เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ล่าสุดที่สภ.ปากเกร็ด น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหายที่สั่งซื้อหน้ากากอนามัยแล้วได้รับสินค้ามือสอง เดินเข้าพบพ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการรุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับร้านและน.ส.สาวิตรี (สงวนนามสกุล) ผู้จัดส่งสินค้า

น.ส.บี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัย 50 ชิ้น ในราคารวมค่าจัดส่ง 550 บาท จาก Marketplace ร้านค้าออนไลน์บนเฟซบุ๊ก เพื่อจะมาแบ่งกับเพื่อนที่ทำงานใช้ เนื่องจากเห็นว่ามีราคาถูกสุดแล้วเท่าที่หามา

“จากนั้นได้รับสินค้าในวันจันทร์ที่ 2 มี.ค. โดยการจัดห่อพัสดุใส่มาในซองกระดาษสีน้ำตาล มีชื่อร้านและเป็นผู้จัดส่ง จากนั้นแกะออกดูก็พบว่าน้ากากอนามัยที่สั่งซื้อไว้มีลักษณะเหมือนของใช้แล้ว มีสภาพยับเยิน แต่ก็ยังคิดในแง่ดีว่าคงแพ็กมาไม่ดี ก็พลิกดูแผ่นที่เหลืออยู่ด้านใน แต่ก็พบว่าเป็นสภาพเดียวกันหมด”น.ส.บีกล่าว

น.ส.บี กล่าวอีกว่า จากนั้นได้ติดต่อกลับไปยังแม่ค้าตามเบอร์ที่อยู่บนซองจดหมาย เพื่อติดต่อขอเงินคืน ทางแม่ค้าจึงขอดูรูปสินค้าที่จัดส่งไปให้ก่อน ตนจึงส่งรูปให้แม่ค้าดู จากนั้นจึงยินยอมโอนเงินมาทั้งหมด แต่ก็ได้โต้เถียงกันเรื่องสินค้า โดยทางร้านอ้างว่าสินค้าของทางร้านไม่ใช่สินค้ามือสอง แต่ลูกน้องหยิบของผิดส่งให้ แต่ตนก็ได้ตอบกลับไปว่ามีการผูกหู ทากาวยาง จึงได้ขอชื่อร้านที่แม่ค้าไปรับสินค้ามาอีกทอดหนึ่ง แต่แม่ค้าไม่ยอมให้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับผู้ใดอีก

พ.ต.อ.พงศ์จักร กล่าวว่า เบื้องตนรับแจ้งความไว้แล้ว ตามข้อมูลที่ผู้เสียหายได้ให้ปากคำไว้ โดยได้แจ้งข้อหาในมาตรา 217 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิดสภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ หากการกระทำนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับแม่ค้าผู้ถูกกล่าวหาได้แล้วให้มาสอบปากคำ แต่แม่ค้าออนไลน์ยังไม่เดินทางมาตามที่เจ้าหน้าที่นัดไว้ หลังจากจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online