เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
“บุ๋ม ตรีรัก” ได้เปิดใจทุกเรื่องราวในรายการแฉ โดยเปิดใจว่า เธอมีทุกวันนี้ได้เพราะย่านาค ที่ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนจากการได้รับบทนางเอกละคร แม่นาคพระโขนง เมื่อปี 2532 จากคนที่ไม่มีอะไรเลย ชีวิตกลับพลิกฟื้นขึ้นมาในบัดดล
“บุ๋ม ตรีรัก รักการดี”เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ยากลำบาก ชีวิตวัยเด็กอยู่กับครอบครัวที่มีธุรกิจค้าขายร้านขายส่ง บ้านตึกแถว 3 คูหา  ชีวิตสุขสบาย ได้เรียนในโรงเรียนดังๆ  คาดหวังกับชีวิตว่าเมื่อเรียนจบเมืองไทย จะไปเรียนต่อเมืองนอก แต่แล้วชีวิตก็เปลี่ยน เมื่อธุรกิจครอบครัวล้ม จนที่บ้านต้องขายทุกอย่างใช้หนี้  เธอจึงคิดว่าหนทางเดียวที่จะฉุดชีวิตตนเองขึ้นมาได้คือการเข้าวงการบันเทิง มดดำ : แต่ก่อนที่บ้าน ครอบครัวมีรายได้วันละแสน
บุ๋ม :  ก็ครอบครัวคนจีนค้าขายธรรมดานี่แหละค่ะ ก็ขายส่งขนมจีน แล้วก็ร้านโชห่วย ซึ่งแต่ก่อนร้านสะดวกซื้อยังไม่มีในประเทศไทย ตึกแถว 3ห้อง เป็นร้านขายส่ง ขายทุกอย่าง ข้าว น้ำตาล ฯลฯ แล้วเราก้มีโกดังของเรา สมัยเรียนโรงเรียนราชินี  หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเช็กออเดอร์  ลูกหลานคนจีนจะสอนให้เรารู้จักทำมาหากิน ค้าขายแต่เด็ก ก็จะไปรับออเดอร์ตามร้านโชห่วยเล็กๆ เราก็จะไปเช็กออเดอร์ แล้วก็แพ็กของ ยกของ ชีวิตเลยคุ้นเคยกับการยกลังเบียร์ (หัวเราะ) เราทำงานแบบนี้มาแต่เด็ก ไม่เคยรู้สึกว่ามันแปลก
มดดำ : อะไรเกิดขึ้นกับชีวิต เพราะค้าขายดูแล้วไม่น่าจะจน ยิ่งค้าขายเครื่องอุปโภค บริโภค บุ๋ม : คือ จริงๆ ไม่จนหรอก คือ คุณพ่อไปเล่นการพนัน เราเลยมีความคิดว่าเราไม่ชอบคนที่เล่นการพนัน คนเจ้าชู้ และนิสัยดุเป็นช้างเท้าหน้าแบบคุณพ่อ คุณพ่อเป็นคนโบราณ ต้องเป็นช้างเท้าหน้า แม่เป็นช้างเท้าหลัง ก็เลยบอกกับตัวเองว่า ถ้าฉันโตขึ้นจะไม่มีแฟนแบบพ่อเด็ดขาด จะไม่คบผู้ชายติดพนัน เจ้าชู้ ชอบเป็นช้างเท้าหน้าและมีหนวดแบบพ่อ (หัวเราะ) มดดำ : ชีวิตของคุณจากที่มีบ้าน มีรถ สุดท้ายที่บ้านก็ไม่มีอะไรเหลือเลย

 

 

 

บุ๋ม : คุณแม่ต้องขายใช้หนี้หมดเลย ที่ดิน ตึกแถว โรงงาน ขายหมด เครื่องเพชรที่มีเป็นเซ็ต นพเก้า ที่มี 9 สี ที่เห็นมาแต่เด็ก เราคิดว่าตอนโตเราสบายแล้ว สุดท้ายเครื่องเพชรก็ต้องขายทิ้ง แต่โชคดีว่าคุณป้าค่อนข้างมีฐานะเขาก็เลยรับพวกเราไปดูแลต่อ มีบ้านให้เราอยู่ เพียงแต่ว่าเราไม่ใช่เป็นเจ้าของ เพราะฉะนั้นเราอึดอัด มดดำ : ไปอาศัยเขาอยู่ว่างั้น บุ๋ม : ใช่ มีความรู้สึกนี้ คือ คุณป้าใจดีนะ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง โซฟา เตียงนอนมันไม่ใช่ของเรา เราเลยอึดอัด เพราะเราเคยมีของเราเอง พี่เป็นคนหัวแข็ง คิดว่า ฉันต้องมีของฉันให้ได้ ให้เร็วที่สุด ก็เลยพยายามเข้าวงการ

มดดำ :  ก็เลยเข้าวงการด้วยการประกวดหนุ่มสาวแพรว

บุ๋ม : ใช่ พี่เป็นดาวคณะที่มหาวิทยาลัยก่อน ก็เลยมั่นใจว่าเรามีตำแหน่งดาว จริงๆก็ไม่ได้สวยสุดหรอก แต่ความมั่นใจเกินร้อย

