คนไทยในอู่ฮั่น เล่าชะตากรรมแสนเข็ญ น้ำตาซึม อีก 2 วัน อาหารหมด
วันที่ 30 ม.ค. เวลา 12.54 น. มีรายงานว่า สำนักข่าวได้สัมภาษณ์ นายสุรยันต์ อินทะนาม เชฟชาวไทย ที่ติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเมืองที่คาดว่าเป็นต้นกำเนิดของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา มากว่า 10 วัน ต้องการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้มารับกลับไทย โดยเร็วที่สุด เนื่องจากตอนนี้ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำ ร้านค้าปิดหมด อีกทั้งยังไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักได้
นายสุริยันต์ ทำงานเป็นเชฟโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น กล่าว่า อยู่แต่ในห้องพักคนเดียวมาเป็นเวลา 10 วันแล้ว ก่อนหน้านี้ได้มีการลงชื่ออกลับประเทศไทยในกลุ่มของสถานทูตไทยในจีน แต่ยังคงไม่มีการแจ้งความคืบหน้า ทราบจากข่าวว่ารัฐบาลรอให้ทางจีนไฟเขียว แต่ตนคิดว่าควรดำเนินการเร่งด่วน เพราะอาหารกำลังจะหมด
โดยอาหารที่นายสุริยันต์ เหลืออยู่เพื่อประทังชีวิต มีเพียงเส้นบะหมี่จีน ที่คาดว่าจะสามารถทานได้อีกเพียง 2 วัน และน้ำดื่มที่เหลืออยู่เพียงครึ่งขวด ต้องจิบเอา ซึ่งหากน้ำดื่มหมด ยังพอที่จะต้มน้ำก็อกดื่มได้ แต่นายสุริยันกังวลว่า ถ้าไฟฟ้าดับจะไม่สามารถต้มน้ำได้ เนื่องจากใช้เป็นเตาไฟฟ้า และระบบไฟฟ้าที่จีนนั้นเป็นระบบเติมเงิน ซึ่งขณะนี้ร้านเติมเงินได้ปิดหมดแล้ว
ขณะที่ร้านค้าในเมืองก็ปิดหมดแล้ว ก่อนหน้านี้นายสุริยันเองก็ไม่สามารถซื้อของกักตุนได้ทัน เนื่องจากตอนที่ประกาศฉุกเฉินนั้นไม่ได้มีการแจ้งมายังคนไทย เมืองอู่ฮั่น ณ เวลานี้กลายเป็นเมืองร้าง ร้านค้าปิด ไม่มีรถวิ่ง ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ และที่พักของนายสุริยันต์ ก็อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัย ซึ่งมีกลุ่มนักศึกษาไทยอยู่ เขาพยายามออกไปหาซื้ออาหารแล้ว แต่ไม่สามารถซื้อได้ และในจีนไม่มีการแจกถุงยังชีพแบบไทย คนเขามีมาก เราก็เข้าใจ และพยายามดูแลตัวเองมาโดยตลอด
“ถ้าไม่ติดเชื้อก็คงอดตาย ต้องประหยัดกินเอา กินวันละสองมื้อ ไม่ใช่ว่าอิ่ม แต่กลัวหมด” นายสุริยันกล่าว สำหรับสภาพจิตใจในตอนนี้ นายสุริยันยอมรับว่ามีความเครียด แต่ก็พยายามจะไม่เครียด ด้วยการฟังธรรมะ และนอนหลับ”