เรียกได้ว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของ สาวแอฟ งานนี้ทางด้านน้องสาวคนสนิทอย่าง สาวจุ๋ย ก็ได้ไปร่วมเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่สาว พร้อมกับพรั่งพรูความใจที่ทั้งคู่มีให้แก่กัน จนทั้ง สาวแอฟ และ สาวจุ๋ย ถึงกับกอดคอกันร้องไห้เลยทีเดียว ซึ่งต้องบอกเลยว่าจากคลิปที่ได้ดูนั้นทำให้เห็นว่าความรักที่พี่น้องต่างสายเลือดคู่นี้มีให้แก่กันและกันนั้นจริงใจมากๆ
มองตาก็รู้ใจกันแล้วใช่ไหม?
“คือจุ๋ยก็ไม่ได้รู้ใจ ว่าพี่แอฟคิด หรือต้องการอะไรขนาดนั้นนะคะ แต่การมองตา มันเป็นเหมือนการให้กำลังใจ การแสดงออกถึงความรักความจริงใจ ที่เราเป็นพี่น้องกันมา”
นับถือเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว?
“ใช่ๆ จุ๋ยรู้สึกว่าจุ๋ยหวังดีกับพี่แอฟ แล้วก็รู้สึกเป็นกำลังใจในทุกเรื่อง เหมือนเขาเป็นพี่เราจริงๆค่ะ คือถ้าทำอะไรให้ได้ ก็พร้อมจะทำให้อยู่แล้วค่ะ”
วันเกิดปีนี้ เราอวยพรอะไรให้พี่เขาบ้าง?
“แทบจะไม่ได้อวยพรอะไรเลย เป็นตามคลิปนั่นแหละ จริงๆก็อยากให้พี่แอฟมีความสุข จุ๋ยก็แค่บอกไปว่า จุ๋ยอยากให้พี่แอฟมีความสุข จุ๋ยอยากเห็นรอยยิ้มพี่แอฟนะคะ แล้วก็เป็นกำลังใจให้พี่แอฟทุกเรื่อง ทุกอย่างในชีวิตพี่แอฟ คือจริงๆมันพูดกันสั้นๆ ข้อความมันสั้นมากเลย แต่ว่าทั้งหมดมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ”
เราพูดความในใจกันบ่อยไหม?
“ก็ถ้าสมมติเวลาเราเจอกัน เราก็จะมากอดกัน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันค่ะ คิดถึงนะ ก็จะเป็นคำพูดเหล่านี้มากกว่า แต่จุ๋ยคิดว่าพี่แอฟก็คงไม่คิดว่าจุ๋ยจะมา เพราะมันเป็นการจัดงานที่เป็นของเหล่าแฟนคลับ ไม่ได้มีนักแสดงท่านไหนมาเลย เราก็เป็นคนเดียวที่ไป”
เรายกให้พี่แอฟเป็นพี่สาวคนพิเศษของเราเลยไหม?
“เป็นเพื่อน เป็นพี่สาวที่ดีมากๆคนหนึ่งในวงการเลย แล้วเขามาอยู่ในชีวิตเราตอนไหนก็ไม่รู้ แต่เมื่อไหร่ที่มีอะไร หรือนัดกันเมื่อไหร่ มันต่อกันติดเสมอค่ะ เชื่อว่าพี่แอฟก็สัมผัสได้ว่าเรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”
เราได้เตรียมอะไรไปให้พี่แอฟไหม ในวันนั้น?
“ก็มีของขวัญเล็กๆน้อยๆ แล้วทราบว่าพี่แอฟชอบอ่านการ์ดค่ะ จุ๋ยก็จะเขียนการ์ดของจุ๋ย แล้วก็ให้พุฒเขียนของพุฒค่ะ ให้พี่แอฟได้อ่าน ก็เป็นการอวยพร แต่ว่าพี่แอฟชอบอ่านความรู้สึกคน บางทีสิ่งที่เราคิดกัน มันถ่ายทอดเป็นคำพูดไม่ได้ ก็อาจจะเขียนด้วยการ์ด”
พอได้รู้จักพี่แอฟแล้ว เราทึ่งอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้?
