ปาดคอแม่เฒ่าวัย 78 ปี ซุกไร่ข้าวโพด ชิงเงินไปซื้อมือถือ!!

สอบสวน นายวัน ขุนจำนงค์ อายุ 56 ปี ผู้พบศพคนแรกให้การว่า ตนเป็นบุตรชายของนางเหมือนผู้เสียชีวิต โดยมารดาตนปลูกผัก เพื่อเก็บไปขายในตลาดสดเทศบาลตำบลนครไทยทุกวัน โดยจะออกจากบ้านเวลาประมาณ 07.00 น. ส่วนตน ไปนอนพักอยู่ที่ห้างไร่กับภรรยาเพื่อนเฝ้าไร่ข้าวโพดและพริกที่ปลูกไว้ ทุกเช้าตนจะเป็นคนมารับมารดาไปขายผักที่ตลาด เช้าวันนี้พอมาถึงบ้านไม่พบแม่อยู่ที่บ้าน ประตูห้องนอนก็ไม่ได้ล็อกกุญแจ จึงเดินตามหาแต่ไม่เจอเลยไปตามภรรยามาช่วยกันเดินหา กระทั่งพบว่าแม่เสียชีวิตอยู่ในไร่ข้าวโพดด้านหลังบ้าน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า นางเหมือน ถูกคนร้ายลากเข้ามาในป่าข้าวโพดก่อนลงมือทำร้ายโดยใช้ของมีคมแทงที่ศีรษะและปาดคอจนเสียชีวิต ส่วนกรณี ถูกข่มขืนหรือไม่นั้นต้องผลการชันสูตรของแพทย์โดยละเอียดครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพ ส่งแผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก

ต่อมา ตำรวจได้ควบคุมนายแดง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี วัยรุ่นในหมู่บ้าน พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน ซึ่งเป็นสองผู้ต้องสงสัยที่มีพฤติการณ์ชอบลักเล็กขโมยน้อยภายในหมู่บ้าน เพิ่งออกมาจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.พิษณุโลก ไปสอบปากคำที่ สภ.นครไทย เบื้องต้นยอมรับสารภาพว่า ประสงค์ต่อทรัพย์จึงทำร้ายนางเหมือนจนเสียชีวิตโดยไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายแดง อายุ 16 ปี รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุฆ่า นางเหมือน ขุนจำนงค์ อายุ 78 ปี จริง หลังจากขอเงินผู้ตายแล้วไม่ยอมให้ จึงลงมือทุบหัวแล้วลากไปที่ป่าข้าวโพด ใช้อาวุธมีดปาดคอยายจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปพร้อมกับเงินของผู้ตายจำนวนหนึ่ง ไปซื้อโทรศัพท์และใช้จ่ายส่วนตัว จนเหลือเงินติดตัวเพียง 1,000 บาทเท่านั้น.