วันที่ 17 ตุลาคม 2562 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) มีการแถลงผลการจับกุม น.ส.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล หรือ ดร.ลิเดีย ปริยันก้า อายุ 41 ปี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย กว่า 1,500 ล้านบาท มีผู้เสียหายกว่า 1,500 คนทั่วประเทศ พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร กว่า 20 เล่ม, โทรศัพท์–โน้ตบุ๊กรวม 10 เครื่อง, สลิปโอนเงิน เอกสารการเงิน กว่า 2,000 รายการ และเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัทของผู้ต้องหากว่า500 รายการ รถยนต์ BMW 1 คัน โฉนดที่ดินกว่า 10 รายการ
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 กลุ่มผู้เสียหายจากทั่วประเทศได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่า ถูกบริษัท โกลด์ ฟาเธอร์ 1978 จำกัด ที่มี ดร.ลิเดีย ปริยันก้า และ นายชนุตม์ สีสังข์ อายุ 44 ปี หรือ ดร.เอ สามี ชักชวนให้ลงทุนออมทอง โดยให้สมัครสมาชิกเป็นตัวแทนจำหน่ายทองคำ อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง ประกอบกับบริษัทดังกล่าวมีการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเก็งกำไรและขายทองคำออนไลน์ มีเว็บไซต์บริษัททำให้ดูน่าเชื่อถือ กลุ่มผู้เสียหายจึงหลงเชื่อและร่วมลงทุนด้วย
โดยในระยะแรก บริษัทมีการแบ่งผลกำไรกับกลุ่มผู้เสียหายจริง แต่ต่อมา บริษัทมีสมาชิกและลูกค้าจำนวนหลายพันราย มีเงินโอนเงินเข้าบริษัทเป็นจำนวนกว่า 1,500 ล้านบาท ดร.ลิเดีย ปริยันก้า และสามี จึงเริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่ส่งมอบผลตอบแทนตามเงื่อนไข ก่อนจะปิดบริษัทหลบหนีไป และถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยทาง ดร.ลิเดีย ปริยันก้า ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง
รายงานข่าวระบุถึงกรณีที่ ดร.ลิเดีย ปริยันก้า และ นายชนุตม์ อ้างว่า เรียนจบดอกเตอร์ จาก EDMONTON UNIVERSITY ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้น ดร.ลิเดีย ปริยันก้า อ้างว่าเรียนออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตกับมหาวิทยาลัยดังกล่าว และมีการส่งใบรับรองการจบการศึกษาโดยไม่ต้องไปรับที่สหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติมหาวิทยาลัยดังกล่าว พบว่ามีการปิดตัวไปนานหลายปีแล้ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ ดร.ลิเดีย ปริยันก้า พบว่า มีการเปลี่ยนชื่อนามสกุลมาแล้วจำนวน 6 ครั้ง และมีหมายจับในคดีฉ้อโกงตามท้องที่ต่างๆ อีก 10 คดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ และส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมเตรียมขยายผลติดตามเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงที่มีการยักย้ายถ่ายเทไปเป็นทรัพย์สินต่างๆ อีกหลายรายการ
ภาพและข้อมูลจาก brighttv, เดลินิวส์ออนไลน์, Kapook
by TVPOOL ONLINE