เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เรียกว่าติดลมบนเป็นผู้ประกาศอันดับต้นๆ ของประเทศไปแล้ว สำหรับ จั๊ด ธีมะ ด้วยลีลาการพูด การวิพากษ์วิจารณ์แบบตรงไปตรงมา ซึ่งแฝงไปด้วยมุกตลก เสียดสี และเข้าใจง่าย

ธีมะ ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ วันดีคืนร้าย ซึ่งออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 15.10 น. ทางช่อง One31 ดำเนินรายการโดย บุ๋ม ปนัดดา และ นีโน่ เมทนี เผยเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พร้อมพูดถึงการเปิดช่องยูทูบวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล จนต้องกลายเป็นคนตกงานโดยไม่รู้ตัว แถมเคยถูกวัยรุ่นข่มขู่ถึงบ้าน ปาระเบิดใส่ และจุดไฟเผาประตูบ้านอีกด้วย

คุณเคยขาลงแบบมึน ๆ ทำงานคืนวันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่พอถึงวันจันทร์ ตกงาน ?

จั๊ด ธีมะ : เป็นดีเจตั้งแต่ปี 2546 ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 3 แล้วจากนั้นก็มีงานดีเจมาเรื่อย ๆ แสดงละคร ภาพยนตร์บ้าง กระทั่งหมดสัญญากับอาร์เอส ก็ออกมาเป็นดีเจอิสระ ก็ได้โอกาสไปจัดรายการที่คลื่นหนึ่ง

ผมเคยไปนั่งคุยกับครูลูกกอล์ฟ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย เขาบอกว่า “เฮ้ย พี่จั๊ด ตอนนี้ยูทูบเปิดโอกาสให้เราทำคลิปแล้ว” ตอนนั้นยูทูบถือว่าใหม่สำหรับเรา โดยช่วงนั้นปี 2554 กรุงเทพฯ เกิดน้ำท่วมใหญ่ ผมนึกครึ้มอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบ ผมก็ลองเปิดยูทูบและทำคลิปในห้องนอนตัวเองที่บ้าน วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เรื่องการจัดการน้ำท่วม ผมทำคลิปและอัปโหลดไปวันพฤหัสบดี ได้รับการตอบรับพอสมควร คนพูดถึง คนเอาไปแชร์ พอวันจันทร์มีโทรศัพท์มาบอกว่า ขอยังไม่ให้มาจัดรายการดีกว่า ผมก็รู้ตัวแล้วว่าโดนพักจัดรายการ เขาบอกพัก 1 สัปดาห์ แต่พอผ่านไป 1 สัปดาห์ ผมถามว่าผมเข้าไปทำงานได้หรือยัง เขาบอกว่ายัง จนพักมา 1 เดือนแล้ว ก็คิดในใจว่าคงไม่ใช่การพักแล้วล่ะ คงเป็นการให้ออกแล้ว โดยช่วงนั้นสถานีวิทยุสถานีนี้ก็อยู่ในช่วงขาลงด้วย มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับการจัดการบริษัท ก็เลยกลายเป็นว่าออกและว่างงาน เพราะตอนนั้นงานบนหน้าตักเรามีอย่างเดียว

การจัดรายการวิทยุ ถามว่าเพียงพอต่อการดำรงชีพไหม ถ้าคนเดียวก็พอ แต่ถ้ารับผิดชอบมีภาระอย่างอื่นด้วย มันก็ไม่พอ นี่เป็นสาเหตุที่ลูกกอล์ฟบอกผมว่าต้องลองหางานใหม่ ซึ่งการเปิดโอกาสให้ตัวเองหางานใหม่ เช่น งานในวงการบันเทิง มันจะโทร. ไปสมัครงานไม่ได้ ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง เราก็นั่งจ้องโทรศัพท์ทั้งวัน ว่าเมื่อไรจะมีคนโทร. มาเพื่อใช้งานเรา ทำให้เรารู้สึกว่ามันช้าไป ถ้าไม่มีคนจ้างเราเลยจะทำยังไง เราก็เลยเปิดหน้าลงยูทูบ แต่กลายเป็นว่าการเปิดหน้าในยูทูบคืนนั้น นำมาสู่คืนร้ายคือการตกงาน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนตลอดชีวิตในการทำงานประจำที่จัดวิทยุตั้งแต่ปี 3

ตอนนั้นเครียดไหม ?

จั๊ด ธีมะ : เครียด เพราะรายได้ที่ต้องใช้จ่าย จ่ายตัวเองไม่พอ มีบ้านต้องผ่อน ต้องดูแลคุณแม่ เพราะคุณแม่ไม่ได้ทำอะไร

รู้สึกไหมว่าไม่น่าทำคลิปนั้นเลย ?

