“นุ่น รมิดา” บอกสาเหตุที่แต่งงานเงียบ กับ “หลุยส์ สก๊อต”

“สำหรับนุ่นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไรขนาดนั้นค่ะ แต่รู้สึกว่าเราเต็มที่ขึ้นกับชีวิตคู่ อย่างเมื่อก่อนที่เราเป็นแฟนกัน บางอย่างเราก็เต็มตัวไม่ได้ พอเป็นสามีภรรยากันแล้ว เราจะดูแลเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ง่ายมากขึ้น จะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่แฟนนิ (หัวเราะ) ถามว่าเราคบกันมากี่ปี จริงๆไม่เคยนับนะ ถ้าให้ประมาณก็ 12-13 ปี”

ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววเลยว่า “นุ่น – หลุยส์” จะแต่งงานกัน “(ยิ้ม) คือพอเรารู้จักใครสักคนมา 13 ปี ไม่ได้เป็นแค่แฟนกัน เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ตอนที่แม่นุ่นป่วย จังหวะนั้นเป็นช่วงที่เราจะห่างกันหลังจากนี้ก็ได้ เพราะเหมือนว่าถ้าปัญหาของคนๆนึงเยอะมาก

และเวลาที่นุ่นจะดูแลหรือเอาใจใส่หลุยส์น้อยลงอยู่แล้ว พอปัญหานี้มันผ่านไปได้ แต่เขายังอยู่กับเรา นั่นแสดงว่าเราต่างคนต่างใส่ใจกันจริงๆ รักกันจริงๆที่จะไปด้วยกันต่อได้อีก เพราะฉะนั้นการแต่งงานสำหรับนุ่นเลยไม่ค่อยรู้สึกเยอะ ไม่มีก็ได้สำหรับนุ่นนะ

บางคนก็จะบอกว่าไม่ได้ๆ เราเป็นผู้หญิงเราต้องแต่งงาน แต่นุ่นเจออะไรมาเยอะ เลยรู้สึกว่าอะไรที่เล็กๆน้อยๆ อะไรที่ไม่สำคัญตัดทิ้ง ก็เลยทำให้มองว่าการแต่งงานไม่สำคัญมั้ง แต่คนที่อยากแต่งจริงๆคือหลุยส์ เขาคือคนที่อยากทำให้เรา ซึ่งเราแต่งงานเมื่อมีนาคม จริงๆเขาเคยถามนุ่นนานแล้วว่าอยากแต่งงานไหม เราบอกยังไงก็ได้ แต่ถ้าจะแต่งขอให้เล็กที่สุด เพราะเราไม่ชอบอะไรที่อลังการ นุ่นไม่อยากเอาเงินมาลงกับตรงนี้เยอะ

พอตกลงกันได้ ก็หาวันซึ่งไม่ได้ดูฤกษ์ แค่เอาวันไปดูว่าวันดีไหม และที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเราจะแต่งงาน เพราะเรามีเวลาแพลนกันแค่เดือนครึ่งเอง จริงๆงานเรากำหนดก่อนจะมีเรื่องนี้เราก็มานั่งคุยกันว่าจะจัดหรือไม่จัด ซึ่งงานแต่งเรามีดาราน้อยมาก

ส่วนมากจะเป็นเพื่อนนอกวงการ ข่าวเลยไม่กระจายออกไป และเป็นจุดประสงค์ของเราด้วยว่าอยากจัดอะไรเล็กๆ แต่เราก็ไปไหว้ผู้ใหญ่ค่ะ จริงๆไม่ได้อยากปิดขนาดนั้น แค่แพลนมันรวดเร็วมากจริงๆ”

ถามเรื่องลูกหน่อย แพลนไว้ยังไงบ้าง “ไมได้แพลนว่าจะต้องมีเมื่อไหร่ ถามว่าเราอยากมีลูกไหม เราทั้งคู่อยากมีค่ะ แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงนี้ เราก็กลัวเหมือนกันว่าจะลำบากหากตั้งท้องในช่วงนี้ แต่ถ้าเขาจะมาเราก็โอเคค่ะ นุ่นอยากมี 2 คน

เพราะเรามีพี่น้อง รู้สึกว่ามีคนคอยซัพพอร์ตเรา ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียว การมีพี่น้องคือการเซฟสำหรับนุ่น แต่หลุยส์ยังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าจะ 1 หรือ 2 คนค่ะ ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ (หัวเราะ) แต่ยังไงก็มีแน่นอนค่ะ เพราะสำคัญค่ะ

ในมุมมองของนุ่น การมีลูกจะพัฒนาตัวเราไปได้อีกจุดหนึ่ง นุ่นมีความสุขกับการมีความครอบครัว เราเติบโตมาในครอบครัวที่เขาให้ความสำคัญกับลูก พอโตขึ้นมาเรามีความภูมิใจว่าเราเดินตามพ่อแม่ พอวันที่เรารู้สึกว่าพ่อแม่เลี้ยงเราจนเราสามารถเอาตัวรอดได้ เราดูแลเขาได้ เราอยากที่จะเป็นแบบพ่อแม่เรา เป็นแบบที่ดีให้ลูกค่ะ”