จากเหตุการณ์สุดน่าสลด กรณี จ.ส.อ. อายุ 32 ปี ใช้อาวุธสงครามกราดยิงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ก่อนเข้าไปก่อเหตุภายในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งท้ายที่สุดคนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ล่าสุด ข้อมูลจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ณ เวลา 15.20 น. วันที่ 9 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 คน ผู้บาดเจ็บ 58 ราย
ล่าสุด (10 ก.พ.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊ก คุณหมอโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เล่าเหตุการณ์ในโรงพยาบาลคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งนอกจากแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่จะต้องรับมือกับเคสผ่าตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมากแล้ว ทุกคนยังต้องคอยระวังเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าแล้ว ขณะที่หัวหน้าห้องผ่าตัด รวมถึงภรรยาและลูกของอาจารย์หมอรายหนึ่งก็ติดอยู่ในห้างด้วย
ผู้โพสต์เล่าว่า หลังจากทราบข่าวเกิดเหตุการณ์ยิงกันที่วัดป่าศรัทธารวม ก็ได้ทราบว่ามีเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินัล 21 โคราช ต่ออีก ทำให้ทุกคนต่างกลัวว่าคนร้ายจะบุกเข้ามา เพราะห้องผ่าตัดอยู่ติดด้านหลังโรงพยาบาล จึงมีการสั่งปิดประตูหลังโรงพยาบาลที่เป็นประตูที่ใกล้กับห้างมากที่สุดประมาณ 1 กิโลเมตร และมีถังออกซิเจนขนาดใหญ่มากตั้งอยู่ โดยมี รปภ.ออกมาเฝ้าตามจุดต่างๆ ทุกทางเข้าออกและห้องฉุกเฉิน
หลังจากนั้นทุกคนโทรศัพท์หาคนที่บ้าน และบอกว่าอย่าออกไปไหน พร้อมเช็กว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลปลอดภัยดีหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าหัวหน้าห้องผ่าตัดติดอยู่ในห้างพร้อมครอบครัว จากนั้นก็มีการตามทีมพยาบาลมาเสริมกำลังพร้อมดูแลผู้ป่วย
“ผมกับพี่ผ่าตัดเสร็จส่งผู้ป่วยเข้าห้องพักฟื้น อ.Neuro sx เวรวันนั้นกำลังผ่าตัดอยู่อีกห้อง ลูกและเมียของอ.ติดอยู่ที่ชั้น G ในห้างterminalยังออกมาไม่ได้ อ.เข้มแข็งและมีสติมากยังคงผ่าตัดผู้ป่วยตรงหน้าต่อไป ทาง or ก็ช่วยประสานให้มีการช่วยเหลือกับทางกองปราบ พวกผมรีบไปช่วยที่ ER เดินผ่านจุดรอญาติหลัง ER เสียงร้องไห้ดังระงมไปหมด บางคนกรีดร้องลงไปนอนที่พื้น ผมยอมรับว่าตอนนั้นใจเสียมากแต่ต้องทำหน้าที่ต่อไป พร้อมนะหมอ พี่ยามที่คุมประตูหลังห้อง Resus ถาม ผมพยักหน้า ประตูเปิดออก“
ซึ่งผู้โพสต์ได้เข้าไปช่วยเคสผ่าตัดจนถึงเที่ยงคืน และได้พบกับอาจารย์หมออีกรายตอนตี 2 จึงทราบว่า ลูกและภรรยาของอีกฝ่าย กองปราบได้ช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยแล้วตอนประมาณ 5 ทุ่ม แต่ยังคงเสียขวัญเพราะเห็นคนถูกยิงต่อหน้าต่อตา ซึ่งอาจารย์หมอรีบกลับไปปลอบลูกและกลับมาโรงพยาบาลอีกครั้ง และกำลังจะเข้าผ่าตัด
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เวลา 09.00 น. โปรแกรมแชทของผู้โพสต์เด้งไม่หยุด โรงพยาบาลมีการเรียกขอกำลังเสริม เพราะมีผู้ป่วยหลายรายอาการสาหัส ซึ่งทีมศัลยแพทย์ทุกคนก็รีบมาช่วยแม้กระทั่งแพทย์จากโรงพยาบาลอื่น
“สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิด ผู้ป่วยถูกยิงมีแผลหลายที่ไม่รู้สึกตัวหายใจอ่อนยังคลำชีพจรได้ แต่ใบหน้าของผู้ป่วยรายนี้พวกเราคุ้นหน้ารู้จักกันดี พี่ จนท.นวก.ของภาควิชาศัลย์ดูแลตั้งแต่น้องปี 4 ถึงextern ทุกคนช็อก รีบคลำชีพจร คลำไม่ได้ witness arrest start ER thoracotomy, internal cardiac massage เข็นเข้า OR แต่เราก็ยื้อไม่ไหว จากเราไปในที่สุด..”
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ปิดท้ายว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้สูญเสียทุกๆ ท่าน ขอทุกดวงวิญญาณไปสู่สุคติ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละจะอยู่ในใจของทุกคน พร้อมขอให้บารมีย่าโมคุ้มครองลูกหลานชาวโคราชให้ปลอดภัย และให้มีกำลังแรงใจสู้ต่อไป
by TVPOOL ONLINE
