แอฟ ทักษอร เผยใน Talk a Teach ตอนหนึ่งถึงปัญหาความรักที่ผ่านมา ช่วงที่ยากที่สุด คืออะไรว่า ช่วงที่กระทบจิตใจมากที่สุด ไม่ใช่เป็นช่วงที่เราตัดสินใจ แต่เป็นช่วงก่อนตัดสินใจ ที่เราต้องมั่นใจว่า เราทำดีที่สุดแล้ว เราทนไป พยายามแก้ปัญหา ทนไป พยายามแก้ปัญหา จนสุดแล้ว มันไม่มีทางแก้ได้แล้ว เราถึงตัดสินใจ ช่วงที่เรา อดทนๆๆ พยายามๆๆ ทำ คือช่วงเวลาที่ยากที่สุด เสียใจ เสียน้ำตา มันต้องมีอยู่แล้ว และแอฟเป็นคนที่ต้องสุด ไม่งั้นตัดสินใจไม่ได้
สุดแค่ไหน คือ พยายามที่สุดแล้ว ปรับเปลี่ยนตัวเองทางไหน เราพยายามเข้าใจอีกฝั่งหนึ่ง อีกมุมหนึ่งที่สุดแล้ว พยายามมองข้ามมันที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายมันกลับมาอีก เราพยายามที่สุดแล้ว รวมทั้งการให้อภัย คนไม่รู้ตัดสินเราว่าทำไมไม่ให้อภัย กี่ร้อยกี่พันครั้งที่เราให้อภัย และเขาก็เคยให้อภัยเรา แต่ถ้ามันไปสุดทางแล้ว มันก็คือจบ และแอฟก็ได้ให้เวลาแล้ว คนชอบมองว่าเราเปลี่ยนไม่ได้หรอก แต่เราปรับกันได้ ปรับตัวกันได้ แต่ต้องให้เวลา แอฟใช้เวลาช่วงนั้นอย่างเต็มที่แล้ว “เราผ่านการขึ้นๆลงๆ เสียใจร้องไห้ เราไม่อยากเสียเวลากับเรื่องพวกนี้แล้ว วันหนึ่งที่เราเกิดเหตุซ้ำเดิมหรือใหญ่กว่าเดิมแล้วเราไม่ร้องไห้แล้ว เรานิ่งมาก คือ เราพร้อมแล้ว”
แอฟ เผยเหตุผล ทำไมให้ปีใหม่ลูกสาวไปเจอพ่อได้อย่างปกติขณะที่หลายคนอาจไม่ให้ไปเจอว่า เราไม่จำเป็นต้องไปบอกเขาว่าพ่อเป็นยังไง เขาจะได้เรียนรู้เอง เขามีประสบการณ์กับคุณพ่อเขายังไง อันนั้นไม่ใช่ส่วนของเราแล้ว เขาจะเรียนรู้เอง จากประสบการณ์ เหมือนกับที่เขาได้เรียนรู้จากแม่ เขาจะรู้ว่าแม่เป็นยังไงถามถึงกรณีพ่อแม่แอฟแยกทางกันแต่แอฟยังรู้สึกโอเค แอฟ เผยว่า ที่ชัดเจน คือ แอฟ และ น้องสาว ไม่เคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเลยสักครั้ง แยกกันตอนเราประถมฯ แต่จำไม่ได้ว่าอายุเท่าไหร่ อยู่ๆ พ่อก็แยกออกไป แต่ก็จะกลับมาหาทุกอาทิตย์ พาไปทานข้าว เรียนพิเศษ พาไปเล่น คุณพ่อสม่ำเสมอ ทำให้เรารู้สึกไม่ขาด
คุณพ่อคุณแม่ยังคุยกันได้เหมือนเดิม ย้อนไปตอนนั้น เขาก็อาจยังคุยกันไม่ได้ 100 % แต่เขาก็ทำเพื่อลูก ทำให้เราไม่เห็นความขัดแย้ง จากนั้นก็อีกนาน กว่าคุณพ่อจะแต่งงานใหม่ คุณแม่ยิ่งมาแต่งงานใหม่ ตอนอายุ 50 กว่าแล้ว ย้อนกลับไป จำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่รู้สึกไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้ก็อยู่คอนโดเดียวกัน 3 ครอบครัว ครอบครัวคุณพ่อ ครอบครัวคุณแม่ แอฟกับปี แต่คนละห้อง คนละชั้น ตอนนี้ก็ไม่ได้บอกอะไรกับลูก เพราะเขายังเล็ก
