เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ศาลชั้นต้นยกฟ้อง สันธนะ ประยูรรัตน์ พร้อมพวกรวม 11 คน คดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์พ่อค้าแม่ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองหลังเจ้าของตลาดให้การยัน แต่งตั้งนายสันธนะเป็นประธานที่ปรึกษา ส่งลูกน้องเก็บเงินผู้ค้าร้านละ 1,000-3,000 บาทต่อเดือน เพื่อนำมาใช้จ่ายดูแลส่วนกลาง ทั้งจ้าง รปภ. พนักงานทำความสะอาด และดูแลที่จอดรถ เจ้าตัวประกาศฟ้องกลับตำรวจผู้เกี่ยวข้อง 3 ระดับ ทั้งผู้ใช้อำนาจรัฐระดับสั่งการ ระดับผู้บังคับบัญชาและฝ่ายปฏิบัติการ

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 . วันที่ 17 .. ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีพนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสันธนะ หรือ ...สันธนะ ประยูรรัตน์ (ถูกถอดยศเมื่อวันที่ 24 ..61) อายุ 60 ปี อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาลฐานะประธานที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด นายชนะโชติ หรือตั๋ม สุขสุคนธ์ อายุ 41 ปี นายวรรณชัย หรือแก้ว ใจเรือง อายุ 37 ปี นายวันเพ็ญ ผิวดำดี อายุ 52 ปี นายสิริชัย หรือชัย เหล่ากุลประสิทธิ์ อายุ 66 ปี นายประนอม หรือนอม แก้วสวัสดิ์ อายุ 60 ปี นายกฤษณะ หรือตั้ม หลำรอด อายุ 42 ปี นายคเณศ หรือต้น เปรมครุฑ อายุ43 ปี นายอดิศักดิ์ หรือโต้ง จันทร์ศรี อายุ 40 ปี นายอนุชา หรือทอม วรเดช อายุ 54 ปี และนายอนุ หรือตุ๋ย สุขสุคนธ์อายุ 42 ปี เป็นจำเลยที่ 1-11 ฐานความผิดร่วมกันกรรโชกทรัพย์และซ่องโจร

คดีนี้อัยการยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 11 คน เมื่อวันที่ 29 มิ..61 ระบุพฤติการณ์ระหว่างเดือน ..-เม..59 สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปจับกลุ่มปรึกษาและตกลงกันเพื่อกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย 19 รายเป็นผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง จำเลยแบ่งออกเป็นกลุ่มประมาณ 3-5 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปที่ร้านค้าเรียกเก็บเงินรายเดือนจากผู้ค้าที่เช่าพื้นที่ในตลาดใหม่ดอนเมืองร้านละ 1,000-3,000 บาท ค่าจอดรถอีกเดือนละ 700 บาท ส่วนรถ จยย. 300 บาท เก็บเงินทุกปลายเดือนพวกจำเลยมีพฤติกรรมลักษณะข่มขู่คุกคามผู้ค้า ทำให้เกิดความหวาดกลัวหากไม่ยอมจ่ายเงิน อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในการค้าขาย จำเลยทั้ง 11 คนร่วมกันกรรโชกทรัพย์รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 750,000 บาท

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานตามที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า ผู้เสียหายที่ 1 ผู้เสียหายที่ 2 และผู้เสียหายที่ 3 ต่างเบิกความยืนยันถึงการเรียกเก็บเงินของกลุ่มจำเลย ตามที่มีการเรียกเก็บมีระยะเวลาต่อเนื่องนานนับปี ผู้เสียหายทั้ง 3 ล้วนเคยจ่ายให้ผู้ที่มาเรียกเก็บที่อยู่ในทีมบริหารชุดก่อน ทุกครั้งที่เรียกเก็บกลุ่มจำเลยไม่ได้พกพาอาวุธไม่เคยพูดจาใดๆอันเป็นการข่มขู่เพื่อให้จ่ายเงิน ภายหลังจ่ายเงินตามที่เรียกเก็บยังจัดทำเอกสารเป็นหลักฐานเก็บเงินเอกสารหลักฐานการรับเงินระบุจำนวนเงินถูกต้องตามที่ผู้เสียหายทั้ง 3 เบิกความ แต่ละฉบับระบุเล่มและเลขที่แตกต่างกันไป สอดคล้องกับคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 9 ผู้เสียหายที่ 12 ผู้เสียหายที่ 13 และพยานปากอื่นที่จ่ายเงินตามที่ถูกเรียกเก็บ ต่างเต็มใจจ่ายเงิน

นอกจากนี้ นายสุชาติ โชว์วิวัฒนา ประธานผู้บริหารโครงการตลาดใหม่ดอนเมือง เบิกความยืนยันว่า แต่งตั้งจำเลยที่1 เป็นที่ปรึกษา และมอบหมายให้จำเลยที่ 2-11 เป็นพนักงานเก็บเงิน เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายว่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยและทำความสะอาด นายสุชาติเป็นผู้บริหารโครงการตลาดใหม่ดอนเมือง ย่อมมีส่วนรับผิดชอบโดยตรงการดูแลกิจการค้าขาย การเก็บเงินอยู่ในความรู้เห็นของนายสุชาติ สอดคล้องกับที่ผู้เสียหายกับผู้ประกอบการร้านค้าเบิกความรับว่า ต่างได้รับประโยชน์ตอบแทนทำให้การค้าเป็นไปโดยราบรื่น ไม่ได้ถูกข่มขู่หรือบังคับจากกลุ่มจําเลย การเรียกเก็บเงินของกลุ่มจำเลยเป็นรูปแบบการประกอบธุรกิจที่ต่างคนต่างถือเอาประโยชน์พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

