เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่โซเชียลแห่วิพากษ์วิจารณ์ “ดีเจมะตูม เตชินท์” หลังเจ้าตัวไปออกรายการ I CAN SEE YOUR VOICE แล้วมีการใช้คำพูดค่อนข้างรุนแรงกับหญิงสาวที่มาเป็นผู้เข้าแข่งขันปริศนา จนแฮชแท็ก #ตูมสนิท ขึ้นทวิตเตอร์อันดับ 1 ซึ่งต่อมาดีเจคนดังได้โพสต์ไอจีขอโทษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

หนึ่ง จักรวาล” ศิลปินและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานแถลงข่าว “เปิดตัว Encore หูฟังจากแรงบันดาลใจ ของ ตูน อาทิวราห์” ถึงประเด็นดราม่าดังกล่าว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมรายการวันนั้น ถามถึงดราม่าที่เกิดขึ้นกับดีเจมะตูม ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย? “ผมเพิ่งได้ข่าวตอนที่รายการมันออนแอร์ไปแล้ว จริงๆ พวกเราในทีมนักสืบลืมกันไปแล้ว เพราะปกติเวลาเล่นกันในรายการจะไม่มีสคริปต์ แล้วแต่ละคนก็คงพูดกันด้วยความสนุกปาก ซึ่งเป็นปกติไม่มีสคริปต์อะไรมากั้นเรา แต่พอเล่นกันไปมา ณ ตอนนั้นเข้าใจอยู่ว่าพวกเราขำ คนดูในห้องส่งก็ขำ แต่ส่วนตัวก็รู้ว่ามันจะต้องไปกระทบอ่ะแหละ”

“คราวนี้มันก็ต้องมีส่วนของทางรายการด้วยว่าอันไหนตัดใช้ อันไหนไม่ตัดใช้ เพราะเวลาที่เราใช้ในการอัดรายการจริงๆ คือนานมาก เทปหนึ่งก็ประมาณ 4 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นทุกคนจะเล่นอะไรกันไปเยอะมาก บางทีก็สนุกกันในการถ่ายทำ บางทีตัวปริศนาก็ขำกลับมาด้วย ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าอันไหนที่เขาตัดออก อันไหนที่ไม่ได้ใช้ แต่พอมารู้อีกทีก็ตอนที่รายการออนแอร์ไปแล้ว”

“พวกเราก็จะมีไลน์กลุ่มของพวกเรากัน พอมีข้อความเด้งมาว่า “งานเข้าแล้ว” พวกเราก็จะถามกันว่าเกิดจากเรื่องอะไร เพราะทุกคนลืมกันไปแล้วจริงๆ ซึ่งพอเปิดดูอ้าว! สรุปตัดอันนี้ออกอากาศเหรอ แต่ทั้งหมดทั้งปวงคือก็เข้าใจทุกฝ่าย เข้าใจมะตูม เข้าใจทุกๆ ท่านที่ชมรายการด้วย ยังไงก็ต้องขอโทษแทนมะตูมด้วยครับ”

แอบคิดไหมว่าตอนที่แซวเล่นกันในรายการ มันจะกลายมาเป็นดราม่าขนาดนี้? “ส่วนตัวไม่คิดถึงขั้นว่ามันจะเป็นประเด็นดราม่า อย่างที่บอกว่าวันนั้นเล่นกันไปเยอะมาก เล่นไปเรื่อยๆ 4 ชั่วโมงอ่ะคิดดู ซึ่งพอรายการออกอากาศจริงมันแค่ชั่วโมงนิดๆ บางทีเราก็บอกว่าอันไหนใช้ได้ก็ใช้นะ อันไหนใช้ไม่ได้ก็ตัดออก” ตอนอยู่ในรายการเรารู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ไหม เพราะมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ดีเจแมน พยายามจะพูดเบรกแล้ว หรือแม้แต่สีหน้าของ โตโน่ ก็ตาม? “ยอมรับว่ามีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าตอนนั้นในห้องส่งดันขำ ตัวปริศนาก็ขำ พอขำกันไปหมดเลยข้ามความรู้สึกอะไรไป อีกอย่างผมเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างหน้า รับมุขไม่ค่อยทันคนอื่นอยู่แล้ว คนอื่นเล่นอะไรกันผมก็จะลืมไปแล้วว่าเล่นอะไรไป เล่นมุขไปผมก็ไม่ได้เก็ตหรอกเพราะบางทีแทบจะไม่ได้ยินด้วย เลยผ่านๆ ไปเพราะไม่ใช่หน้าที่เรา ในรายการจะไม่มีการเตรียมสคริปต์ อย่างตัวเราก็จะเตรียมมาแค่ว่าวันนี้ดูซิจะเป็นอะไรยังไง แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นประเด็นดราม่าครับ”

