เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 63 ถือเป็นวันที่ 6 ของภารกิจที่ คุณท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ คุณไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ออกตระเวนเดินเคาะประตูบ้านเพื่อมอบเงินช่วยเหลือให้กับครัวเรือนในพื้นที่ชุมชนแออัด ที่ได้รับผลกระทบ โดยแต่ละครอบครัว จะได้เงินครอบครัวละ 500ถึง1000 บาท แล้วแต่ความเหมาะสม

โดย คุณท็อป และ คุณไทด์ ได้เตรียมเงินไว้จำนวน 4.5 แสนบาท เพื่อนำไปเเจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนโค้งยมราช ย่านราชเทวี ที่มีผู้อาศัยกว่า 250 ครัวเรือน และมีประชากรกว่า 600 คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยที่ชุมชนดังกล่าวนั้นเป็นชุมชนดังเดิมที่อยู่มานานกว่า 100 ปี คนส่วนใหญ่ในชุมชนจะประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปเป็นหลัก

คุณท็อป และ คุณไทด์ เปิดเผยว่า ทางตนและทีมงานได้เตรียมเงินมาจำนวน 4.5 แสนบาท แต่วันนี้จะพิเศษกว่าวันอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการแจกเงินจากเดิมที่จะให้ครอบครัวละ 500 บาท ตอนนี้เลยเพิ่มจำนวนเงินขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายให้ครอบครัวที่มีเด็กเล็กอยู่ด้วย

โดยครอบครัวไหนที่มีบุตรอยู่ไม่ว่าจะจำนวนเท่าไหร่ ก็จะให้ทันทีคนละ 100 บาท เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระหัวหน้าครอบครัวที่จะต้องเจียดเงิน 500 ไปให้เขาอีกด้วย ซึ่งถือเป็นเหมือนการให้รางวัลกลุ่มคนที่เขาให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน

ตอนนี้ยอดเงินที่นำมาใช้ในภารกิจดังกล่าวอยู่ที่จำนวน 7 ล้านบาท แต่ก็ยังมีสปอร์ตเซอร์ต่าง ๆ เข้ามาร่วมด้วย โดยวันจันทร์นี้จะมีการนำเงินมาให้อีก 5 แสนบาท แต่ขอให้ได้เงินมาชัดเจนก่อนถึงจะแจ้ง ยอมรับว่าทุกบาทที่ร่วมมาสนับสนุนถือว่าเป็นสิ่งดีที่จะช่วยสังคม อย่างไรก็ตามส่วนตัวยังเล็งจะเอาเงินค่าพรีเซนเตอร์ที่ติดต่อมาในช่วงนี้เข้าสมทบทุนทั้งหมด

ทั้งนี้ ยังมีประชาชนหลายคนติดต่ออยากจะร่วมบริจาคด้วย พร้อมขอเลขบัญชีเพื่อโอนเงินเข้ามา ทำให้ต้องปฎิเสธเนื่องจากภารกิจของเรายืนยันมาตลอดว่าจะไม่ขอเปิดรับบริจาค แต่ให้ร่วมมาสมทบทุนได้หรือนำเงินมาร่วมได้ โดยได้เเนะนำให้กลุ่มคนที่จะโอนเงินเข้ามาบริจาคกับภารกิจของตนไปบริจาคตามโรง รพ ที่เปิดรับบริจาคจะดีกว่า

ขณะที่ ป้าแหม่มพร้อมลูกชาย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนโค้งรถไฟเยาวราช เขตราชเทวี บอกว่า ก่อนหน้าที่จะมีสถานการณ์ Covid ทางบุตรชายทำอาชีพรับจ้างทั่วไป ย่านประตูน้ำ ได้ค่าจ้างเป็นรายวันวันละ 300 บาท ตกเดือนหนึ่งก็ได้ประมาณ 9000 บาท ซึ่งก็พอสามารถเลี้ยงดูครอบครัวและหลานอีก 4 คนได้ แต่พอเจอสถานการณ์โรคระบาดทำให้รายได้ทั้งหมดหายไป เพราะบุตรชายไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้

ยอมรับว่าดีใจที่ยังมีคนมองมาถึงคนในพื้นที่แออัด ทั้งนี้ทางครอบครัวจะวางแผนกับเงินจำนวน 500 บาท ที่ได้จากพี่ท็อป พี่ไทด์ โดยจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อไข่ไก่ พร้อมด้วยมาม่า เพื่อมาประกอบอาหารกินไปวัน ๆ โดยคาดว่า 500 บาท จะใช้เป็นเงินทุนในการซื้ออาหารได้ 2 วัน โดยเฉลี่ยจะใช่จ่ายมื้อละ 100 บาทต่อมื้อ เพื่อประกอบอาหารให้ได้ทั่งถึงกันทั้งครอบครัว ทั้งนี้เมนูที่จะทำคงเป็นทอดไข่เจียว มาม่าต้ม มาม่าผัด