ผู้เสียหายคดีนี้และผู้ประกอบการร้านค้าอีกหลายปากต่างเบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเข้าตรวจค้นในโครงการตลาดใหม่ดอนเมือง ไม่ปรากฏมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มจำเลยเรื่องการกรรโชกทรัพย์มาตั้งแต่ต้น แต่เพิ่งร้องทุกข์ดำเนินคดีจำเลยที่ 1-11 ภายหลังจากการเข้าตรวจค้นของตำรวจเกี่ยวกับการขายสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมาย หากไม่มีการตรวจค้นดังกล่าวคงไม่มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับจำเลยทั้งหมดเป็นการผิดวิสัยบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ร้องทุกข์ตั้งแต่ต้น แต่ยังคงจ่ายเงินนานนับปี ทั้งที่ถูกกรรโชกทรัพย์ด้วยการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มิหนำซ้ำยังต้องสูญเสียเงินแต่ละเดือนตลอดไปด้วย พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักให้พอฟังลงโทษจำเลยทั้ง 11 คนได้ พิพากษายกฟ้อง

หลังฟังคำพิพากษา นายสันธนะเผยว่า คดีนี้ศาลยกฟ้องตน จากนี้เตรียมขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 ระดับคือ ผู้ใช้อำนาจรัฐระดับสั่งการ เจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่เหล่านี้รู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่ยังใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชน และบุคคลทั่วไป ยืนยันฟ้องกลับแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีนี้แล้วเมื่อวันที่ 19 ..61 ศาลแขวงดอนเมือง พิพากษายกฟ้องนายสันธนะคดีพนักงานอัยการคดีศาลแขวง 9 (ดอนเมือง) เป็นโจทก์ฟ้องความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ และผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ กรณีกล่าวหานายสันธนะว่า เมื่อวันที่ 3 ..61 เวลากลางวัน เดินเข้าไปในเส้นแถบกั้นพื้นที่ของศูนย์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการตรวจค้นการกระทำผิดเกี่ยวกับเครื่อง สำอางและอาหารเสริม แล้วยังแสดงอากัปกิริยาวาจาลักษณะว่ามีอำนาจข่มขู่เจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้สามารถปฏิบัติงานได้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วปรากฏว่า จำเลยไม่ได้กระทำการขัดขวางเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติงาน ขณะเกิดเหตุจำเลยเพียงแสดงกิริยาใช้เสียงดังเท่านั้น

คดีพนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสันธนะ หรือ ...สันธนะ ประยูรรัตน์ (ถูกถอดยศเมื่อวันที่ 24 ..61) อายุ 60 ปี อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาลฐานะประธานที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด นายชนะโชติ หรือตั๋ม สุขสุคนธ์ อายุ 41 ปี นายวรรณชัย หรือแก้ว ใจเรือง อายุ 37 ปี นายวันเพ็ญ ผิวดำดี อายุ 52 ปี นายสิริชัย หรือชัย เหล่ากุลประสิทธิ์ อายุ 66 ปี นายประนอม หรือนอม แก้วสวัสดิ์ อายุ 60 ปี นายกฤษณะ หรือตั้ม หลำรอด อายุ 42 ปี นายคเณศ หรือต้น เปรมครุฑ อายุ43 ปี นายอดิศักดิ์ หรือโต้ง จันทร์ศรี อายุ 40 ปี นายอนุชา หรือทอม วรเดช อายุ 54 ปี และนายอนุ หรือตุ๋ย สุขสุคนธ์อายุ 42 ปี เป็นจำเลยที่ 1-11 ฐานความผิดร่วมกันกรรโชกทรัพย์และซ่องโจร

คดีนี้อัยการยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 11 คน เมื่อวันที่ 29 มิ..61 ระบุพฤติการณ์ระหว่างเดือน ..-เม..59 สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปจับกลุ่มปรึกษาและตกลงกันเพื่อกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย 19 รายเป็นผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง จำเลยแบ่งออกเป็นกลุ่มประมาณ 3-5 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปที่ร้านค้าเรียกเก็บเงินรายเดือนจากผู้ค้าที่เช่าพื้นที่ในตลาดใหม่ดอนเมืองร้านละ 1,000-3,000 บาท ค่าจอดรถอีกเดือนละ 700 บาท ส่วนรถ จยย. 300 บาท เก็บเงินทุกปลายเดือนพวกจำเลยมีพฤติกรรมลักษณะข่มขู่คุกคามผู้ค้า ทำให้เกิดความหวาดกลัวหากไม่ยอมจ่ายเงิน อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในการค้าขาย จำเลยทั้ง 11 คนร่วมกันกรรโชกทรัพย์รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 750,000 บาท

