เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นที่จับตามองหลังจากสิ้นสุดทาง รักมาราธอนที่ยาวนานถึง14 ปี สำหรับคู่ของ นางเอกสาวเเต้ว ณฐพร กับ เเฟนหนุ่ม ต้น อาชว์ แม้ว่าจะเลิกรากันไป ลดสถานะจากเเฟนมาเป็นเพื่อนยังพูดคุยปรึกษากันได้ ถือว่าจบกันด้วยดี

ถ้าคอยสังเกตจากIG สาวแต้วนั้นหลังๆเธอจะ ดูเปรี้ยวขึ้น เซ็กซี่ขึ้น เเซ่บซี๊ดได้ใจเเฟนๆ และล่าสุดเเต้ว ณฐพร โพสต์รูป ในชุดออกสปอร์ตบราสีดำเตรียมตัวออกกำลังกาย โชว์หน้าท้อง ดูเซ็กซี่เบาๆ พร้อม แคปชั่น “เสียเหงื่อให้กีฬาดีกว่า”เอ๊ะ ยังไงนะ ทำให้แฟนๆเข้าส่งกำลังใจ พร้อมบอกรัก แต้วเป็นจำนวนมาก

สุดทางรัก แต้ว ณฐพร ยอมรับเลิก ต้น อาชว์ 1 เดือนแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางเอกสาวแถวหน้า แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม ต้น อาชว์ ไหลสกุล ว่ามีปัญหากันและกำลังช่วยกันแก้ปัญหาอยู่ จึงทำให้หลายคนจับตาดูความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าจะผ่านปัญหาครั้งนี้ไปได้หรือไม่

แต่ล่าสุด นางเอกสาว แต้ว ณฐพร ได้เปิดใจในรายการ รีวิวบันเทิง ถึงเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่า ตอนนี้ได้เลิกรากับหนุ่มต้นแล้วเป็นเวลา 1 เดือน ลดสถานะเป็นแค่เพื่อนกัน และยืนยันว่าจบกันด้วยดี ส่วนสถานะหัวใจตอนนี้โสด

เป็นการปิดตำนานคู่รักมาราธอนอีกคู่ของวงการบันเทิง หลังจากที่ต้นและแต้วคบหาดูใจกันมานานกว่า 14 ปี ที่ตอนนี้เหลือไว้แค่เพียงความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น

เหลือแค่เพื่อน! “แต้ว” ลดสถานะ “ต้น” อุบปมเลิก ลั่น มูฟออนได้ทันที หลังมีข่าวลือออกมาเป็นระยะๆ ว่ามีนางเอกชื่อดังเลิกรากับแฟนหนุ่ม พร้อมใช้อิโมจิรูป งู เป็นสัญลักษณ์บอกใบ้ ทำให้หลายคนโยงไปที่นางเอกชื่อดัง “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” กับแฟนหนุ่มดีเจดัง “ต้น อาชว์” เพราะฝ่ายหญิงเคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับละครเรื่อง “นาคี” ที่แสดงเป็น “งู” นั่นเอง

โดยก่อนหน้านี้ สาวแต้ว เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข่าวลือรักร้าวไปก่อนแล้ว ซึ่งก็ยืนยันว่าพยายามประคับประคองกันไปได้อยู่ แต่พอถามถึงเรื่องแต่งงานเจ้าตัวก็บอกทันทีว่า ไม่ต้องลุ้น ให้ไปลุ้นคู่อื่นเพราะว่าเห็นกันเป็นเพื่อนกันมาตลอด ทำเอาหลายคนเกิดความสงสัยเพิ่มขึ้นถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้คงไม่นิ่งเหมือนแต่ก่อน ที่ปกติจะยืนยันชัดเจนว่ายังรักกันดีอยู่เสมอ

และล่าสุดวันนี้(27เม.ย.2563) นางเอกคนดังเดินทางมาร่วมแพ็กของบริจาคที่บริษัทต้นสังกัด จากนั้นเจ้าตัวได้เปิดใจอีกครั้งถึงข่าวลือปิดฉากรักมาราธอน 14 ปี กับหนุ่มต้น สรุปจริงหรือไม่ ซึ่ง แต้ว เผยว่า “ตอนนี้เป็นเพื่อนกันค่ะ เราให้ระยะกันตามนโยบายรัฐบาล

เรายังเป็นคนที่หวังดีต่อกัน ถามว่าพูดได้เต็มปากมั้ยว่าลดสถานะ ก็ใช่ค่ะ ประมาณนั้น เราตัดสินใจอยู่นาน เพราะเราพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้กันทั้งคู่ พี่ต้นก็เป็นคนที่เรารู้สึกหวังดีด้วย และเขาก็มีความหวังดีให้เรา แต่ถ้าพูดถึงในอนาคตที่จะไปด้วยกัน ถึงจะเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ แต่เราก็ยังห่วงใยกัน”

พอถามถึงสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เราตัดสินใจลดสถานะ “แต้วไม่อยากพูดตรงนี้ แต้วว่ามันเป็นเหตุผลของทั้งคู่ มันก็ใช้เวลาในการปรับตัว ทั้งเรื่องการกระทำ ความคิด มานานแล้ว ซึ่งไม่มีใครผิด เพียงแต่มันเป็นเหตุผลที่เราไม่อยากออกมาชี้แจงอะไร

