เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“เมอร์เซอร์” (Mercer) บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ ระบุในรายงานประจำปีที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (9 มิ.ย.) ว่า “ฮ่องกง” ยังคงอยู่ในอันดับ 1 จาก 209 เมืองที่มีการจัดอันดับเรื่องค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ และครองแชมป์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

ทวีปเอเชียมีเมืองที่ติดอันดับ 1 ใน 10 อยู่ถึง 6 เมือง โดยกรุงอาชกาบัตของเติร์กเมนิสถาน แซงหน้ากรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเป็นอันดับ 2

ขณะที่ เมืองในสวิตเซอร์แลนด์ ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกถึง 3 เมือง ได้แก่ นครซูริค อยู่อันดับ 4 กรุงเบิร์น อันดับ 8 และนครเจนีวา อันดับ 9 เป็นนครนิวยอร์กของสหรัฐ ขยับจากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 และเป็นเมืองในสหรัฐเพียงแห่งเดียวที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของการสำรวจในปีนี้

สำหรับสิงคโปร์ ร่วงจากอันดับ 3 มาอยู่อันดับ 5 ส่วนนครเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่งของจีน อยู่อันดับ 7 และ 10 ตามลำดับ

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครของไทย ขยับจากอันดับ 40 ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับ 35 ในปีนี้ ส่วนเมืองในยุโรป กรุงลอนดอนของอังกฤษ ขยับขึ้นมา 4 อันดับมาอยู่ในอันดับที่ 19 ขณะที่กรุงปารีส ร่วงจากอันดับที่ 47 ไปอยู่อันดับที่ 50

ขณะที่ เมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ คือ กรุงตูนิสของตูนิเซีย

ทั้งนี้ เมอร์เซอร์ จัดอันดับด้วยการสำรวจค่าครองชีพในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19

ผลสำรวจนี้ประเมินจากค่าครองชีพกว่า 200 รายการในแต่ละเมือง รวมถึงค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า สินค้าในครัวเรือน และความบันเทิง

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online