ดราม่าสนั่น! สนุ๊ก บดินทร์ ดาราหนุ่ม ติดโควิดไม่กักตัว! ลูกบ้านคอนโดดังผวาแจงกล่าวหาบูลลี่รังเกียจ?

กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อสนุ๊ก บดินทร์ นักแสดงประกอบชาย ติดโควิด-19 ซึ่งได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทั้งนี้พบว่า ดาราประกอบหนุ่ม กับเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกันในซอยรามคำแหง9 โดยมีคลิปที่ดาราหนุ่มระบุถูกบูลลี่หลังติดเชื้อโควิด-19 ลูกบ้านตึกเอในคอนโดดังกล่าว ได้ส่งหนังสือเข้าชี้แจงต่อสื่อมวลชนดังนี้
กรณีนักแสดงตัวประกอบสายบันเทิง ชื่อสนุ๊ก เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่พักอาศัยห้องชุด คอนโดมิเนียม ซอยรามคำแหง 9 ตึก A ได้ชี้แจงออกสื่อมวลชน วันที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 17.20 น. เป็นต้นไปในช่องทีวีต่างๆ กล่าวหาว่าลูกบ้านตึกA รังเกียจบูลลี่คนติดโควิด-19 ว่าไม่เป็นความจริง!!!
ตัวแทนลูกบ้านตึก A ขอชี้แจงข้อกล่าวหาจากคุณสนุ๊ก ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สบายใจกับพฤติกรรมคุณสนุ๊ก ดังนี้ :
1.คุณสนุ๊ก ลูกบ้านชั้น 4 ตึก A ได้เดินทางกลับจากรพ.จุฬา ทำให้ลูกบ้านบางส่วนเห็น เกิดความสงสัย จึงส่งตัวแทนสอบถามเรื่องราวต่างๆ กับคุณสนุ๊ก แต่คุณสนุ๊กไม่ค่อยให้ความร่วมมือ การให้ข้อมูลต่างๆ ไม่โชว์เอกสารใบรับรองแพทย์ เป็นต้นก่อนทิ้งท้ายพูดคุยบล็อกการพูดคุย แล้วบล็อกการติดต่อกับตัวแทนลูกบ้านตึก A ก่อนบล็อกก็ส่งสัญลักษณ์ Defend และ ยิบตา ต่อตัวแทนลูกบ้าน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเกิดขึ้น จากการสอบถามวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 63

2.เรื่องคุณสนุ๊ก อัดคลิปแจ้งว่าในวันที่ 30 มีนาคม 25632 ได้รักษาตัวต่อ ณ รพ. จุฬาฯ ก็เป็นมาตรการของรัฐบาล ที่ต้องกลับไปยัง รพ.จุฬาฯ ก่อนถูกต้องแล้ว เพื่อความแน่ใจในเรื่องเชื้อโควิด-19ให้ไม่มีจริงๆ และมีเอกสารยืนยันผ่านมายัง นิติฯ เพื่อประกาศผลต่อไปให้ลูกบ้านทราบ โดยเฉพาะลูกบ้านตึก A อยู่ตึกเดียวกับคุณสนุ๊ก 3.เรื่องการกลับมากักตัว ณ ที่พักอาศัย ลูกบ้านไม่เคยสนใจกัน หรือก้าวก่าย แต่ก่อนเข้าพักกักตัว ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องพักหรือยัง? การกลับมาก็ต้องแจ้งส่วนกลางนิติเพื่อแจ้งประกาศให้ลูกบ้านทราบ เพราะโรคนี้เป็นโรคใหม่ ต้องสร้างความเข้าใจกันอย่างมาก และสร้างความไม่งุนงงหรือเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น 4.ลูกบ้านตึก A บางท่าน เห็นคุณสนุ๊ก ไม่กักตัวตามแจ้ง จึงได้แจ้งกรุ๊ปตึก A เช่น ยืนรับของหน้าตึก เป็นต้น (ส่วนการเคลื่อนไหวต่างๆ รอเช็คกล้องวงจรปิด)5.สำหรับการที่คุณสนุ๊ก กล่าวหาลูกบ้านบูลลี่+รังเกียจคนติดโควิด-19 ขอยืนยันไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีใครรู้จักคุณสนุ๊ก และแต่ละคนก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายแก่คุณสนุ๊ก ก่อนพูดจาด้วยอารมณ์ การไม่ไตร่ตรองถี่ถ้วน คุณสนุ๊กต้องคิดก่อนพูดทุกครั้ง รวมถึงประเมินผลเสียที่จะตามมาต่างๆ ให้รอบคอบเกี่ยวกับตัวคุณสนุ๊กเอง จะมาขอโทษ ความรู้สึกก็เสียไปแล้ว 6.คุณสนุ๊ก ต้องทราบสังคมคอนโด การอยู่อาศัยร่วมกับคนในคอนโด ที่แห่งนี้มีคนปริมาณมาก ในชั้นคุณสนุ๊กพักอาศัย ชั้น 4 มีลูกบ้านเป็นโรคปอด มีเด็ก มีคนชรา มีหลากหลายในตึกทุกอาชีพ ณ จุดนี้ ต้องเห็นอกเห็นใจและต้องมีจิตสาธารณะ การพูดจาออกสื่อต่างๆ ต้องตรึกตรอง ต้องให้เกียรติผู้อื่น และกล่าวหาบูลลี่ลูกบ้านในตึก A จำนวนกว่า 200 กว่าห้อง ทำให้สังคมเข้าใจผิด รวมถึงทัศนคติลูกบ้านตึก A ของ คอนโด ซอยรามคำแหง 9 ตึก A ที่นี่คือรู้จักกัน ไม่มีใครคิดร้ายแน่นอน และช่วยเหลือกันแบบมีวุฒิภาวะ ** คุณสนุ๊กเคยมีส่วนร่วมหรือไม่กับลูกบ้านตึก A และรู้จักทุกคนหรือยัง อย่าตัดสินเพราะมองมุมเดียว คุณสนุ๊กต้องเข้าใจสถานการณ์ไวรัสโควิด19 ขณะนี้ยังไม่มียารักษา ต้องเข้าใจผู้อื่นด้วย ** ขอยืนยันจากตัวแทนลูกบ้านตึกเอ ไม่มีใครมีเจตนาไม่ดี และขอยืนยันไม่มีลูกบ้านคนใด ต้องบูลลี่+รังเกียจคนติดโควิด-19อย่างคุณคุณสนุ๊ก พฤติกรรมคุณสนุ๊ก กำลังสร้างความแตกแยกเกิดขึ้นในสังคม โดยเอาความคิดตนเองมาชี้แจงออกสู่สาธารณะที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะนี้สังคมต้องการการมีจิตสาธารณะลดการขัดแย้ง

