ดร.นพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อาจารย์มหาวิทยาลัยจิงเม่า ประเทศจีน ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya” ถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว แต่รายล่าสุดที่เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ยเมื่อวานนี้ คือนายหลีโหมว เพศชาย อายุ 36 ปี ไม่มีโรคประจำตัว หลังจากมีไข้ปวดเมื่อยตัวเป็นเวลา 3 วัน เขาจึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 มกราคม แพทย์ตรวจพบว่าเขามีภาวะปอดอักเสบและมีจำนวนเม็ดเลือดขาวสูง หลังจากแพทย์รักษาตามอาการนาน 2 สัปดาห์ เขาก็เสียชีวิตจากความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจลดต่ำลงกะทันหันจนกระทั่งหัวใจวาย กรณีผู้เสียชีวิตรายนี้ทำให้สมมติฐานเกี่ยวกับเงื่อนไขของการแพร่กระจายโรคเปลี่ยนแปลงไป ไม่เฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวเท่านั้น แต่ผู้ชายวัยหนุ่มแข็งแรงก็เสียชีวิตได้เช่นกัน ทั้งนี้สำนักข่าวซินหัว อ้างคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ รายงานจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 1,287 ราย โดยมีผู้ป่วยขั้นวิกฤติ 237 ราย จากสถิติเมื่อเที่ยงคืนวันศุกร์ (24 ม.ค.) ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 41 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานวันนี้ (25 ม.ค.) ว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อทางเทคนิคว่า “2019 โนเวล โคโรน่าไวรัส” (2019-nCoV) นอกจากคร่าชีวิตคนในจีนแผ่นดินใหญ่ไปแล้ว 41 คนและมีผู้ติดเชื้อเกือบ 1,300 คน ยังพบที่เขตปกครองพิเศษของจีนอย่างฮ่องกง 5 คน ไต้หวัน 3 คน และมาเก๊า 2 คน สำหรับไต้หวัน รัฐบาลไทเปได้ประกาศห้ามคนเดินทางมาจากอู่ฮั่นเข้าไต้หวันแล้ว ส่วนคนที่เดินทางมาจากจีนรวมทั้งฮ่องกงและมาเก๊าต้องกรอกใบแจ้งสุขภาพ นอกจากนี้ยังห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อป้องกันการขาดตลาด ขณะที่ในไทย มีการยืนยันผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 5 คน เป็นชาวอู่ฮั่น 4 คน และสตรีไทยสูงวัยที่กลับมาจากอู่ฮั่น ทำให้ไทยและฮ่องกงเป็นดินแดนนอกจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสนี้มากที่สุด
ล่าสุดยืนยันแล้วว่าผลตรวจชาวจีนที่หัวหินปรากฎว่าติดเชิ้อไวรัสโคโรน่า “2019 โนเวล โคโรน่าไวรัส” (2019-nCoV)
