เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เจ้าสาวน้อมรับถูกคนสมน้ำหน้า ยืนยันแต่ง “เสี่ยหมื่นล้าน” เพราะรักแม้รู้จักแค่วันเดียว รีบแต่ง-จดทะเบียนเพราะฝ่ายชายอ้างแก่ เป็นเบาหวาน ปล่อยโฮขอโทษพ่อแม่ พาคนไม่ดีเข้ามาทำลายครอบครัว เผยตอนนี้หย่าแล้ว อีกฝ่ายขู่จะแฉคืน กลายเป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว หลังจากที่ น.ส.เอ(นามสมมุติ) ชาว จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าพบ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความเป็นธรรมและปรึกษาทางด้านคดี ระบุว่าถูก นายท็อป (นามสมมุติ) อ้างว่าเป็นนักธุรกิจรวยหมื่นล้าน รู้จักแค่เพียง 1 วัน หลอกให้แต่งงาน-จดทะเบียนสมรส จัดงานที่โรงแรมหรู
โดยจ้างออร์แกไนซ์ มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดงาน กว่า 3.5 ล้านบาท ก่อนที่เจ้าบ่าวจะเบี้ยวไม่จ่ายเงิน ทำให้ตัวเองต้องตกที่นั่งลำบาก ต้องชดใช้หนี้แต่เพียงผู้เดียว ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนสาวเอ เปิดเผยว่า เจอกับอดีตสามีได้เพียง 1 วันก็ตกลงปลงใจแต่งงานกัน โดยจดทะเบียนสมรสก่อน ซึ่งเขาบอกว่า เขามีเงินในบัญชี 24,000 ล้านบาท เขาเป็นเศรษฐี มีเครื่องบินส่วนตัว ตนจึงหลงเชื่อโดยออกเงินค่าจัดงานแต่งงานให้ก่อน โดยเขาบอกว่าจะจ่ายให้ทีหลัง ซึ่งวันที่จัดงานนั้นให้ลงเป็นเครดิตเขาไว้ และจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายหลังงานจบแล้ว
ทั้งนี้ พอจัดงานแต่งเสร็จสิ้น ทางเพื่อนที่เป็นออร์แกไนซ์จัดงานแต่งก็ทวงถามมาตลอดว่า เมื่อไรจะจ่ายเงินค่าจัดงานแต่งงานให้ ตนจึงสอบถามสามี จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โต ตนกลัวว่าจะมีปัญหาที่หลังจึงขอหย่า ซึ่งเขาไม่พอใจ และไปแจ้งความ และฝ่ายชายบอกจะเอาเงินมาให้วันที่ 8-9 ต.ค. “ที่หลงเชื่อใจเขา เพราะเขาเข้ามาในวันที่เราอ่อนแอ ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน เขาดูแลเราดีมากจนรู้สึกว่านี่คือความรัก”
“ก็ตกลง จริงๆ เขาขอจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ขอแต่งงาน เขาบอกว่าถ้าไม่มั่นใจ กลัวมีเมีย คบซ้อนไปจดทะเบียนเลย พอมากรุงเทพฯ เขาพูดเรื่องนี้มาอีก อ้างว่าแก่แล้ว ไม่สบาย เราก็โอเค จดก็จด ไม่ได้คิดอะไรอีก” 15 มี.ค. เจอกัน 16 มี.ค. ขอแต่งงาน ประมาณ 10 วันคุณจดทะเบียน 10 พ.ค. จัดงานแต่งงานที่ไหน? “ที่บุรีรัมย์ค่ะ เพราะบ้านเกิดอยู่ที่นั่น ก่อนเลือกโรงแรมเขาได้ติดต่อทางออแกไนซ์ แล้วออแกไนซ์ก็ลงไปดู” เขาให้ออแกไนซ์จัดงานให้เลย ราคาเท่าไหร่? “2.68 ล้าน ค่าโรงแรม 383,000 ค่าเครื่องดื่ม 5 หมื่น รวมๆ ค่าใช้จ่าย 5 ล้านกว่าบาท” เขาจ่ายมั้ย? “มีจ่ายค่ามัดจำดนตรีไปสองหมื่นห้า” อีก 5 ล้านกว่า? “ก็ยังไม่มีจ่าย เขาไม่ได้หายไปไหนนะคะ ยังติดต่อได้จนถึงทุกวันนี้ แต่เขาอ้างว่าเงินยังไม่โอนจากฮ่องกง เขาเดินทางไปฮ่องกงแต่ไม่ให้เราไปด้วย ไปจีน ไปสิงคโปร์ ไปโน่นนี่ ไม่รู้ไปจริงหรือเปล่า” เรื่องเข็มขัดทอง ซึ่งเป็นของหมั้น สรุปมีหรือไม่มี? “มีอยู่ในงานค่ะ ทอง 25 บาทค่ะ เขาไปตกลงซื้อขายกับร้านทำแหวน แต่ตกลงกันยังไงไม่รู้ เราไม่ทราบ เขาเอาไทม์ไลน์มาให้ดูว่าตกลงซื้อแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน แต่ขอชำระเงินหลังแต่งงาน เจ้าของร้านก็ตกลง ให้เกียรติเขา เชื่อเขาเหมือนกัน” เขาเอามาให้เรา 25 บาท เป็นเท่าไหร่? “8.6 แสนบาท” เขาเอาทองมาจากร้านทอง แล้วไม่ได้จ่ายเงิน เอามาก่อนโดยใช้เครดิต คุณคิดว่าซื้อแล้ว พอหลังจากนั้นคุณเริ่มรู้สึกตัวเมื่อไหร่ว่าถูกหลอก? “เริ่มรู้สึกตัวหลังงานแต่ง เขาผลัดมาเรื่อยๆ พอถึงเวลากำหนดบินไปฮ่องกงเพื่อไปเบิกเงิน เขาก็ป่วย ไปรพ. ไปนอนจริงจัง เหมือนผลัดไปเรื่อยๆ เราก็คิดว่าทำไมคุณมีเงิน คุณโดนคนทวงขนาดนี้ ทำไมไม่รีบเอาเงินมาจ่าย” สรุปงานแต่งวันนั้นผ่านไปราบรื่น? “ใช่ ไม่มีปัญหาอะไรเลย” เป็นเครดิตทั้งหมด ไม่มีการจ่าย ทุกอย่างต้องจ่ายเงินหลังแต่งงาน แต่เขาไม่จ่าย? “ใช่ค่ะ เขาเลื่อนมาเรื่อยๆ ออแกไนซ์ก็ทวงเขาบอกว่ารอเงินจากฮ่องกง รอทำเรื่องโอนแต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย หลังๆ เขาไม่ตอบโรงแรม ไม่ตอบออแกไนซ์ จนหนูต้องมาตอบเอง แต่เขาโกหกหนูว่าตอบออแกไนซ์ ตอบโรงแรมไปแล้ว เราก็รู้สึกตรงนี้ บริสุทธิ์ใจจริงทำไมต้องหนี” ตอนนี้หย่าแล้ว? “หย่าเมื่อวานนี้ เขายอมหย่าค่ะ เขาก็ยืนยันคำเดิมว่ารอเงินจากฮ่องกง หนูยังคุยกับเขาดี แต่เรารอไม่ได้แล้ว เพราะต้องกู้หนี้มาจ่ายตรงนี้ตรงนั้น แต่เขาไม่กระตือรือร้นอะไรเลยอ้างแต่เรื่องฮ่องกงบินไปโน่นนี่นั่น”