แถลงข่าว…!! คดีแคนดี้ รากแก่นเอี่ยวขบวนการขนแอลกอฮอล์เถื่อน ตุนไว้ขายฟันกำไร

วันที่ 3 เมษายน พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวถึงการยึดแอลกอฮอล์จำนวน10,000ลิตร ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับแคนดี้ รากแก่น นักร้องชื่อดัง โดยนายตำรวจเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นในวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นนทบุรี พบเห็นรถบรรทุกเอทานอล หรือ แอลกอฮอล์ จำนวน 10,000 ลิตรจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง และกำลังบรรจุแอลกอฮอล์ดังกล่าวใส่ลงในถังพลาสติก 200 ลิตร ประมาณ 50 ถัง ชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดไฟลุกไหม้ จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบรถบรรทุกคันดังกล่าวจอดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 18/ 674 หมู่5 หมู่บ้านเปี่ยมสุข ซอยประชาสุขสรรค์ 10 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งบรรจุแอลกอฮอล์ไปแล้ว 47 ถัง จึงเข้าตรวจสอบพบว่าแอลกอฮอล์ดังกล่าวไม่มี อย. และบางส่วนแสดงสลาก อย. ปลอม

สอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ น.ส.นันทพันธ์ หรือดาว พิสิษฐ์เดโช อายุ 34 ปี และมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย คือ 1.น.ส.วาทินี หรือแคนดี้ รากแก่น นักร้องสาว 2.นายราวี หรือแอนดี้ พิมพิพัฒน์ อายุ 45 ปี และ3.บริษัทซีดีเอ็ม พลีส จำกัด ที่อยู่ จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังพบแอลกอฮอล์อีกจำนวนหนึ่งอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว โดยพบว่าเป็นของน.ส.นันทพันธ์ หรือดาว และพวกอีกกลุ่มหนึ่ง

โดยโรงงานที่ผลิตแอลกอฮอล์ในประเทศไทยมีทั้งหมด 11 โรงงาน ที่ผ่านมาโรงงานเหล่านี้ได้ส่งผลิตภัณฑ์ไปยังปั้มน้ำมัน เพื่อใช้เป็นส่วนผสมให้การผลิตนำ้มันแก๊สโซฮอล 95 หรือ 91 แต่ช่วงนี้รัฐบาลได้ผ่อนปรนให้นำมาใช้ทำเจลล้างมือได้ ซึ่งคนที่จะครอบครองแอลกอฮอล์ได้ จะมี 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มโรงงานที่ได้รับอนุญาต และกลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่ขออนุญาตจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด โดยพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้สมคบคิดที่จะกระทำความผิด โดยไปขอยื่นข้อมูลอันเป็นเท็จกับกรมสรรพสามิต จ.เชียงใหม่ ให้เหตุผลว่าจะขอซื้อแอลกอฮอล์ 10,000 ลิตร จากโรงงานผลิตที่ จ.ปราจีณบุรี

เจตนาอ้างว่าจะซื้อเพื่อไปบริจาค ทำให้ได้ราคาที่ปลอดภาษี

ทั้งนี้เจ้าหน้าพบหลักฐานเอกสารเส้นทางการเงิน รวมถึงพยานบุคคลยืนยัน ให้การเอาผิดกับแคนดี้และพวกได้ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าทราบว่าเจตนาของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ได้จะนำไปบริจาค แต่เพื่อจะนำไปจำหน่ายต่อ เนื่องจากต้นทุนของแอลกอฮอล์ที่ได้มาในราคา 55 บาท แต่ไปขาย 200 กว่าบาท

ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสิ่งของซึ่งได้รับการยกเว้นภาษี สำหรับอัตราโทษนั้นปรับจำนวน 10 เท่าของภาษี เมื่อคิดคำนวนออกมาแล้วจะถูกปรับคนละประมาณ 6 แสนบาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ถูกจับกุมไป 1 คนคือ น.ส.นันทพันธ์ หรือดาวในวันเกิดเหตุ ส่วน น.ส.วาทินี หรือแคนดี้ ได้เดินทางพบพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อวานนี้ โดยให้การภาคเสธว่า เจตนาของตนเพื่อนำไปบริจาคเท่านั้น ส่วนอีก 2 คน ซึ่งเป็นเพื่อนและญาติของน.ส.วาทินี อยากให้มาพบพนักงานสอบสวนโดยเร็ว ถ้าไม่มาก็จะขอศาลอนุมัติหมายจับต่อไป

 

**********************************

(ขอขอบคุณเรื่องจาก @Tempo)