายผมเองก็ไม่ทราบหรอกว่าเขาเข้าใจหรือไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมเชื่อว่าเขาคงเข้าใจสักวันหนึ่ง อีกอย่างความรักระหว่างความเป็นพ่อเป็นแม่ของเราก็ยังเหมือนเดิม และเขาก็น่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแรง
วันนี้ก่อนผมจะออกมาให้สัมภาษณ์ผมก็ได้คุยกับทางแอนนาก่อน และเราก็เข้าใจตรงกันครับ ส่วนเรื่องความเสียดาย แน่นอนครับว่ามันก็ต้องเสียดาย แต่เราก็ต้องเดินหน้าต่อ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดต่อไป
ประเด็นทางด้านธุรกิจ คือมันเป็นปัญหาที่ค่อนข้างละเอียดซับซ้อนนะครับ แต่ถามว่ามันเกี่ยวไหม ไม่เกี่ยวครับ มันเป็นที่ทัศนคติของเราสองคนมากกว่า
ถามว่าผมยังรักเขาอยู่ไหม ถึงแม้เราจะเลิกกันแล้ว ก็รัก…ในฐานะของ ของความเป็นเพื่อนที่ดี เป็นทีมเวิร์กที่ดี ที่อยากจะแชร์ความรักของเราให้กับลูกมากที่สุด
สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมมองว่า เราคงต้องกลับมาทำความเข้าใจกับตัวเองบ้าง ต้องเคาะตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ในการเดินต่อไปเราบกพร่องตรงไหน และเราจะแก้ไขมันได้ยังไง ก็ต้องกลับมาดูแลตัวเองเหมือนกันครับ
ทุกวันนี้เราแยกบ้านกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ไกลกันมาก ยังคงได้เจอกันเรื่อยๆ และก็ยังคงทำหน้าที่ของพ่อและแม่อย่างเต็มที่เพื่อลูก
