เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เอ็นดู แมทธิว-ลีเดีย เผยภาพ น้องดีแลน-เดมี่ ในวันที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน อีกสองชีวิตที่ต้องปรบมือให้ก็คือสองหนูน้อย ดีแลน ดีน-เดมี่ ดีน ที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แมทธิว-ลีเดีย ต้องอยู่กับคุณตาคุณยาย แต่ก็ยังอารมณ์ดี ร่าเริง ปรับตัวได้ดี ในวันที่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างน่ารักน่าชัง ล่าสุด ลีเดีย ลงรูป น้องเดมี่ เจ้าแป๋วแหววตัวเล็กที่อยู่กับคุณตาคุณยายทำหน้าบ้องแบ๊ว พร้อมคุณแม่มีแคปชั่นถึงลูกน้อยว่า “แป๋วรัวๆ #เด็กหญิงแป๋วแหวว #DailyDoseofDemiDeane #พลังใจของทุกวัน”พี่ชายที่แสนดี น้องดีแลน กับโมเม้นท์ที่ดูแลน้องสาวเดมี่ เป็นอย่างดีน้องเดมี่ สายตาอ้อนหนัก อยากให้ ลีเดีย-แมทธิว กลับบ้าน

น่ารักน่าเอ็นดู ขณะที่ แมทธิว ก็โพสต์คลิป น้องดีแลน นั่งเลียกินราสเบอร์รี่ เชอเบท อย่างตั้งอกตั้งใจ จนคุณพ่อต้องโพสต์ดุลูกชายขำๆ ว่าใครสอนให้กินท่านี้ “ใครสอนให้กินแบบนี้!? Dylan and his Rasberry sorbet” งานนี้ต้องบอกเลยว่าครอบครัว “ดีน” สดใส มองโลกแง่บวก สตรองกันทุกคน และสองหนูน้อยคือ “พลังใจของทุกวัน” สำหรับ แมทธิว-ลีเดียจริงๆ.

น้องดีแลน ชื่อจริง ธาวิน แปลว่า ผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ลูกชายตัวน้อย น้องดีแลนด้วยการผ่าคลอด ไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมากชมความน่ารัก หล่อออร่ากระจาย “น้องดีแลน” ลูกชายคนเก่งของคุณแม่ลิเดีย

แมทธิว-ลิเดีย อาการดีขึ้น ไขข้อสงสัย “ทำไมเราอยู่ด้วยกันได้” ‘แมทธิว ดีน’ และ ‘ลิเดีย ศรัณย์รัชต์’ สองสามีภรรยาที่ติดเชื้อ และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ล่าสุด (8 เมษายน 2563) ทั้งคู่อัดคลิปอัปเดตอาการล่าสุด แม้ว่าผลยังเป็นบวกอยู่ แต่ร่างกายของทั้งคู่นั้นดูสดใสขึ้นมาก ๆ และได้ไขข้อสงสัยว่าทำไมทั้ง 2 คนถึงอยู่ด้วยกันได้ หลังจากที่มีหลายฝ่ายตั้งคำถามมาเยอะ

สำหรับ ‘แมทธิว ดีน’ ได้ระบุว่าตนเองตรวจเชื้อไปถึง 5 ครั้งแล้วแต่ผลยังคงเป็นบวกอยู่ รักษาตัวอยู่ใน รพ. มาร่วมเดือน อาการตอนนี้ก็โอเคแล้ว ร่างกายประมาณ 99% ขณะที่ภรรยา ‘ลิเดีย’ ตรวจไปครั้งที่ 3 ผลก็ยังคงเป็นบวกอยู่เช่นกัน

ขณะเดียวกันประเด็นที่หลายๆ คนก็สงสัยบางคนหายเร็วหายช้า เรื่องนี้เราก็ไม่สามารถบอกได้ มันค่อนข้างพูดยาก หลายๆ เคสก็แตกต่างกันไป บางคนทั้งไอ เหนื่อย แต่ผลเป็นลบแล้ว แต่สำหรับเราคือไม่มีอาการอะไรเลย แต่ผลยังเป็นบวกอยู่ หนักสุดก็จะเป็นช่วง 10 วันแรก แต่ตอนนี้โอเคแล้ว ผ่านวิกฤติช่วงนั้นมาแล้ว มันจะอันตรายที่สุดถ้าลงปอด ตอนนี้ก็รักษาต่อไปเรื่อยๆ