ล่าสุด สนุ๊ก บดินทร์ ได้เขียนจดหมายชี้แจงผ่านทางรายการ วันบันเทิง ขอโทษเพื่อนบ้านร่วมคอนโด หากทำให้เกิดความวิตกกังวลและไม่สบายใจ โดยระบุว่า “ตอนนี้ผม สนุ๊ก บดินทร์ ฤกษ์วุฒิพงษ์ ได้มาพักรักษาและกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อให้ครบกำหนดในวันที่ 4 เมษายน 2563 ซึ่ง ณ วันนี้ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ของผมออกมาเป็นลบ 2 ครั้งแล้ว แต่ผมก็ยังกักตัวต่อให้ครบ 14 วัน ตามคำสั่งของแพทย์หากการที่ผมได้รับอนุญาตให้กลับไปกักตัวได้ที่คอนโดก่อนหน้านี้แล้วอาจเป็นการทำให้ผู้ที่อาศัยร่วมกันในคอนโดเกิดความวิตกกังวล ไม่สบายใจ ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ท้ายนี้ผมอยากสื่อสารทำความเข้าใจและขอความเห็นใจจากคนในสังคม ในฐานะผู้ป่วยคนหนึ่งที่เป็นโรคโควิด-19 โรคอุบัติใหม่ ซึ่งเมื่อเราได้กลายเป็นผู้ป่วยโรคนี้ ก็ได้รับความทุกข์กายและใจอยู่แล้ว จากความกังวลและอยากที่จะหายเป็นปกติในเร็ววัน ด้วยความหวังจากการรับรักษาของแพทย์ จึงอยากขอให้พยายามเข้าใจและเรียนรู้แนวทางปฏิบัติตัว แนวทางและขั้นตอนการรักษาโดยดุลยพินิจของแพทย์ และขอให้กำลังใจกับผู้ป่วยทุกท่านให้รักษาหายเป็นปกติในเร็ววัน ได้กลับไปดำเนินชีวิตต่อไปโรค โควิด-19 นี้ ทางการแพทย์สามารถรักษาให้หายได้ อย่างเคสของผมถือว่ามารักษาทันทีและโชคดีที่เชื้อไม่ลงไปสู่ปอด อาการไม่หนักไม่รุนแรง เรียกว่าแทบไม่แสดงอาการใด ๆ ใครที่สังเกตตัวเองเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้สูงเกิน 37.5 องศา ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ หรือพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ อยากแนะนำว่า ขอให้รีบมาตรวจเพื่อจะได้รักษาได้ทันที มีโอกาสรักษาให้หายได้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของโรคด้วยครับ ขอบคุณครับ”