สำหรับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดความลับ ช่อง 9 อสมท. กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นป.ป.ช.ให้ตรวจสอบที่ดิน ภบท.5 กว่า 1,700 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่า ที่ดินดังกล่าวได้มานานมากแล้ว เป็นที่ดินที่รัฐบาลโดยกรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าไปทำกินได้และเสียภาษีดอกหญ้ามามากกว่า 10 ปี ทำทุกอย่างถูกต้อง
เมื่อถามว่าเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิแต่ได้รับการจัดสรรจากกรมป่าไม้ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ไม่ได้รับการจัดสรร คือเข้าไปใช้ประโยชน์ได้แต่ต้องเสียภาษี เมื่อถามว่าใครอนุญาต น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เป็นกฎหมายใครเข้าไปใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรได้ แต่ต้องเสียภาษี ซึ่งครอบครองมานานตั้งแต่ยังไม่ได้เลี้ยงไก่ ก็ปลูกอ้อย ปลูกส้ม เลี้ยงหมู ทำหลายอย่างนานแล้ว
ถามว่านายเรืองไกรค้นข้อมูลว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินปี 2557 แต่ไม่ได้ระบุถึงพื้นที่ 1,700 ไร่นี้ ได้มาหลังปี 2557 หรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ไม่ใช่ได้มา ไม่มีใครได้ทั้งนั้น เป็นที่ของหลวงแต่เราเข้าไปทำประโยชน์ได้ ที่ดิน ภบท.5 ไม่ใช่ของใคร เป็นของป่าไม้ที่อนุญาตให้ทุกคนเข้าไปทำกินได้ มีเยอะมากทั่วประเทศ
เกษตรกรทุกคนก็ทำลักษณะเดียวกับตน คือครอบครองทำกิน เสียภาษีแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ เราแจ้งบัญชีทรัพย์สินไม่ได้เพราะไม่ใช่ของเรา แต่การยื่นบัญชีทรัพย์สินปี 2562 ป.ป.ช.ขอให้แจ้ง แต่ไม่ได้แจ้งว่าเราเป็นเจ้าของ ป.ป.ช.ขอความร่วมมือว่าถ้ามีที่ดินของกรมป่าไม้ที่เข้าไปทำกินอยู่ก็ให้แจ้งด้วย จึงแจ้งไป มีส.ส.หลายคนต้องแจ้งเรื่องนี้
เมื่อถามว่าที่ดินภทบ.5 เรียกว่าที่ดินมือเปล่า ใครเข้าไปครอบครองไม่ได้จึงอาจเรียกว่าเข้าไปทำประโยชน์หรือบุกรุกในที่ต้องห้าม น.ส.ปารีณา กล่าวว่า มันแตกต่างกันระหว่างเข้าไปทำประโยชน์กับบุกรุก ที่ดินภบท.ต่างๆ มีหลายประเภท ประเภทป่าชุมชนอย่างกรณีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกชาวบ้านขอคืน และมีประเภทป่าไม้สงวนรกร้างที่เข้าไปทำประโยชน์ได้เลย และป่าไม้ประเภทที่ไม่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ไม่ว่าจะเก็บเห็ดหรือหาอึ่ง
เมื่อถามว่าที่ดินภทบ.5 ของน.ส.ปารีณา และนางสมพร ก็อยู่ในเขตต.รางบัว อ.จอมบึง น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ตนอยู่หมู่ 6 เขาอยู่หมู่ 13 คาบเกี่ยว 3 หมู่บ้าน มีภทบ.5 กับนส. 2 ซึ่งชาวบ้านขอคืนเพื่อไปทำป่าชุมชน และเข้าไปทำประโยชน์ในนั้น แต่นส.2 เกิดคำถามว่าที่ดินประเภทนี้ซื้อขายไม่ได้และผิดกฎหมาย ให้เป็นมรดกตกทอดเท่านั้น และนางสมพร ไม่ใช่คนในพื้นที่ ซึ่งนางสมพรยินดีคืนให้แล้ว
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า มีคนส่งคลิปทั้งเสียงและภาพที่น.ส.ปารีณาให้สัมภาษณ์มาให้ตนเยอะมาก ได้สอบถามและสั่งการกรมป่าไม้ตรวจสอบและให้รายงานมาที่ตนเร็วที่สุด
ตนมี 2 มุมมองคือการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน น.ส.ปารีณา จ่ายภาษีส่วนไหนก็ให้แจ้งส่วนนั้นด้วย เพราะถ้าไม่แจ้งจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกประการคือการครอบครองพื้นที่ป่า กำลังตรวจสอบว่าอยู่ในระยะเวลาไหน อย่างไร และต้องดูที่ต้นตอการได้มา ถ้ามองในแง่หนึ่งคืออาจเสียภาษี ภทบ.5 มาก่อนหน้านี้ และเสียไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการตรวจสอบใดๆ และหากบุกรุกป่าจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ตรวจสอบรายการที่ดินภบท. 5 ที่น.ส.ปารีณา แจ้งต่อป.ป.ช.แล้ว โดยตรวจสอบแนวเขตป่าว่าพิกัดอยู่ในบริเวณใด พื้นที่เดียวกับน.ส.ปารีณาครอบครองหรือไม่ ถึง น.ส.ปารีณาจะพูดชัดว่าเสียภาษีบำรุงท้องที่มากว่า 10 ปี
แต่ตามหลักการแล้วเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันพิกัด และต้องดูข้อกฎหมายเพิ่มเติม เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแนวป่าที่กรมป่าไม้มอบให้ส.ป.ก.ด้วย ถึงแม้จะเป็นที่ดินส.ป.ก. น.ส.ปารีณาก็ไม่น่าจะมีคุณสมบัติครอบครอง ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด
รายงานข่าวจาก ทส.แจ้งว่า การครอบครองที่ดิน ภทบ.5 ถือเป็นการครอบครองที่ดินมือเปล่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ รองรับ ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 (30) ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น มาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น กรณีครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา เหมือนกรณีในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และกรณีเขายายเที่ยง ของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ที่ครอบครองที่ดินมือเปล่าไร้เอกสารสิทธิ์
ที่สำคัญสิ่งที่น.ส.ปารีณาให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวเหมือนรับสารภาพว่าบุกรุกที่ป่า ถือว่าจบและดำเนินคดีได้เลย ซึ่งพื้นที่ภทบ. 5 โดยหลักไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครองและไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ กระทรวงมหาดไทยออกกฎมาแล้วว่าไม่ให้อปท.ซรับเก็บภาษีบำรุงท้องที่ เพราะเป็นที่ดินผิดกฎหมาย และเป็นความเข้าใจผิดของชาวบ้านว่าเสียภาษีดอกหญ้าแล้วเป็นการทำตามกฎหมาย
ส่วนกรณีนางสมพรนั้น ต้องดูเจตนาและการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ โดยซื้อที่ต่อมาจากบุคคลอื่นในลักษณะแปลงรวม เบื้องต้นยังไม่พบการเข้าไปใช้ประโยชน์หรือมีการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ คณะกรรมการร่วมของกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบพิกัดให้ชัดเจน