และอีกเรื่องที่สงสัยว่าทำไมเราถึงอยู่ด้วยกันได้ คือ หมอก็อนุญาตให้อยู่ด้วยกันได้ เพราะเราก็เป็นไวรัสตัวเดียวกัน มีภูมิต้านทานแล้วเลยสามารถที่จะรักษาไปด้วยกันได้ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยเป็นก็อาจจะติดได้ อยากให้ทุกๆ คนดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ดื่มน้ำพักผ่อน ทานอาหารให้ครบหมู่ ส่วนเราก็จะรักษาอยู่ที่นี่กันต่อไปจนกว่าจะหาย ไม่อยากเอาเชื้อไปแพร่ต่อคนอื่นๆ ขอให้ทุกนสู้ ๆ เราต้องชนะมัน ให้ได้

“ลิเดีย-แมทธิว” เปิดใจคุย 27 วัน ในการรักษา ออกมาเปิดใจพูดคุยและอัปเดตอาการให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอีกครั้ง สำหรับคู่สามีภรรยา แมทธิว ดีน และ ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน หลังจากเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากติดเชื้อ เป็นเวลานานถึง 27 วัน

โดยงานนี้ ลิเดีย-แมทธิว ได้เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่สดใสและมีรอยยิ้ม พร้อมคลายข้อสงสัยด้วยว่า ทำไมคู่ตนถึงเข้ารับการรักษาตัวนานกว่าคนอื่น ทั้งๆ ที่ร่างกายดูปกติแล้ว นั่นก็เพราะผลเลือดที่ตรวจยังออกมาเป็นลบ แต่ทั้งคู่ก็พร้อมที่จะอยู่โรงพยาบาลต่อไปจนกว่าจะหายดีเป็นปกติ เนื่องจากไม่อยากนำเชื้อกลับไปแพร่ให้คนอื่นรวมถึงคนในครอบครัว และไม่อยากให้ใครต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

ทั้งนี้ ลิเดีย-แมทธิว ยังได้ตอบคำถามที่ว่าทำไมทั้งสองถึงอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย นั่นก็เพราะตนมีเชื้อ ตัวเดียวกัน และต่างก็มีภูมิต้านทานแล้ว ซึ่งคุณหมอบอกว่าเชื้อไม่น่าส่งกลับไปมาหากันได้ แมทธิว : “สวัสดีครับทุกคน ยังอยู่ที่เดิมนะครับตอนนี้เราสองคน (ยิ้ม) ผมก็อยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงวันนี้ก็ประมาณ 27 วันได้แล้ว” ลิเดีย : “ส่วนเดียอยู่ตั้งแต่วันที่ 16 ก็ประมาณ 24-25 วันค่ะ”

แมทธิว : “ก็อย่างที่เห็นครับ อาการเราโอเคนะ ได้อยู่ รู้สึกว่าร่างกาย 99 เปอร์เซ็นต์ครับ เราก็นอนกินอยู่นี่ ทำเหมือนที่ทุกๆ ท่านกำลังทำอยู่ที่บ้านนะครับ นอน กิน ดูนู่น ดูนี่ พยายามให้ร่างกายมันเคลื่อนไหวนิดหนึ่ง ครั้งนี้เราไม่ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรที่จะมาพูดสักเท่าไหร่ เพราะล่าสุดที่ได้ไปเมื่อวันก่อนผลยังเป็นบวกอยู่ (positive) หลังจากที่ตรวจสวอปของผมไปประมาณ 5 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นบวกอยู่ เราสองคนและมีพี่ป๋องที่เป็นพิธีกรร่วมที่ลุมพินี ก็ยังเป็นพวกกันอยู่ทั้ง 3 คนครับ เท่าที่รู้มีบางคนเข้ามา ผลตรวจลบเร็ว ได้กลับบ้านเร็ว หายก่อน ก็แล้วแต่ครับ เราบอกไม่ถูกจริงๆ กับโรคนี้ มันไม่มีอะไรที่แน่นอนจริงๆ ครับ”

ลิเดีย : “เขาบอกว่าในหลายเคสจะไม่เหมือนกันเลย อย่างเคสเราอาการมันค่อนข้างโอเคทุกอย่าง แต่ยังตรวจออกมาเป็นบวก บางคนเดินยังเหนื่อย ยังหอบอยู่ ไอหนักมาก แต่ผลเป็นบวกแล้ว บางคนตั้งแต่แรกเข้ามาไม่มีอาการอะไรเลย ไม่ต้องกินยา แต่ผลยังเป็นลบอยู่ อะไรแบบนี้ มันก็แล้วแต่คน ส่วนของพวกเราน่าจะผ่านจุดที่เรียกว่าวิกฤตที่สุดมาแล้ว คือถ้าเราออกมาจากห้องไอซียูแล้ว และผ่านมา 20 กว่าวันแล้ว ก็น่าจะโอเคแล้ว น่าจะไม่ทรุดอีกรอบหนึ่ง”