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานตามที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า ผู้เสียหายที่ 1 ผู้เสียหายที่ 2 และผู้เสียหายที่ 3 ต่างเบิกความยืนยันถึงการเรียกเก็บเงินของกลุ่มจำเลย ตามที่มีการเรียกเก็บมีระยะเวลาต่อเนื่องนานนับปี ผู้เสียหายทั้ง 3 ล้วนเคยจ่ายให้ผู้ที่มาเรียกเก็บที่อยู่ในทีมบริหารชุดก่อน ทุกครั้งที่เรียกเก็บกลุ่มจำเลยไม่ได้พกพาอาวุธไม่เคยพูดจาใดๆอันเป็นการข่มขู่เพื่อให้จ่ายเงิน ภายหลังจ่ายเงินตามที่เรียกเก็บยังจัดทำเอกสารเป็นหลักฐานเก็บเงินเอกสารหลักฐานการรับเงินระบุจำนวนเงินถูกต้องตามที่ผู้เสียหายทั้ง 3 เบิกความ แต่ละฉบับระบุเล่มและเลขที่แตกต่างกันไป สอดคล้องกับคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 9 ผู้เสียหายที่ 12 ผู้เสียหายที่ 13 และพยานปากอื่นที่จ่ายเงินตามที่ถูกเรียกเก็บ ต่างเต็มใจจ่ายเงิน

นอกจากนี้ นายสุชาติ โชว์วิวัฒนา ประธานผู้บริหารโครงการตลาดใหม่ดอนเมือง เบิกความยืนยันว่า แต่งตั้งจำเลยที่1 เป็นที่ปรึกษา และมอบหมายให้จำเลยที่ 2-11 เป็นพนักงานเก็บเงิน เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายว่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยและทำความสะอาด นายสุชาติเป็นผู้บริหารโครงการตลาดใหม่ดอนเมือง ย่อมมีส่วนรับผิดชอบโดยตรงการดูแลกิจการค้าขาย การเก็บเงินอยู่ในความรู้เห็นของนายสุชาติ สอดคล้องกับที่ผู้เสียหายกับผู้ประกอบการร้านค้าเบิกความรับว่า ต่างได้รับประโยชน์ตอบแทนทำให้การค้าเป็นไปโดยราบรื่น ไม่ได้ถูกข่มขู่หรือบังคับจากกลุ่มจําเลย การเรียกเก็บเงินของกลุ่มจำเลยเป็นรูปแบบการประกอบธุรกิจที่ต่างคนต่างถือเอาประโยชน์พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

ผู้เสียหายคดีนี้และผู้ประกอบการร้านค้าอีกหลายปากต่างเบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเข้าตรวจค้นในโครงการตลาดใหม่ดอนเมือง ไม่ปรากฏมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มจำเลยเรื่องการกรรโชกทรัพย์มาตั้งแต่ต้น แต่เพิ่งร้องทุกข์ดำเนินคดีจำเลยที่ 1-11 ภายหลังจากการเข้าตรวจค้นของตำรวจเกี่ยวกับการขายสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมาย หากไม่มีการตรวจค้นดังกล่าวคงไม่มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับจำเลยทั้งหมดเป็นการผิดวิสัยบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ร้องทุกข์ตั้งแต่ต้น แต่ยังคงจ่ายเงินนานนับปี ทั้งที่ถูกกรรโชกทรัพย์ด้วยการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มิหนำซ้ำยังต้องสูญเสียเงินแต่ละเดือนตลอดไปด้วย พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักให้พอฟังลงโทษจำเลยทั้ง 11 คนได้ พิพากษายกฟ้อง

หลังฟังคำพิพากษา นายสันธนะเผยว่า คดีนี้ศาลยกฟ้องตน จากนี้เตรียมขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง 3 ระดับคือ ผู้ใช้อำนาจรัฐระดับสั่งการ เจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่เหล่านี้รู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่ยังใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชน และบุคคลทั่วไป ยืนยันฟ้องกลับแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีนี้แล้วเมื่อวันที่ 19 ..61 ศาลแขวงดอนเมือง พิพากษายกฟ้องนายสันธนะคดีพนักงานอัยการคดีศาลแขวง 9 (ดอนเมือง) เป็นโจทก์ฟ้องความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ และผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ กรณีกล่าวหานายสันธนะว่า เมื่อวันที่ 3 ..61 เวลากลางวัน เดินเข้าไปในเส้นแถบกั้นพื้นที่ของศูนย์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการตรวจค้นการกระทำผิดเกี่ยวกับเครื่อง สำอางและอาหารเสริม แล้วยังแสดงอากัปกิริยาวาจาลักษณะว่ามีอำนาจข่มขู่เจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้สามารถปฏิบัติงานได้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วปรากฏว่า จำเลยไม่ได้กระทำการขัดขวางเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติงาน ขณะเกิดเหตุจำเลยเพียงแสดงกิริยาใช้เสียงดังเท่านั้น