เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ต้องเรียกว่าเป็น “พระเอกหนัง” อยู่ในสายเลือด สำหรับ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” พระเอกสุดฮอตมาดเซอร์ ที่กำลังมาแรงจากภาพยนตร์ “ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” ภาพยนตร์รักของคนอยากทิ้ง แต่ไม่อยากตัดใจ ของผู้กำกับ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ค่ายจีดีเอช ที่ทำรายได้กว่า 50 ล้านบาท วันนี้ ซันนี่มาเปิดใจผ่าน “คนดังนั่งคุย” ทั้งเรื่องงานหนัง และแง่มุมการใช้ชีวิต ส่วนเรื่องหัวใจที่สาวๆ อยากรู้ใจจะขาด บอกเลย ยังครองตัวเป็นหนุ่มโสดก็ไม่มี “ปม” ในใจแต่อย่างใด เพราะทุกความทรงจำมี “ค่า” ยิ่งนัก

ซันนี่ได้เปิดเผยเหตุผลที่รับเล่นหนัง ไฮาวทูทิ้ง…มิ้งอย่างไรไม่ให้ลืมเธอ” ว่า

“ผมชอบผู้กำกับ เพราะเคยทำงานด้วยกันมาตั้งแต่หนัง ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ รวมถึงชอบบท ชอบไดเรกชันชอบการได้เล่นหนังแบบนี้ เพราะมีโอกาสน้อยมาก ผมว่ามีแค่เต๋ออยู่คนเดียวนี่แหละในบ้านเราที่ทำหนังแบบนี้ เลยพลาดไม่ได้ พอเขาเรียกมาแคส เราเห็นบทก็อยากเล่นเลยนะ ดีใจที่เขาเลือกเรา ผมเชื่อใจเขามาก เราคุยกันถูกคอในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องหนัง ทิศทางเดียวกัน อ่านบทแล้วเราชอบเลยนะ ผมชอบในความเป็นมนุษย์ ชอบในความรู้สึก เขาเขียนบทเก่ง ชอบที่ได้เล่นกับความรู้สึก ไม่รู้ว่าเขาเขียนได้อย่างไร เรื่องการเก็บ การทิ้ง มันคือความละเอียดอ่อนของความรู้สึกคน เขาเอามุมนี้มาเล่าซึ่งมันดีมาก”

กระแสตอบรับดีมาก รู้สึกอย่างไรบ้างที่หนังประสบความสำเร็จ

“หนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ ในแง่ของนักแสดงหรือคนทำหนัง เวลาที่มีคนพูดว่าชอบหนังจังเลย หนังเรื่องนี้ให้อะไรกับชีวิต หรือได้ข้อคิดอะไรกลับไป อย่างทิ้งคนไม่เหมือนทิ้งของ ผมว่าหนังประสบความสำเร็จแล้วนะครับ ส่วนเรื่องรายได้ก็สุดแล้วแต่ผู้ชมว่าจะชอบหนังมากน้อยแค่ไหน เพียงแค่ผมและทีมงานทุกคนได้ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่แล้ว”

หนังเล่าเรื่องการเก็บบางสิ่ง ทิ้งบางอย่าง แล้วซันนี่เป็นคนชอบเก็บหรือชอบทิ้ง

“ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยทิ้งอะไรเท่าไรเลยนะ เพราะทุกชิ้นเราชอบมันหมดเลย ตอนที่เราเลือกซื้อมันมาคนให้เรามา อันไหนที่เราชอบ เราก็จะชอบมันไม่เปลี่ยน เราก็เลยไม่ทิ้งถ้ามันไม่เน่าเสียไปซะก่อน ทุกชิ้นมีความทรงจำกับเราผมชอบของทุกอย่างที่เราซื้อมา อันไหนจะมีความทรงจำมากน้อยกว่ากันก็แล้วแต่ อย่างกีตาร์จะมีความทรงจำเยอะหน่อย กระเป๋าที่ใช้เดินจตุจักรทุกวันนี้ ผมใช้มาตั้งแต่ ม.4 ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ มันไม่พังเราก็เก็บไว้ และยังใช้จนทุกวันนี้ ตอนนี้ผมกำลังทำบ้านด้วย เหมือนในหนังเลย ไม่รู้ว่าจะเก็บอะไร ทิ้งอะไร เพราะทุกชิ้นมันมีความทรงจำอยู่ในนั้น”

นอกจากการเก็บ การทิ้งแล้ว ในหนังยังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของการถูกทิ้งแล้วในชีวิตจริงเราเคยถูกทิ้งมั้ย

“ผมว่ามันไม่ได้เรียกว่าถูกทิ้งนะ ถ้าเรื่องของความสัมพันธ์มันคือการแยกกันไปมากกว่า ครับ เราไม่ใช่สิ่งที่จะโดนลืม ถ้าให้พูดตรงๆคือ ไม่มีใครลืมผมได้หรอก (หัวเราะ) ในชีวิตเรามีทุกความทรงจำ และผมก็ไม่เคยคิดที่จะลืมอะไรด้วย ผมรู้สึกว่าเราอยู่กับมันได้ เพราะทุกความทรงจำมันมีค่ากับชีวิตผมหมด ไม่ใช่แค่เรื่องดีๆเท่านั้นนะ เรื่องไม่ดีก็คือประสบการณ์ชีวิต หรือความทรงจำต่างๆ ทำไมเราต้องลืมมันล่ะ เราอยู่กับมันได้ ไม่ใช่ผมทนไม่ได้ แล้วทำไมเราต้องลืม”

by TVPOOL ONLINE