ไม่มีใครเข้าใจเราทั้งคู่ได้ดีเท่าตัวเราเอง” มีโอกาสกลับมาอยู่ในสถานะเดิมไหม “บอกไม่ได้เพราะไม่มีใครรู้อนาคต แต่ ณ ตอนนี้ เราคิดว่านี้คือทางออกที่ดีที่สุด ยอมรับว่าเสียดายเวลา มันนานมาก”

จากประสบการณ์ครั้งนี้มันทำให้เราต้องพักยาวๆ ไหมกับความรัก “ไม่นะคะ แต้วไม่ได้คิดว่าจะต้องพักอะไร เราพยายามหาโซลูชั่นที่ดีกับชีวิตเรา เรามีครอบครัว มีคนที่รักอยู่รอบๆ พี่ต้นก็มีเหมือนกัน ส่วนนิยามความรักตอนนี้ คงเป็นเรื่องความเข้าใจ เคมี การให้เกียรติกัน การพร้อมเสียสละให้ทั้งสองฝ่าย ไม่เป็นอะไรที่เราครอบครองอย่างเดียว มันต้องสมดุลถึงจะเป็นความรักที่ยาว”

แต้ว ณฐพร เปิดใจ “ช่วยได้ต้องช่วย” หลายชีวิตในประเทศเดือดร้อนจริงๆ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นักแสดงเบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิง ที่ตอนนี้มีหลายเรื่องราวให้หลายคนต้องพูดถึง หนึ่งในนั้นคือการบริจาคเงินหลักล้านในช่วงนี้ ซึ่งวันนี้ นางเอกสาว แต้ว ณฐพร ได้มาเปิดใจพูดคุย

“แต้วรู้สึกว่ามันเป็นวิกฤติที่เราต้องช่วยกัน มันมีความต้องการเกิดขึ้นหลายที่ แต้วก็ปรึกษาพี่สาวเพราะแต้วอยากกระจายความช่วยเหลือไปที่ต่างจังหวัด แล้วมานั่งลิสต์ว่ามีโรงพยาบาลที่จังหวัดไหน พยายามจะให้ครบทุกภาค ก็กระจายให้เท่าที่กำลังเรามีค่ะ

แต้วบริจาคตามกำลังค่ะ แต้วติดตามข่าวก็เห็นว่ามีความขาดแคลนอุปกรณ์ เครื่องป้องกันเชื้อโรค ชุด ก็ขาดอยู่แล้ว ยังไม่นับพวกอุปกรณ์การแพทย์พวกเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งมันมีราคามูลค่าหลายล้าน แต้วเลยคิดว่าถ้าเราจะเอาเงินตรงนี้ไปช่วยซื้ออุปกรณ์ที่เป็นเครื่องช่วยหายใจ หรือว่าชุดไปเสริมตรงไหนได้บ้าง

แต้วเชื่อว่ามีคนช่วยหลายคน ไม่ใช่แค่แต้ว เราอยากช่วยให้ทั่วๆ ไม่รู้ว่าตรงไหนบ้างที่เค้าอยากได้ความช่วยเหลือ ก็เลยประเมินจากความต้องการและกำลังของเราที่มี ก็เลยเป็นจำนวนเงินเท่านี้ค่ะ คือแต้วรู้สึกว่าตัวเองก็ได้อะไรจากสังคมมาเยอะแล้ว สิ่งที่ทำให้เรามีข้าวกิน เรารู้สึกว่า ณ เวลานี้ ถามว่าเงินที่บริจาคเป็นเงินจำนวนเยอะสำหรับแต้วมั้ย มันเยอะมาก แต่ว่ามันน่าจะมีประโยชน์กว่าถ้าแต้วเสียสละตรงนี้ไปให้กับหลายๆ คนที่เค้าเดือดร้อน

ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอหรือคนไข้ ซึ่งแต้วไม่รู้หรอกว่าเงินถูกเอาไปใช้อะไรตรงไหน แต่แต้วคิดว่ามันก็เป็นสิ่งที่เราได้ช่วยเหลือสังคมบ้างค่ะ

อย่างวันนี้แต้วก็มาแพ็กหน้ากากเพื่อส่งไปตามโรงพยาบาลในต่างจังหวัดที่เค้ายังขาดแคลนค่ะ เป็นเงินในส่วนที่ตั้งใจเอาไว้บริจาค ที่แต้วเจียดออกมาซื้อหน้ากากค่ะ เราไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก แต่มีความประสงค์อยากให้ความช่วยเหลือมันไปถึงทั่วๆ แม้ว่าจะเป็นหน้ากากอันหรือสองอัน แต่ก็พยายามจะส่งไปให้

อย่างน้อยจะได้ช่วยเซฟชีวิตและไม่ให้เชื้อโรคมันเข้าสู่ร่างกายคุณหมอ พยาบาล หรือพี่ๆ ที่มาช่วยดูแลทำหน้าที่ตรงนี้ แม้หน้ากากมันจะหายาก แต่มันก็ยังหาได้อยู่ เพียงแค่ต้องรอเวลาหน่อย มันมีช่องทางที่จะหาซื้อได้อยู่

ซึ่งงบในส่วนนี้เป็นเงิน 4 แสนกว่าบาทค่ะ แต่ตอนนี้ประเด็นคือมีหลายโรงพยาบาลอยากให้เราช่วยเยอะมาก แต่หน้ากากที่เรามีว่ามีเยอะแล้ว แต่ถ้าจะแจกให้ทั่วถึงมันจะได้น้อยมากในแต่ละโรงพยาบาล 10-20 อันเอง ตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี”.