นักร้องเเละนักเเสดงมากฝีมืออย่าง สหรัถ สังคปรีชา เป็นบุตรคนโตจากทั้งหมดสองคนของวีระพงษ์ สังคปรีชา กับโสมวรรณ(สกุลเดิม: สวัสดิ์-ชูโต) มีน้องชายชื่อ ฐากูร สังคปรีชา (ชื่อเล่น: เก็น)ปู่ของเขาเป็นชาวเดนมาร์กที่เข้ารับราชการในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนตาเป็นเป็นราชินิกุลสวัสดิ์-ชูโต และยายมาจากสกุลวสุวัต เจ้าของโรงภาพยนตร์เสียงกรุง
สหรัถ เข้าศึกษาที่สถาบันอนุบาลบ้านเด็ก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนศรีวิกรม์ และ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เริ่มต้นเข้าสู่วงการด้วยการเป็นนักร้องวงนูโว และต่อมามีผลงานการแสดง ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง พริกขี้หนูกับหมูแฮม, พิสูจน์รักจากสวรรค์ ,คู่รัก 2 ชาติ, รอวันฉันมีเธอ, หนี้รัก, แม่เลี้ยงคนใหม่, สะใภ้จ้าว, เสือ, ก็ว่าจะไม่รัก, เจ้าสาวกลัวฝน, เทพบุตรในฝัน, ระเบียงรัก, รักละมุนลุ้นละไม, บ้านแฝดยกกำลังสอง, กล้าไว้หัวใจไม่จนมุม, มีเพียงรัก, สาวใช้หัวใจชิกาโก้, ทายาทเศรษฐี, หัวใจทรนง, บุษบาครับผม, จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า, เจ้าสาวกะทันหัน, พริกหวานน้ำตาลเผ็ด, ละอองดาว, มณีดิน, แหวนดอกไม้, สงครามนางฟ้า, ทองเนื้อแท้, มนต์รักบ้านทุ่ง, มาลัยสามชาย, อย่าลืมฉัน เเละอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าอายุ 50 แล้วจริงๆ กลัวอย่างเดียวคือ กลัวไม่สนุก…คือผมเป็นคนชอบทำกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ ไปเที่ยวป่า ขับรถออฟโร้ด กางเต็นท์ ถ้ามีเวลาก็ยังอยากไปทำ เลยกลัวว่าถ้าเราอายุมากกว่านี้ สังขารเรายังจะไหวไหม ไปที่นั่นที่นี่ หลักๆ คือยังอยากให้ชีวิตสนุกไว้ก่อนอีกด้านหนึ่งของพี่ก้อง เห็นว่าชอบไปช่วยเหลือคนที่ลำบากอยู่บ่อยๆ ด้วย ก้อง – สหรัถ : ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันนะ และส่วนตัวเองรู้สึกว่าเราก็ได้รับมาเยอะจากสังคม
ได้ความรัก ความเอ็นดูจากประชาชน ชื่อเสียง เงินทอง ทุกอย่างก็ได้จากคนไทยนี่แหละ เหมือนเรามีกับข้าวอยู่เต็มโต๊ะ ก็แบ่งให้คนอื่นกินบ้างก็ได้ มันก็มีความสุขอีกแบบกินคนเดียวก็คงไม่หมดหรอก เลยรู้สึกว่าชีวิตมันก็ต้องแบ่งปันบ้าง เราอยู่ในจุดที่มีทุกอย่างสบายๆ แบ่งบ้างก็น่าจะดี พี่คิดว่าข้อดีของการเป็นคนที่รักเดียวใจเดียวคืออะไรก้อง – สหรัถ : ก็ไม่เหนื่อยไง (หัวเราะ) มีเยอะมันก็เหนื่อย ไม่อยากเหนื่อยก็อย่าไปเยอะ ผมว่าทุกอย่างเลยนะ เยอะไปมันจะเหนื่อย ไม่ใช่แค่เรื่องความรักหรอก
ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งเหนื่อย มีบ้านหลายหลังก็เหนื่อย รถหลายคันก็เหนื่อย มีทรัพย์สินเยอะก็เหนื่อย ทุกอย่างเป็นพันธะ เป็นโซ่ที่มันมาคล้องเราไว้ ทำให้เราไม่มีอิสระในชีวิต….เรามีรถ 5 – 6 คัน วันว่างก็ต้องเอามันไปล้าง วันไหนสตาร์ตไม่ติดก็ต้องเอาไปเปลี่ยนแบต และถ้ามีเยอะแบบนั้น คุณคิดดูว่าต้องดูแลตั้งเท่าไหร่ มีบ้านต่างจังหวัดภาคเหนือหลังนึง อีสานหลังนึง คอนโดอีกที่นึงวันๆ ไม่ต้องทำอะไร ก็ต้องคอยไปดูแก้ปัญหาทุกอย่าง คือเป็นเรื่องที่ทำให้เราไม่มีอิสระในชีวิต แต่ถ้าเรามีบ้านหลังเดียว มีรถสองคัน พอวันว่างทำไรล่ะ ก็ออกไปเที่ยว
มันก็เกิดอิสระในชีวิต ต่างจากคนที่มีบ้านรถหลายคัน ว่างปุ๊บก็ต้องไปดูแลทรัพย์สมบัตินู่นนี่ และถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็จะเป็นทุกข์อีก กับคนที่ไม่มีก็ไม่ทุกข์ มันเหนื่อย อย่าเยอะ (เสียงย้ำหนักแน่นมาก) น้อยๆ ไว้ดีที่สุดครับเวลาอยู่บ้านเขาคือผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ติดดินมากๆ อยู่บ้านใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะโทรมๆ เสื้อผ้าไม่ติดแบรนด์ แต่ที่จะมีลงทุนหน่อยก็คือกีตาร์
by TVPOOL ONLINE