คิดอย่างไรกับการที่คนมองว่ามันเป็นการเอามุขตลกมาเล่น แต่มันไม่ตลก และกลายเป็นบูลลี่? “ถ้าดูจริงๆ มันก็รุนแรงเนอะ แต่ว่าก็เสียใจแทนทุกคน ขอโทษแทนทุกคนด้วยนะครับ จริงๆ พวกเราคิดว่าไม่ได้ตั้งใจมากกว่า มะตูมก็คงไม่ได้ตั้งใจ คงเล่นด้วยความสนุก แต่จริงๆ เราไม่ได้ยินข้อความอันนี้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว จนมาดูตอนที่บอกว่ามันเกิดเรื่องแล้วในไลน์กลุ่ม อีกวันก็เปิดดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็อ๋อ….เรื่องนี้นี่เอง แต่จริงๆ เราลืมไปแล้ว ทุกคนก็ลืมไปแล้ว เผลอๆ มะตูมก็ลืมไปแล้วด้วย”

มีคุยกันในทีมไหม ว่าเราควรจะลดเล่นมุขแบบนี้ ทั้งที่โดยเจตนา หรือไม่ได้เจตนาไหม? “จริงๆ ก่อนเข้ารายการ พวกเราก็จะรวมกลุ่มกันนะ ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ เราคุยกันแล้วแหละ แต่ทีนี้พอถึงเวลาถ่ายจริง มันก็เบรกแตก มันเล่นไปเรื่อย เพราะว่าถ่ายนาน แล้วเราก็จะบอกทีม ว่าอันไหนตัดใช้ได้ อันไหนใช้ไม่ได้ก็ตัดออกให้หน่อย เพราะบางทีรายการที่เราดูกัน มันมีข้อมูลนิดเดียว แต่จริงๆ คำหยาบเราก็มีก็พูดกัน แต่เขาก็ตัดออก แต่เราไม่รู้ว่ามันเป็นประเด็นดรามาตรงนี้ จนเราลืมไปแล้วจริงๆ”

ยืนยันว่ารายการไม่มีสคริปต์ใช่ไหม? “ไม่มีๆ ทุกคนไม่มีสคริปต์ครับ ทุกคนเพิ่งเห็นตัวปริศนาวันนั้น เพราะว่าตัวนักสืบ ห้ามเดินเข้าห้องของคนที่เป็นปริศนา เพราะเขาจะมีห้องแต่งตัวของปริศนา ห้องแต่งตัวของเราห่างกันมาก ห้ามเดินผ่านกัน เพราะถ้าเดินผ่านก็จะจับผิดได้ ว่าเวลาเขาอยู่หลังเวทีเขาเป็นยังไง”

“ผมว่ามะตูมเขายอมรับผิดแหละ ว่าสิ่งที่เขาทำไป เขาอาจจะเผลอพลั้งนะครับ อาจจะสนุกเกินไป ด้วยเวลามันยาว อาจจะง่วง เพราะเราดูกันมันแป๊บเดียว แต่ถ่ายกันตั้งแต่บ่ายโมงถึงเที่ยงคืน พักกินข้าวแค่นิดเดียว ขอโทษแทนแฟนรายการ I Can See Your Voice Thailand นักร้องซ่อนแอบ ทุกคนด้วยนะครับ”