แมทธิว : “หนักสุดก็คือช่วง 10 วันแรกนี่แหละครับ ที่เขาบอกเป็น 10 วันอันตรายของทุกๆ คน มันจะต้องดูเรื่องของไข้ให้ดี จะต้องตรวจดูเรื่องชองปอดว่าติดเชื้อไหม มีปัญหาเรื่องการหายใจอะไรหรือเปล่า ซึ่งก็โชคดีครับที่บ้านเรามีโรงพยาบาลค่อนข้างเยอะ และรับคนไปตรวจเยอะ มีการคุมเข้มอยู่”

ลิเดีย : “ที่สำคัญเดียว่าต้องดูว่ามันลงปอดไหม ถ้ามันไม่ลงปอดก็น่าจะรักษาได้ง่ายกว่า ไม่ต้องมีอะไรที่กังวลมาก อาจจะไม่ต้องกินยาก็ได้ แล้วแต่คนนะ แต่ถ้ามันลงปอดเมื่อไหร่ เราก็ต้องดูว่ามันลงและมันลามขนาดไหน ต้องรักษาไปแนวทางไหน สำหรับพวกเราตอนนี้ถ้าถามว่าทำไมยังไม่รู้สึกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ คือของเดียยังมีการไอบ้างนิดหน่อย ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการพวกนี้คือการฟื้นตัวของร่างกายเรา ในเมื่อปอดเรามันโดน เข้าไปอยู่ในปอด ก็เป็นแผลอยู่ในปอด ร่างกายเราก็จะค่อยๆ ซ่อมแซมมา จะผลิตเสมหะขึ้นมา หรืออะไรต่างๆ ที่ทำให้เราไอหรือมีอาการระคายคอบ้าง มันคือขั้นตอนของการซ่อมแซมร่างกายเรา”

แมทธิว : “จริงๆ มันไม่ได้อันตรายแล้ว แต่มันแค่เป็นส่วนที่ร่างกายจะต้องซ่อมตัวเองครับ” ลิเดีย : “ซึ่งตามทฤษฎีเขาบอกว่าตอนนี้อาจจะตรวจแล้วเจอเชื้อ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเชื้อที่ตรวจเจอแล้วตายแล้ว หรือเป็นเชื้อที่ยังไม่ตาย คือเราก็ยังไม่รู้” แมทธิว : “แต่เราต้องเดาว่ามันยังมีชีวิตอยู่เพราะในเมื่อเจอแล้ว ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้ทำร้ายเราแล้ว แต่มันมีโอกาสที่จะไปแพร่ให้คนอื่น ไปทำร้ายคนอื่นได้ เพราฉะนั้นก็ต้องรอให้ผลมันออกมาลบจริงๆ ถึงจะกลับบ้านกันได้” ลิเดีย : “แต่ถ้ามันลบจริงๆ แล้ว และเราหายแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่ดีก็ตรงที่ว่า เราจะมีภูมิต้านทานสำหรับตัวเชื้อนี้ไปสักระยะหนึ่ง ก็อาจจะช่วยผู้ป่วยคนอื่นๆ ได้ อย่างที่คุณหมอบอกว่าอาจจะเอาตัวพาสมาร์เราไปบริจาคและช่วยได้”

แมทธิว : “ถ้าเราหายดีแล้วจะจัดการกันอย่างแน่นอน สำหรับทุกคนผมเชื่อว่าก็คงจะอยู่บ้านกันไปอย่างต่อเนื่องนะครับในช่วงนี้ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ ดูจากตัวเลขในประเทศไทยตอนนี้ ก็รู้สึกดีถ้าตัวเลขอยู่ประมาณนี้และค่อยๆ ลดลง ผมว่าเราก็มาถูกทางแล้วแหละ ในวิธีการแบบนี้ มีการเว้นระยะห่างทางสังคม อยู่บ้าน เจอคนน้อย มันก็จะทำให้คนเป็นน้อยลง และมันจะกระจายน้อยลงไป ก็ทำกันไปเรื่อยๆ ครับ เข้าใจว่ามันลำบาก ผมว่าคนทางบ้านน่าจะลำบากกว่าเราสองคนด้วยซ้ำ เพราะอยู่โรงพยาบาลยังมีอาหารกิน 3 มื้อ ไม่ต้องทำอะไรมากมาย มีทั้งพยาบาล คุณหมออยู่ และยังอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน”

