จากกรณีดราม่าร้อนฉ่าในโลกออนไลน์ หลังจากที่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รัฐบาลเริ่มที่จะทยอยโอนเงินมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) ที่เปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ให้กับ ปชช. ไปบ้างแล้ว
แต่กลับมีหญิงสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งคาดว่าเธอเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้า โพสต์ข้อความแจ้งว่าเธอได้รับเงิน 5,000 บาทแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตเข้าไปถล่มเธออย่างหนักหน่วงคือข้อความที่เธอโพสต์นั้น บอกว่า 5 พันบาทก็แค่เศษเงิน ซึ่งหญิงสาวคนนี้เขียนข้อความระบุว่า “5 พันเข้าบัญชีแล้วค่ะ ก็แค่เศษเงินหลังตู้เย็น เหอะ!!” งานนี้ทำเอาทัวร์ลงจนสาวรายนี้ต้องรีบลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแทบไม่ทัน
ต่อมา นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แจงดราม่าเกี่ยวกับกรณีที่มีสาวโพสต์ว่า ได้รับเงินเยียวยาแล้ว 5,000 บาท แต่เป็นแค่เศษเงิน ซึ่งภายหลังได้ออกมาขอโทษแล้ว ว่า กระทรวงการคลัง ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งกำลังตรวจสอบ จากฐานข้อมูลซ้ำอีกรอบ หากไม่มีคุณสมบัติ จะต้องส่งเงินคืนภายใน 90 วัน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลง ที่ให้รับทราบตั้งแต่การลงทะเบียนแล้ว
ทั้งนี้ หากพบว่า เป็นคนที่ไม่ได้รับเงิน แต่อ้างว่ารับเงิน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็จะได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงดีอี ไปดำเนินการต่อ แต่หากได้รับเงินจริง แล้วอ้างว่า ลงไปเล่นๆ ฟลุกได้ ก็จะต้องมาตรวจสอบ พร้อมเรียกเงินคืน แล้วจะได้ระงับเงินในเดือนต่อๆ ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้มาลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบต้องรีบคัดกรองข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ เพื่อจะได้ทำการจ่ายเยียวยาให้ทันท่วงที
ด้าน อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กับเนชั่นทีวี หลังจากที่ วันนี้เริ่มทยอยโอนเงิน 5,000 บาทแรก เข้าบัญชีผู้ที่มีคุณสมบัติครบในโครงการเราไม่ทิ้งกัน โดยเปิดเผยถึงการดำเนินการหลังจากนี้ นายอุตตมระบุ ว่า จะมีการเช็กตัวตนผู้ที่ลงทะเบียน ว่าได้รับเงินจริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับเงินจริง แล้วเอาข้อมูลที่ไม่จริงเข้ามา จะมีผลอย่างไร
กรณีได้รับเงินจริง เราสามารถตรวจสอบได้ว่าคุณสมบัติตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริง ก็มีแนวทางดำเนินการ ต้องเรียกเงินคืน ย้ำว่า หากกรอกข้อมูลไม่จริง จะดำเนินการในทุกกรณี ถ้าข้อมูลปลอม ไม่ได้ไปต่อแน่นอน
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลในขณะนี้ รัฐมนตรีคลัง บอกว่า เป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ทราบว่าเจตนาเป็นอย่างไร เงินที่ให้ในครั้งนี้รัฐบาลตั้งใจดูแลพี่น้องประชาชน อาจจะไม่มากมายแต่มีความหมายในภาวะเช่นนี้ ส่วนใหญ่เข้าใจในเรื่องนี้ดี
ประเด็นจำนวนเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท ที่รัฐบาลกำหนดนั้นมาจากไหน นายอุตตม กล่าวว่า ได้มีการวิเคราะห์ในหลายปัจจัย เทียบเคียงกับระบบประกันสังคม รายได้ของประชาชน และงบประมาณที่รัฐบาลมี โดยรอบแรกใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาท
ส่วนกรณีขยายเวลาแจกเงินจาก 3 เดือน ขยายเป็น 6 เดือนนั้น รัฐมนตรีคลังบอกว่า เข้าใจ และรัฐบาลรับไว้ พร้อมอธิบายต่อว่าเราไม่รู้ว่าวิกฤติโควิด-19 จะยืดยาวแค่ไหน แต่ในหลักการเยียวยานั้น เราดูแลทุกกลุ่มแน่นอน โดยเริ่มต้นจากกลุ่มที่มีสิทธิประกันสังคม ต่อด้วยกลุ่มอาชีพอิสระ และมาตรการต่อมาจะดูแลเกษตรกรด้วย แต่ละกลุ่มก็มีวิธีการไม่เหมือนกัน แต่ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพการณ์ความเป็นจริง ในอนาคตสามารถขยับปรับเปลี่ยนได้
ส่วนเรื่องการแจกเงิน ที่มีบางคนยงไม่ได้รับ SMS แต่ได้รับเงินแล้ว นายอุตตม กล่าวว่า เราทำตามแผนงาน โดยชุดแรกใช้เวลา 7 วัน โดยระบบสามารถเซ็ตตั้งเวลาการจ่ายเงินได้ และก็จะมี SMS ตามไปเป็นการยืนยัน
ส่วนกรณีที่คนสงสัยในโลกออนไลน์คนในครอบครัวได้รับสิทธิทั้งบ้าน นายอุตตม กล่าวว่า ต้องดูว่าแต่ละคนเข้าข่ายคุณสมบัติหรือไม่ ดูองค์ประกอบเพิ่มเติม ความจำเป็น ก่อนที่จะจ่ายเงิน แต่ก็จะมีในบางกลุ่มที่ไม่เข้าข่าย เช่น แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา หรือยกตัวอย่างคุณพ่อเกษียณแล้วและได้รับบำนาญ แม้ครอบครัวจะถูกกระทบก็ไม่มีสิทธิ
ล่าสุด เฟซบุ๊ก Kiat Kitcharoen ของ ป๋ากิ๊ก โพสต์ข้อความระบุว่า ไม่ว่ามึงจะโพสต์เล่นหรือโพสต์เอามันหรืออะไรก็ตาม จากนี้ไปชีวิตมึงจะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้วแหละ…
ได้เงินแล้วก็เงียบไว้ คนอื่นเค้ามีความจำเป็นต้องใช้แล้วไม่ได้ ก็ตั้งเยอะ มึงจะโพสต์ เพื่อ????