มดดำ : รุ่นของพี่ก็มี ก้อง ปิยะ

บุ๋ม :  ใช่ นี่ถ้าไม่มี ก้อง ปิยะ พี่จะไม่ได้ดาวคณะ เพราะเขาช่วยด้วยการให้เรายืมรองเท้าคัตชูของเขา จริงๆไม่รู้จักนางนะ เราอยู่คนละกลุ่ม วันนั้นพี่ใส่รองเท้าแตะ แล้วกฎก็คือ ถ้าไม่เปลี่ยนรองเท้าประกวดไม่ได้ เพราะเราไม่มีรองเท้าคัตชู เขาห้ามใส่รองเท้าแตะ  แล้วก้อง ปิยะ เขามาจากไหนไม่รู้ เขาเดินมา เธอๆ เดี๋ยวฉันให้ยืม แล้วตอนนั้นไม่รู้จักกันด้วย บังเอิญรองเท้าเบอร์ 7 เหมือนกัน ก็เลยยืมรองเท้าเขา แล้วนั่นคือทำให้พี่ได้เดินประกวดดาว ก้อง ปิยะ เลยเป็นคนที่เราจำเขาไม่เคยลืมเลย

มดดำ : ในที่สุดก็มาเป็นดารา อาชีพที่ทำให้ฟื้นขึ้นได้

บุ๋ม : แน่นอนเลยค่ะ งานในวงการทำเงินได้ มากกว่าเรียนจบไปเป็นสาวออฟฟิศ พี่เริ่มจากประกวดหนุ่มสาวแพรว  พอปลายปีไปประกวดดาวรุ่งช่อง3  ได้รับเลือกไปรับบท แม่นาคพระโขนง เราได้ไปขอพรท่าน แล้วก็ได้ดั่งใจ คิดดูนะละครดังเป็นกระแส 1-2ปี  ทำให้พี่มีเงินเก็บ พี่ซื้อบ้านทาวน์เฮาส์ ให้พ่อแม่และน้องชาย พาเขาทั้งหมดกลับมาอยู่ที่ กทม. พี่พยายามเก็บเงินๆๆๆ อย่างเดียวเลย ภายในเวลาแค่ 2ปี จากที่ก่อนหน้านี้ไม่เหลืออะไรเลย

มดดำ : พี่คิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะแม่นาคพระโขนง

บุ๋ม : เพราะพี่ขอพรท่าน อุ๊ย! ขนลุกเลย

มดดำ : ที่พบปาฏิหาริย์อะไรจากแม่นาค

บุ๋ม: โดนเลยค่ะ ตั้งแต่ท่องบทในอพาร์ทเมนต์หญิงล้วน อยู่ดีๆ ได้กลิ่นธูปมา ตอนนั้นประมาณ 3ทุ่ม แล้วพี่อยู่ห้องริม ไม่มีห้องอื่นแล้ว เราก็ยกมือบอกย่าคะ หนูขออนุญาตนอนก่อนนะคะ เหมือนขอขมา พี่ก็ยังเด็กอยู่ตอนนั้น ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า พี่ขอขมาแล้วนอนคลุมโปงเลย ก็ไปบอกคนในกองถ่าย เขาก็ให้ไหว้ขอขมา แล้วทุกวันถ่ายละครพี่ต้องจุดธูป 1 ดอกก่อนเล่นละคร พี่ไม่รู้ว่าพี่ลืมจุดธูปก่อนหรือเปล่าวันนั้น มีวันหนึ่งถ่ายนอกสถานที่เป็นฉากเผาท่าน ฉากที่ท่านเสียชีวิตแล้ว แล้วพี่ก็ลืมจุดธูปไหว้ วันนั้นถ่ายกันไม่ได้เลย แถวที่ถ่ายปกติจะไม่มีรถผ่าน วันนั้นรถวิ่งผ่านเยอะจนถ่ายไม่ได้ เขาก็เลยบอกว่า บุ๋ม ลืมอะไรหรือเปล่า เราก็ลืมจุดธูปไหว้ขอเล่นละครกับท่าน พอจุดธูปไหว้แล้วก็ถ่ายได้ จริงๆ เป็นอย่างนี้ตลอด

บุ๋ม : แล้วไม่นานนี้แต่ก็หลายปีล่ะ พี่ก็ลองขอ เพราะไม่เคยฝันถึงท่าน ก็อยากเห็นท่าน พี่ก็อธิษฐานอีก เพราะพี่ถ่ายรูปท่านบูชาไว้ในห้องพระด้วย ก็บอกว่า หนูไม่เคยเห็นท่าน ไม่เคยฝันถึงท่าน หนูอยากรู้ว่าท่านหน้าตายังไง

มดดำ : อย่าบอกว่าเห็นนะ

บุ๋ม : คืนนั้นเลยค่ะ แล้วเห็นยังไงรู้มั้ย เห็นเป็นเงาดำๆ นั่งหันข้าง ผมยาวถึงเอว นุ่งโจงกะเบน และผ้าแถบเหมือนที่ถ่ายในละคร  แล้วก็รูปร่างเล็กๆแบบเรา พอตื่นขึ้นมารีบบอกคุณแม่เลย แม่เมื่อคืนท่านมาด้วย นับจากวันนั้นก็ไม่กล้าจุดธูปเพื่อเห็นท่านอีกเลย แต่เวลามีปัญหากลุ้มใจ พี่จะไปไหว้ที่วัดมหาบุศย์  แล้วทุกวันเกิดของพี่ก็จะทำบุญสังฆทานให้ท่านและพี่จุกลูกของท่านด้วย  เวลาเรามีปัญหาหนักๆ ก็จะอธิษฐานขอท่านช่วย ขอพรท่านตลอดเวลา

มดดำ : แสดงว่า ครั้งหนึ่งที่ครอบครัวพี่ล้มละลาย ปลดหนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากย่านาค
บุ๋ม : ใช่ค่ะ จริงๆ