เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์เรื่องราวของบุคคลอ้างเป็นคนสนิทผู้ติดตาม รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น โดยมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ศรสุวีย์ ภู่รวีรัศวัชรี ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบได้เข้าตรวจสอบบ้านของ นายศรสุวีร์ หรือบอย ที่แอบอ้างคนสนิทผู้ติดตาม รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เผยความคืบหน้า สอบ “บอย ศรสุวีร์” กักตุนหน้ากากอนามัย เบื้องต้นยอมรับเป็นนายหน้า โกดังและหน้ากากอนามัยมีอยู่จริง     
พ.ต.ท.นิติกร ระวัง รอง ผกก.1 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.เทพฤทธิ ชาวนาวิก รอง ผกก.สส.สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน นำกำลังเจ้าหน้าที่รวมกว่า 30 นาย นำหมายศาลอาญาตลิ่งชัน เลขที่ ค.57/2563 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2563 เข้าตรวจค้นอาคารไทยเฮลท์ เลขที่​ 6/32 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม.หลังสืบทราบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเดียวกับที่ปรากฏอยู่บนคลิปที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ โดยภาพในคลิปมีผู้ชายลักษณะคล้าย นายศรสุวีร์ พูดว่า “พร้อมจำหน่ายหน้ากากอนามัยมีสินค้าประมาณ 200 ล้านชิ้น” โดยเนื้อหามีการโพสต์ข้อความคล้ายกับเชิญชวนให้มีการสั่งซื้อหน้ากากอนามัย และยังระบุว่ารู้จักกับ นายพิตนินันท์​ รักเอียด คณะทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์นายพันธ์ยศ เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นของตน ซึ่งแต่ก่อนเคยเปิดเป็นบริษัทไทยเฮล์ท จำกัด ที่เป็นธุรกิจอาหารเสริมความงามเพื่อสุขภาพ แต่ขณะนี้ได้ปิดกิจการไปแล้ว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ​ ส่วนคลิปที่ปรากฏบนโลกโซเซียลนั้น ตนยอมรับว่าเป็นบริษัทของตนจริง และยอมรับว่ารู้จักกับ นายศรสุวีร์ จริง โดยรู้จักกันมาได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งมีผู้ใหญ่ในกลุ่มนักธุรกิจแนะนำให้รู้จักหลังจากนั้น นายศรสุวีร์ ก็ได้ประสานขอให้ตนหาหน้ากากอนามัยในท้องตลาด เพื่อจะนำมาบริจาคในจำนวน 1 ล้านชิ้น แต่แค่อยู่ระหว่างคุยหลายละเอียด ซึ่งต้องชี้แจ้งก่อนว่า สาเหตุที่ นายศรสุวีร์ ประสานให้หาหน้ากากอนามัยที่ตนนั้น เพราะตนได้ทำธุรกิจกับชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มต้นระบาดที่ประเทศจีนนั้น ตนก็ได้รับการประสานของความช่วยเหลือจากทางการจีนในส่วนของฆณทลต่างๆ เพื่อให้เป็นธุระจัดหาหน้ากากอนามัยในประเทศไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประเทศจีน ตนยืนยันว่าเป็นแค่ตัวกลางในการติดต่อหาหน้ากากอนามัยให้หน่วยงานภาครัฐของประเทศจีน เพื่อนำไปช่วยเหลือคนประเทศของเขา และไม่ได้เป็นพ่อค้าคนกลางหรือบุคคลที่กักตุนสินค้าอย่างที่สังคมกำลังเข้าใจ การจัดหาแต่ละครั้งตนได้แค่ค่าดำเนินการ ส่วนการจัดส่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานของจีนที่ดำเนินการ ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเขานำออกไปอย่างไร