ล่าสุด สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “กระทรวงศึกษาธิการต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาครูล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน” สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2563 มีสำนักข่าวหลายแห่งรายงานข่าวถึงกรณีครู 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนวัย 14 และเด็ก ม.4 โดยการล่อลวงเด็กไปที่บ้านพักครูเพื่อกระทำชำเรา
โดยมีการอัดคลิปเพื่อข่มขู่เด็ก และขู่ว่าจะไม่ให้เลื่อนชั้นเรียน โดยเป็นเวลาร่วม 1 ปี ที่เด็กเหล่านี้ถูกกระทำชำเรา และเป็นกระแสสังคมในทวิตเตอร์โดยใช้ชื่อแฮชแท็กว่า #7ครูชาติชั่ว โดยพบว่านอกจากเรื่องกระทำชำเรา ยังมีประเด็นเรื่องครูผู้หญิงออกมาให้กำลังใจครู 5 คนนั้นอีกด้วย
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย มีความกังวลต่อการดูแลรักษาความปลอดภัยให้นักเรียน ความเข้าใจถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศของครู และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการต่อการยับยั้งและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากสถิติในปี 2556-2560 พบว่าประเทศไทยมีสถิติครูล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน
โดยมีเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ 53 รายที่เป็นข่าว และทางสหภาพเชื่อว่ายังมีตัวเลขที่ไม่เปิดเผยมากกว่านี้หลายเท่า เนื่องจากความสัมพันธ์ทางอำนาจของครูที่มีต่อนักเรียนทำให้หลาย ๆ ครั้ง ผู้ที่เป็นเหยื่อไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือหรือเล่าให้ใครฟังได้
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ขอประณามครูและศิษย์เก่าเหล่านี้ และขอเรียกร้องให้มีเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และมีการฟ้องร้อง 53 รายที่เป็นข่าว แต่ตัวเลขที่ไม่เปิดเผยมีมากกว่านี้หลายเท่า ทางกระทรวงศึกษาธิการมีมาตรการในการดูแลยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น โดยมีการจัดอบรมครูเพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจต่อปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาเพื่อป้องกันยับยั้งเหตุการณ์ และมีการดูแลเยียวยาจิตใจของเด็กที่เป็นเหยื่อ
รวมถึงต้องสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับนักเรียนในการสร้างความเข้าใจเรื่องเพศ สร้างวัฒนธรรมการให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้โรงเรียนกลับมาเป็นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียนอีกครั้งหนึ่ง