เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าคดีนางสาวปุ๊ก ที่ต้องสงสัยวางยาเด็ก 2 คน เพื่อหลอกรับเงินบริจาค โดยระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินจากบัญชีรับโอนเงินทั้ง 5 บัญชี ที่เบื้องต้นพบว่าระหว่างปี 2561-2563 หรือตั้งแต่เปิดบัญชีมา มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นยอดเงินที่มาจากการรับบริจาครักษาอาการป่วยของเด็กทั้ง2คน กับเงินขายสินค้าต่างๆ แต่ขณะที่ตำรวจอายัดบัญชี กลับมียอดคงเหลืออยู่ภายในบัญชีเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบต่อว่าเงินถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่บัญชีใครบ้าง หรือถูกโอนเข้าบัญชีพ่อและแม่ของนางสาวปุ๊กหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่านางสาวปุ๊กมีพฤติกรรมติดการพนัน แต่เชื่อว่าอาจมีการรับเด็กเล็กมาอุปการะ และใช้ความน่าสงสารในการหาประโยชน์ เพราะที่ผ่านมามีประวัติถูกจับกุมคดีฉ้อโกงทรัพย์ตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 2-3 คดีแล้ว ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่านางสาวปุ๊กเคยเข้ารับการรักษาปัญหาสุขภาพจิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมานั้น ตำรวจยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดและอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ แต่จากการสอบปากคำที่ผ่านมา ผู้ต้องหาก็ยังให้การเหมือนคนปกติ มีสติสัมปัชชัญญะดี ไม่พบอาการคล้ายการป่วยทางจิตใดๆ เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบต่อรูปคดี

ล่าสุดผู้สื่อข่าว รายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงรายงานว่า ผลดีเอ็นเอของแม่ปุ๊กและน้อง 2ขวบ นั้น เผยให้เห็นว่าลูกคนเล็ก เป็นลูกของแม่ปุ๊กจริง ๆ ส่วนสารเคมีลูกคนเล็ก กินเข้าไปนั้น จนถึงขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจแยกสารอย่างละเอียด

ในส่วนอาการของลูกคนเล็กนั้น ปลอดภัยแล้ว และลูกคยเล็กอยู่ในการดูแลของ พม. ทั้งนี้ แม่ปุ๊กถูกแจ้งข้อกล่าวหา คือ รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ฉ้อโกงประชาชน

 

TV Pool Online