จั๊ด ธีมะ : ตอนนั้นมีอยู่แล้ว เพราะวันที่ไม่มีอะไรบนหน้าตัก โอ้โห มันเคว้งเลย คนเราทำงานทุกวัน แต่ต้องมาอยู่บ้าน มันเกิดอะไรขึ้น เราจะเอาอะไรมากินต่อไป ตอนแรก ๆ ที่เป็น โอ้โห ไม่น่าเชื่อว่าผลกระทบรุนแรงขนาดนี้ ผมจิตตกได้เดือนกว่า ๆ มีโทรศัพท์มาจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานีทางการเมือง เขาบอกว่าอยากให้ไปจัดรายการให้ จัดเหมือนในยูทูบนั่นแหละ แต่เป็นการพูดข่าว ชื่อรายการ ฟ้าทะลายโจร เราก็อยากได้งาน คราวนี้เป็นวิจารณ์ข่าวล้วน ๆ แต่มีความยากในเนื้องาน เพราะผมจบนิเทศศาสตร์มา ตอนทำกิจกรรมทั้งหมดในชีวิตที่ผ่านมา ผมเน้นสายฮาอย่างเดียว มอบความบันเทิงอย่างเดียว เปิดเพลงคุยให้ตลก เปิดสัมภาษณ์ศิลปิน คราวนี้มันหัก พลิกเลย เราต้องมาจัดรายการวิเคราะห์ข่าวการเมือง 1-2 ปีแรก บอกเลยทำการบ้านหนักมาก

ช่วงว่างงาน อยู่ดี ๆ กลับมาไปอยู่สถานีข่าวการเมือง และการเมืองแรงมาก แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ที่บ้านเป็นห่วงไหม ?

จั๊ด ธีมะ : ผมอยู่กับแม่และพี่สาว อยู่กัน 3 คน ตั้งแต่เด็ก ที่บ้านไม่แสดงออกถึงความเป็นห่วง ที่บ้านไม่ดูข่าวแบบนี้ เขาดูหนัง ละคร เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยดูข่าวจริงจัง แต่เริ่มมาห่วงตอนมีอันตรายเข้ามากระทบ

เคยโดนขู่ไหม ?

จั๊ด ธีมะ : โดนขู่ไม่เคย แต่เคยหนักสุดคือโดนปาระเบิดเลย ไม่ใช่ระเบิดสังหารนะ เป็นระเบิดขู่ ๆ นี่แหละ เหมือนระเบิดเพลิงที่วัยรุ่นเขาชอบทำกัน เอาขวดใส่น้ำมันแล้วเขวี้ยงใส่บ้าน เอาน้ำมันมาราดตรงหน้าประตูบ้าน ราดแล้วจุดไฟเผาประตู ตั้งแต่วันนั้นที่แม่แสดงความกลัว (หัวเราะ) แม่อยู่ในบ้านทั้งวัน ผมออกมาทำงานไง (หัวเราะ) คุณแม่ไม่นอนบนห้องตอนช่วงเกิดเหตุแรก ๆ มานอนเฝ้าประตูบ้าน

ล่าสุดใส่ กกน. จัดรายการ ?

จั๊ด ธีมะ : (หัวเราะ) ผมพูดถึงเรื่องที่ต้องโหวตร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ แล้วเสียงมันปริ่มน้ำมาก มันก้ำกึ่งมากเลย ก็เลยบอกว่า ส.ส. แต่ละคน ห้ามลุกไปเข้าห้องน้ำนะ เพราะถ้าคุณลุกไปเข้าห้องน้ำแล้ว ตัวประธานสั่งโหวตตอนนั้น ฝั่งคุณเสียคะแนนเลยนะ ผมก็เลยเอาผ้าอ้อมผู้ใหญ่ใส่ บอกว่าคุณ ส.ส. คุณควรใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ถ้าปวดก็ใส่กลางสภาไปเลย ไม่มีคนรู้ แต่ผมต้องใส่ข้างนอกไงให้คนดูเห็น รายการข่าวช่องวัน เราเป็นช่องทีวีดิจิทัลวาไรตี้ เราไม่ได้หมายความว่าให้ดูข่าวทั้งวันทั้งคืนแบบเครียด ๆ เราจึงต้องปรับตัว ตอนแรกไม่คุ้นชินเลยครับ ไม่คุ้นชินกับการเล่าข่าวอาชญากรรมเยอะ ๆ เรื่องหวยเยอะ ๆ แต่พอทำไปทำมา เราก็ทราบว่าลักษณะช่องข่าวเป็นอย่างไร เรตติ้งเป็นยังไง คนดูคือใคร ก็ปรับเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ กระทั่งผมจับทางได้ว่ารายงานข่าวของเราไม่ได้อยู่ในสถานีโทรทัศน์ข่าว เรามาทางสายฮาแบบที่เราเคยทำ ผสมกับข่าวยาก ๆ เล่าย่อยง่าย ๆ จะเป็นอะไรที่ดีมาก

คุณถึงขนาดใส่วิก ?

จั๊ด ธีมะ : วันที่ใส่วิก เป็นสัปดาห์ที่มีข่าวเกี่ยวกับประกาศระเบียบตัดผมของเด็กในโรงเรียน ผมคิดว่าเด็กเดี๋ยวนี้สาวเร็ว ให้เขาไปตัดถึงติ่งหู มันก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเรียน เด็กผู้ชายเป็นหนุ่มแล้ว ไปไถซะน่าเกลียดเลย ผมก็คิดว่าจะเสนอข่าวนี้ยังไง เพราะทุกช่องเสนอข่าวแบบนี้เหมือนกันหมด ผมก็เลยเปรียบเทียบว่าถ้าผมใส่วิกแล้วผมมานั่งรายงานข่าว เวลาคุณดูผม คุณดูข่าวหรือดูวิกที่ผมใส่ล่ะ คุณภาพในการรายงานของผมไม่ได้อยู่ที่ทรงผมนะ ผมจะทรงผมอะไรก็ตาม ถ้าผมรายงานข่าวแล้วคุณเข้าใจ ผมก็ถือว่าผมประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับนักเรียน ไม่ถึงขนาดเปิดเสรีถักเดรดล็อกไปเรียนนะ แต่เอาให้เท่าที่ควร ไม่น่าเกลียด ผมก็เอามาเสริมให้คนติดตามข่าว