ลิเดีย : “แต่ก็อยากเจออากาศข้างนอกนะ (หัวเราะ)” แมทธิว : “อันนั้นมันก็อยากเจอ แต่คนอื่นที่ต้องอยู่กับโรคและโลกความเป็นจริง ยังคงต้องกลัวในเรื่องของเชื้อ ยังคงต้องระวังในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ ก็คงจะหนักหน่อย เหนื่อยหน่อย แต่ผมว่าทำไปเถอะ ผมไม่อยากให้คนต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบเรา ถึงร่างกายเราจะไม่ได้เป็นหนักมาก แต่มันกระทบเรื่องของจิตใจมากกว่า ของเราคือ 4 สัปดาห์ที่อยู่ตรงนี้ มันก็เบื่อสุดๆ บอกตรงๆ มันอยากจะเจออากาศ เจอแสงแดด อยากกลับไปเจอครอบครัว อยากกลับไปกอดลูก นี่คือสิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับเรา เราก็ไม่อยากจะให้ใครมาเจอแบบนี้แหละ”

ลิเดีย : “แต่อย่างน้อยก็ยังมีกันและกัน เพราะลองคิดดูถ้าต้องอยู่คนเดียว และสู้กับโรคอยู่คนเดียว ก็คงหนัก” แมทธิว : “บางคนคงจะตกใจที่วันนี้เราไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยกัน และอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้ ซึ่งทางคุณหมอบอกว่าโอเคอยู่ เพราะเราทั้งผ่านในส่วนที่เป็นไวรัสที่มันจะเป็น ซึ่งเราก็เป็นตัวเดียวกันนี่แหละ มันเลยไม่มีโอกาสที่จะส่งไปหรือส่งกลับมาแล้วครับ”

ลิเดีย : “เรามีภูมิต้านทานแล้ว มีแต่คนที่ยังไม่เคยเป็นมาก่อนนี่แหละที่เราจะทำให้เขาติดได้” แมทธิว : “อีกอย่างคืออยากจะให้ทุกคนคิดถึงเรื่องของร่างกาย ระหว่างที่อยู่ในบ้าน หรือไม่สามารถออกไปไหนได้มากมาย ลองออกกำลังกาย เดี๋ยวนี้ก็ทำการเยอะครับ มันเป็นการกระตุ้นร่างกายและภูมิต้านทานของให้แข็งแรงขึ้น ถ้าเกิดบังเอิญเราจะต้องไปเจอเชื้อ และร่างกายของเรามีความแข็งแรง ถึงแม้จะเป็นก็อาจจะเป็นในขั้นที่ไม่หนักเหมือนเรา ผมเชื่อว่าการที่เราดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย กินวิตามิน กินอาหารดีๆ มันมีผลต่อการที่เราเป็นจะได้ไม่รุนแรงมาก ถึงจะเป็นนานแต่มันไม่ได้รุนแรงมากมายสำหรับเรา เพราะฉะนั้นดูแลร่างกายให้ดีครับ”

ลิเดีย : “ใช่ค่ะ ก็อย่าลืมดื่มน้ำ พักผ่อน ทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ทานวิตามิน อาหารเสริม ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ให้แข็งแรงที่สุด อย่างตอนนี้พวกเราก็ได้กินยาต้านไวรัสอะไรแล้ว ก็พยายามดูแลสุขภาพร่างกายเราให้ดีที่สุด” แมทธิว : “เดี๋ยวเราจะคอยอัปเดตให้ฟังบ่อยๆ นะครับ ซึ่งจะตรวจเชื้ออีกทีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จริงๆ คุณหมอไม่อยากตรวจให้แล้ว เพราะเชื่อว่ามันยังคงเป็นบวกอยู่ จนจะครบเดือนกว่าๆ เพราะฉะนั้นรอต่อไป ไม่เป็นไรครับ มาอยู่กันขนาดนี้แล้ว เราอยู่ได้ครับ เพราะไม่อยากที่จะกลับไปแล้วไปแพร่ต่อให้กับคนอื่น ยิ่งคนในครอบครัวก็ไม่อยากให้ใครเป็นแน่นอน เพราะฉะนั้นเราอยู่นี่แหละครับ สบายดี สู้ๆ ครับทุกคน ลุยกันต่อ เราต้องชนะ  ให้ได้อย่างแน่นอน”