จากกรณีโลกทวีตเตอร์ เผยแพร่ภาพผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคาท์ @LovePhrik ซึ่งตอนนี้คาดว่าน่าจะถูกรายงานให้ปิดบัญชีไปแล้ว เพราะเจ้าของทวิตนี้ได้เผยแพร่เรื่องการซ่อนกล้องในกระดาษทิชชู เพื่อแอบถ่ายหลานสาวของตัวเอง ขณะนี้มีผู้ใช้งานจำนวนมากส่งต่อเรื่องราวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
นอกจากการกระทำของที่น่าเกลียดของบัญชีผู้ใช้นี้ ยังมีความคิดเห็นของชาวเน็ตที่เรียกตัวเองว่าด้านมืด ออกมาคอมเมนต์ทั้งในเชิงชื่นชม และแนะนำถึงวิธีการให้กันอีก ล่าสุดตอนนี้ได้ปิดบัญชีผู้ใช้งานไปแล้ว และคาดว่าน่าจะมีบัญชีสำรองอีก
ล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ทำการสืบสวนจนมีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับผู้ที่เผยแพร่คลิปลามกอนาจารซึ่งติดแฮชแทค #หลานของผม จนสามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว
โดย พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส. แถลงว่า เจ้าของทวิตเตอร์ #หลานของผม ที่แท้เป็นเจ้าหน้าที่วางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง อายุ 31 ปี รับสารภาพสร้างเรื่องแอบถ่ายหลานสาวขึ้นมา เพื่อหวังยอดผู้ติดตามแล้วนำไปขายของ โดยสาวที่บอกว่าเป็นหลาน คือแฟนสาว อายุ 20 ปี เป็นนักศึกษา
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจ ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร ,หัวหน้าคณะทำงาน TICACทำการสืบสวนจับกุมผู้ใช้ชื่อทวิตเตอร์ “หลานของผม”ซึ่ง เป็นเทรนแฮชแท็กอันดับ 1 ของประเทศไทยTICAC ได้ดำเนินการสืบสวนทางเทคนิค ได้ข้อมูลว่าทวิตเตอร์ชื่อ “หลานของผม” มีอยู่ 2 บัญชี ที่มีชื่อผู้ใช้ หรือ Username แตกต่างกัน คือ “@LovePhrik” และ “@Larnkhongpom” จนเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2563 ได้เข้าตรวจค้นจับกุมจำนวน 2 เป้าหมายดังนี้
1. ทีมปฏิบัติการ TICAC ชุดที่ 2 รวมกับ ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจสภ.เมืองจันทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักนายชัยวัฒน์ฯ อายุ 31 ปี ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบพยานหลักฐานยืนยันว่าเป็นผู้ถ่ายคลิปวีดิโอที่ปรากฎใน Twitter ชื่อ “หลานของผม” ที่มีบัญชีผู้ใช้ชื่อ @LovePhrik โดยนายชัยวัฒน์ฯ ให้การรับสารภาพว่าคลิปดังกล่าวได้ถ่ายเล่นกับแฟนสาวของตนซึ่งอายุประมาณ 20 ปี แล้วแอบเอาคลิปดังกล่าวมาแต่งเรื่องว่าเป็นการแอบถ่ายหลาน เพื่อสร้างกระแสในTwitterชื่อ“หลานของผม”(@LovePhrik)โดยแฟนสาวไม่ทราบเรื่อง ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องนำตัวส่งสถานีตำรวจ พร้อมดำเนินคดีในข้อหา“นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ต่อไป (ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
2. ทีมปฏิบัติการ TICAC ชุดที่ 1 ร่วมกับ บก.ปคม.และตำรวจนครบาล เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเอกมลฯ อายุ 23 ปี ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบพยานหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของ Twitter ชื่อ “หลานของผม” ที่มีชื่อผู้ใช้ว่า @Larnkhongpom โดยนายเอกกมลฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ไปพบ Twitter ชื่อ “หลานของผม” (@LovePhrik) และรู้สึกชื่นชอบเนื้อหา จึงได้ใช้อีเมลของตนเองและไปหลอกล่อใช้เบอร์โทรศัพท์ของเพื่อน มาสมัคร Twitterชื่อ“หลานของผม” (@Larnkhongpom) แล้วนำทำให้มีข้อความและคลิปวีดิโอเหมือนกับ Twitter ต้นฉบับ พร้อมนี้จากการตรวจค้นยังพบว่า นายเอกกมลฯ ได้ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กอีกเป็นจำนวนมาก และเปิด Twitterชื่อPornKUB_Dekdee63 (@pornkubdekdee63) ที่มีลักษณะประกาศขายสื่อลามกอนาจารเด็กอีกด้วย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด นำส่งสถานีตำรวจ สน.หลักสอง เพื่อรวมรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครอง,ค้าหรือประสงค์แห่งการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก (ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ระวางโทษจำคุก 3 ถึง 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