“พี่แอฟเป็นไอดอลของจุ๋ยนะ เป็นตัวอย่างที่ดีของนักแสดงหญิงในวงการ ในการวางตัว ถึงแม้พี่แอฟจะไม่ได้เป็นนักแสดง หรืออะไรก็ตามที่มีชื่อเสียง แต่จุ๋ยเชื่อว่าเมื่ออยู่ข้างนอกพี่แอฟก็จะเป็นแบบนี้ เพราะว่าเขาเป็นคนแบบนี้ จิตใจดี ไม่เคยว่าใคร เวลาเรามาเจอหน้ากัน แทบไม่พูดถึงเรื่องคนอื่นเลย พูดแต่เรื่องกันเอง แล้วก็เหมือนเราแลกเปลี่ยนความสุขกันเอง ดังนั้นสิ่งที่พี่แอฟมีอยู่ในตัว มีจิตใจที่ดี มีความเข้มแข็ง แล้วก็เป็นกุลสตรีที่แท้จริง ซึ่งจุ๋ยเองก็ไม่สามารถจะทำได้ขนาดนั้น เวลาไปกินข้าวกับพี่แอฟคือ ถ้าจะหัวเราะหรือจะพูด พี่แอฟจะปิดปากเสมอ แล้วก็จะไม่พูดเวลากินข้าว คือเป็นกุลสตรีที่แท้จริงจริงๆ แบบหายากมาก”
เราได้ครึ่งแอฟไหม?
“เราจะคล้ายน้องปีใหม่ จะแนวทะโมนก๋ากั่น ปีใหม่ต้องได้น้าจุ๋ยมาแน่ๆ แต่เราก็อยู่ในที่สังคมทำอะไรรู้กาลเทศะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำ แต่อย่างที่แอฟเป็นกุลสตรีที่แท้จริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร แม้แต่กับเพื่อนหรือเป็นงานภายในก็วางตัวได้ดีเสมอ เป็นไอดอลจุ๋ย”
เป็นพี่น้องสนิทกันแบบนี้มีโอกาสจะได้กลับมาเล่นละครด้วยกันไหม?
ถ้าในโอกาสข้างหน้ามีโอกาสผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา เวลาชีวิตได้พอดีถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่แอฟจุ๋ยก็ยินดี เพราะเป็นคนที่เรารักอยู่แล้ว อยู่ที่โอกาส อยู่ที่บทบาท”
ละครปิดกล้องแล้วเดินเครื่องปั๊มลูกหรือยัง?
“เดินเครื่องเต็มที่ แต่ทุกอย่างมันก็อยู่ที่ร่างกายเราเนอะ ความเครียดเอย ภาวะร่างกายข้างในเอย เราไม่รู้ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือบำรุงตัวเองให้ดี ดูแลตัวเองให้ดีทั้งภายนอกภายใน ปรึกษาคุณหมอ ตรวจฮอร์โมนตรวจเลือดอะไรทุกอย่าง”
เรียกว่า จุ๋ย พุฒ โด้ปหนัก?
“ตอนนี้จุ๋ยลืมไปเลยนะเรื่องการดูแลหุ่นดีเช้งกะเด๊ะ แต่ว่าออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกินอาหารที่มีประโยชน์ กินอะไรที่รู้สึกว่ากินแล้วไม่ต้องเครียด แต่ก่อนหน้านี้จุ๋ยไม่สามารถทำแบบนี้ได้ทั้งหมดเพราะต้องเล่นละครอยู่ ยังไงในกล้องก็ต้องห้ามบวมเกิดเหตุ แต่ตอนนี้คือไม่ได้แคร์อะไรแล้ว ใช้ชีวิตตัวเองให้มีความสุขที่สุด”
พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหม?
“ถ้าจะขอคงขอให้ตัวเองสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากกว่า ในอนาคตถ้ามีน้องก็ขอให้เป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงดี มีพัฒนาการที่ดี ขอกว้างๆมากกว่า”
มีไปเช็คร่างกายเพิ่มเติมไหมว่าฟิตเฟิร์มทั้งคู่?
“อย่างที่เคยบอกไปว่าฮอร์โมนจุ๋ยสวิงนิดนึง ตอนนี้อาจจะเช็คการแพ้อาหาร บางทีเป็นอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราอาจจะไม่รู้เรียกว่าอยู่ในช่วงปรับร่างกาย กระจายความเครียดที่มีจากการงานออกไปให้มากที่สุด”
น้ำหนักขึ้นมาเยอะไหม?
“ก่อนหน้านี้ขึ้นมาเยอะกว่านี้อีก มันมีช่วงหนึ่งในละครถ้าสังเกตจะมีช่วงบวมๆ เพราะต้องทานฮอร์โมนเพื่อปรับ นี่ลดลงแล้วนิดนึง แต่การกินแต่ก่อนเราระวังมากเพราะกลัวน้ำหนักขึ้น ตอนนี้ไม่ต้องระวังแล้ว”
เรียกว่าได้เวลาแล้ว?
“เต็มที่ละ ถ้ามีมาจะรีบบอกจริงๆพยายามอยู่”