เรียกว่าลบคำสบประมาทที่ว่าการแสดงไม่เป็นธรรมชาติไปได้เลย สำหรับนางเอกสาวหน้าใส “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส”ที่พัฒนาฝีมือจนเป็นที่ยอมรับของแฟนๆละคร ได้เจอเจ้าตัวจึงถามถึงฟีดแบคที่ได้รับ พร้อมเคลียร์เรื่องที่หมดสัญญากับอดีตผู้จัดการที่ชักนำเข้าวงการอย่าง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” โดย “ริชชี่” เผยว่า เรื่องการแสดงดีใจที่สามารถทำได้
และมีกำลังใจจะพัฒนาฝีมือตัวเองต่อไป ส่วนสัญญาพี่เอตอนนี้หมดลงแล้ว กลายเป็นนักแสดงอิสระอย่างเต็มตัวแต่ยังมีสัญญาใจกับอดีตผู้จัดการและคิดถึงอยู่เสมอ ซึ่งต้องขอบคุณที่พี่เอทำให้มีวันนี้ และรายการ “ข่าวใส่ไข่”โดย “มดดำ” เล่าถึง “ริชชี่” ตั้งแต่สมัยที่ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” พาเข้าวงการว่า “จะเล่าให้ฟังว่าพี่เห็นตั้งแต่วันแรก”“ตอนนั้นเอไปรักษาตัวที่เชียงใหม่ นางก็ไปตีแบดที่ มช. ปรากฏว่าริชชี่เป็นนักกีฬาแบดมินตันอยู่ นางก็อุ๊ย ทำไมสวยจังเลย ”“นางก็เลยเอามาปั้น ผู้ชายทุกคนในบ้านเอโดนตัว มันเศร้าเลย อย่างเช่นไปเล่นหนังกับณเดชน์ นางเล่นไม่ได้ ”
“จนทุกคนเรียกนางว่าแม่ชีอะ จนวันนึงด้วยความที่นางเก็บตัวอยู่ในโลกแคบ นางจะอยู่แต่ในห้อง เอบังคับให้นางไปเที่ยว ”“ตอนนั้นเอเปิดร้านอยู่แถว ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ต้องเอานางไปอยู่ตรงนั้นเพื่อเปิดโลก ให้เจอคน”“เพราะนางจะกลัวคน มันก็อาจเป็นไปได้รึเปล่า เวลานางเล่น นางอาจจะเล่นไม่ได้ไม่รู้ว่าทุกวันนี้นางยังกลัวผู้ชายรึเปล่า”“แล้วคุณนายเอให้ไปเดินแบบ เพราะอยากให้เด็กทุกคนมีรายได้ทุกวัน นางก็พาไปเดินแบบช่วงนึง นางแบบก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆ”ด้าน รถเมล์ ให้ความคิดเห็นว่า “ไม่หรอก เขาอาจจะมาจากการเป็นนักกีฬาไงพี่ เวลาอยู่ในวงการก็จะเป็นอีกแบบนึงไง”
ส่วน เหมี่ยว บอกว่า “เขาเคร่งศาสนารึเปล่า เขาเป็นเชื้อสายชนเผ่าลาหู่ คุณพ่อเป็นลูกครึ่ง คุณแม่เป็นลาหู่”จากนั้น มดดำ พูดอีกว่า “คุณพ่อเขาเป็นคริสเตียน แล้วมันมีผู้หญิงแบบนี้อยู่จริงๆ เอบอกว่าข้อเด่นของน้องริชชี่มีอย่างนึงคือ เวลาที่บวงสรวงอะไรแล้วฝนจะตก”“เอาริชชี่ไปปักตะไคร้ฝนหยุดแน่นอน เอบอกอย่างนี้จริงๆ แต่ตอนนี้น้องริชชี่ไม่ได้อยู่กับพี่เอแล้ว เป็นอิสระแล้ว พี่เอไม่ปั้นดาราแล้วเพราะเขาเหนื่อย”
