เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมือวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส นำคณะนักเรียนและนักศึกษาไทยในสาธารณรัฐฝรั่งเศส จำนวน 91 คน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส

การจัดกิจกรรมพบปะนักเรียนและนักศึกษาไทยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็นกิจกรรมตามพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่และทุกข์สุขของประชาชนไทย โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษาไทยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพและนำกลับไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศ

โดยการจัดกิจกรรม มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาไทยได้พบปะทำความรู้จักและสร้างเครือข่าย เพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นในประเด็นที่เป็นประโยชน์และอยู่ในความสนใจร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ในการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันทั้งในด้านการศึกษาและการดำรงชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสให้เป็นไปอย่างราบรื่น และประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับคณะนักเรียนซึ่งศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ อาทิ แพทย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ กฎหมาย และการออกแบบ เป็นต้น โดยทรงเล่าถึงประสบการณ์ส่วนพระองค์เมื่อครั้งทรงศึกษา อยู่ในประเทศฝรั่งเศส โดยมีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจ โดยทรงขอให้นักเรียนทุกคนภูมิใจในวัฒนธรรม ภาษาและความเป็นไทย รักประเทศชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ รู้จักเลือกนำจุดแข็งเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพและประเทศชาติ

นอกจากนั้น ทรงแลกเปลี่ยนความเห็นและให้คำแนะนำอย่างเปิดกว้างในฐานะ “รุ่นพี่ … สู่รุ่นน้อง” อาทิ แนวทางการเตรียมตัวก่อนมาศึกษาในประเทศฝรั่งเศส การใช้ชีวิตในฐานะนักเรียนให้ประสบความสำเร็จ ความสำคัญของการทูตวัฒนธรรมซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะทำให้เปิดกว้างด้านความคิดและเปิดใจกับบุคคลต่าง ๆ ได้โดยง่าย เป็นต้น และในช่วงท้าย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระราชทานของที่ระลึกแก่นักเรียนไทย และทรงฉายพระรูปร่วมกับคณะนักเรียนอย่างเป็นกันเองซึ่งสร้างความปลื้มปิติให้แก่นักเรียนและนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับนักเรียนและนักศึกษาไทยในฝรั่งเศสที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 91 คน มาจากกรุงปารีสและเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ประกอบด้วย นักเรียนระดับปริญญาเอก จำนวน 14 คน ระดับปริญญาโท จำนวน 43 คน ระดับปริญญาตรี จำนวน 8 คน ระดับเตรียมภาษา มัธยมศึกษา และการทำวิจัย จำนวน 26 คน ในจำนวนนี้ เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทยและทุนเล่าเรียนหลวง จำนวน 15 ​คน ทุนรัฐบาลและหน่วยงานของฝรั่งเศส จำนวน 22 คน ทุนส่วนตัวจำนวน 46 คน และทุนอื่นๆ เช่น ทุนภาคเอกชน จำนวน 8 คน โดยอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการศึกษา) ได้ถวายรายงานเกี่ยวกับข้อมูลภาพรวมด้านการศึกษาในประเทศฝรั่งเศส และตัวแทนคณะนักเรียนได้ถวายรายงานเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตในประเทศฝรั่งเศส

อนึ่ง ระบบการศึกษาของฝรั่งเศสเป็นระบบที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ซึ่งคณะกรรมธิการยุโรป รวมถึงสถาบันการศึกษาของเซียงไฮ้ และนิตยสารไฟแนลเชียลไทม์จัดให้สถาบันการศึกษาของฝรั่งเศสอยู่ในลำดับต้นๆ ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้จัดสรรงบประมาณมากกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณประจำปีเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการวิจัย และช่วยเหลือค่าเล่าเรียนให้กับนักเรียนทุกคนรวมถึงนักเรียนต่างชาติด้วย ฝรั่งเศสจึงเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดประเทศหนึ่งขณะที่ค่าใช้จ่ายในการศึกษาไม่สูงมากนัก

ฝรั่งเศสมีความโดดเด่นทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ทั้งทางด้านการคมนาคม อากาศยานหรือด้านคณิตศาสตร์ ซึ่งความเป็นเลิศทางวิชาการส่งผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของฝรั่งเศสให้มีชื่อเสียงระดับสากล โดยความสำเร็จของอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ผลักดันให้มีการผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพในสาขาเหล่านี้ และพัฒนาการวิจัยให้ล้ำหน้าขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือจากความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว ฝรั่งเศสยังมีชื่อเสียงในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบแฟชั่น ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และในด้านสังคมศาสตร์ กฎหมายมหาชนฝรั่งเศสก็เป็นต้นแบบระบบกฎหมายมหาชนของประเทศไทย จึงทำให้นักเรียนไทยมาเรียนในประเทศฝรั่งเศสจำนวนมาก

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Campus France ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการศึกษาของฝรั่งเศสระบุว่า ปัจจุบัน มีนักเรียนไทยมาศึกษาในฝรั่งเศส จำนวน 576 ราย ส่วนใหญ่ศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ โดยฝรั่งเศสถือเป็นประเทศเป้าหมายสำหรับนักเรียนไทยที่นิยมมาศึกษาต่อมากเป็นอันดับ 7 (รองจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อียิปต์ และมาเลเซีย ตามลำดับ) และเป็นอันดับ 2 ของประเทศในยุโรป (รองจากสหราชอาณาจักร) ในทางกลับกัน นักเรียนจากประเทศฝรั่งเศส ที่ไปศึกษาในประเทศไทยก็มีจำนวนไม่น้อย โดยอยู่ในลำดับที่ 22 ของนักเรียนต่างชาติที่ศึกษาในประเทศไทย

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online