เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เนื่องด้วยราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2563 แล้วนั้น

ด้วยเป็นการสมควรผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เพิ่มเติมจากที่เคยผ่อนคลายไว้แล้วเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ตามที่ศูนย์บริหำรสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด – 19) ได้รายงานผลการประเมินสถานการณ์ และกำรรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายผู้ประกอบการ และฝ่ายผู้บริโภค ประกอบกับฝ่ายสาธารณสุขได้เสนอว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันและสถิติผู้เสียชีวิตในประเทศนับแต่ต้นเดือนพฤษภาคม อันเป็นระยะเวลาที่ประกาศใช้ข้อกำหนด (ฉบับที่ 4) (ฉบับที่ 5) และ (ฉบับที่ 6) เป็นต้นมา ลดลงหรืออยู่ในระดับที่ควบคุมได้อย่างต่อเนื่อง

แต่เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากสภาพดินฟ้าอากาศ จำนวนของผู้เดินทางข้ามจังหวัด และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตลอดจนประชาชนบางกลุ่ม ที่ยังประมาทและละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ในขณะที่การแพร่ระบาดก็ยังปรากฏอยู่มาก ในต่างประเทศ จึงควรผ่อนคลายตามโอกาสเสี่ยงของบุคคล สถานที่ และประเภทของกิจกรรม ภายใต้ เงื่อนไขว่ายังคงให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการต่อไปโดยเคร่งครัด และหากปรากฏว่าจำนวนผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มหรือโอกาสเสี่ยงมีมากขึ้น ก็อาจระงับหรือเปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายบางส่วน หรือทั้งหมดได้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไป และข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้

1.การห้ามอกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และให้ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2563 ยังคงใช้บังคับต่อไป

2.การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงรียนหรือสถานันการศึกษา ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจพิจารณาผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือ สถาบันการศึกษาเฉพาะที่ดำเนินการในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือ การสงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรืออุปการะเด็กกำพร้าที่ประสบปัญหาครอบครัว เด็กยากไร้ หรือเด็กด้อยโอกาส และอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงได้หากปล่อยให้เด็กอาศัยอยู่ในสถานที่พักอาศัยของตนหรือที่อื่น หรือเป็นการใช้อาคารสถานที่ ดังกล่าวเพื่อการทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์สาธารณะตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดอนุญาต แต่ยังคงงดเว้นการใช้อาคารสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการสอบ หรือการฝึกอบรม

3.การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของประชาชนและขับเคลื่อนกิจกรรมบางอย่าง ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดรวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ให้สถานที่หรือการดำเนินกิจกรรมที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดเคยมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราวตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างเพิ่มเติมได้ทั่วราชอาณาจักรตามความสมัครใจและความพร้อม ดังต่อไปนี้

(1)กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต
ก.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์ ให้เปิดดำเนินการได้ แต่ยังคงห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่ดังกล่าวนี้
ข. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการเพิ่มเติมได้ ในส่วนที่เป็นการจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคและการให้บริการ รวมทั้งร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม (ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน) ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผมหรือทำเล็บ ยกเว้นส่วนที่เป็นโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สถานที่เล่นโบว์สิ่ง ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญสถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรคหรือการละเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน คาราโอเกะ สวนสนุก สวนน้ำ สวนสัตว์ สนุกเกอร์ บิลเลียด ร้นเกมส์ สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส สถานประกอบการ เพื่อสุขภาพ สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ้เท้า สถาบันกวดวิชา สนามพระเครื่อง ศูนย์ประชุม

ทั้งนี้ พื้นที่และกิจกรรมที่เปิดดำเนินการได้ให้งดเว้นการจัดการแข่งขัน กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการดำเนินการอื่นใดที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่น และให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น.
ค. ร้านค้าปลีก ส่ง หรือตลาดคส่งขนาดใหญ่
ง. สถานที่บริการดูแล สถานที่พำนักอาศัย หรือสถานสงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการ ให้แก่เด็กหรือผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาระพึ่งพิงให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ
จ. การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ซึ่งเมื่อรวมคณะทำงานหน้าฉาก และทุกแผนกแล้วต้องมีจำนวนไม่เกินห้าสิบคน และต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วมรายการ
ฉ. ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะกรณีจำกัดจำนวน ผู้เข้าร่วมประชุม และเป็นการประชุมคณะกรรมการ ผู้ถือหุ้น หรือการประชุม การอบรม การสัมมนา ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมาจากหน่วยงานเดียวกันเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบทราบแหล่งที่มา

(2) กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ
ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม และร้นทำเล็บ ทั้งที่อยู่ในและนอกห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะการเสริมความงามเรือนร่างและผิวพรรณ ไม่รวมถึงการเสริมความงามบริเวณใบหน้า
ข. สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสที่มิได้ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะส่วนที่เป็นการเล่นโยคะหรือฟรีเวท โดยงดเว้น การใช้เครื่องเล่น เครื่องลู่วิ่ง จักรยานปั่น หรือการเล่นแบบรวมกลุ่ม
ค. สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม เฉพาะกีฬาประเภทที่ตามกติกาสากลที่มิได้มีการปะทะกันระหว่างผู้เล่นและต้องไม่มีผู้ชมการแข่งขัน หากเล่นเป็นทีม ให้มีผู้เล่นได้ฝั่งละไม่เกินสามคน ได้แก่ แบดมินตัน ตะกร้อ เทเบิลเทนนิส สควอช ยิมนาสติก ฟันดาบ และปืนผา
ง. สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม
จ. สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะ และหอศิลป์

4.การดำเนินอรตามมาตรกรป้องกันโรคและการจัดระนียน ให้เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ตามข้อ 3(1) และ (2) มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้ง ดำเนินการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ตามคำแนะนำ เงื่อนไข และเงื่อนเวลาที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตามที่ทางราชการกำหนด ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบ แนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย รวมทั้งเสนอ ให้ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พศ. 2558 สั่งปิดสถานที่นั้นเป็นการชั่วคราวเฉพาะราย

ในกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เมื่อเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดและจัดระเบียบและระบตงๆ แล้ว ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี มีอำนาจสั่งให้เปิดดำเนินการในสถานที่ดังกล่าวได้

5.เพื่อให้มาตรการป้องกันโรคเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีคำสั่งปิดสนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเตียวกันเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่โรค รวมทั้งดำเนินการอื่นใดให้สอดคล้องกับข้อกำหนดนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม เป็นตันไป