เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตบริเวณป่าภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนหน้านี้นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่พร้อมกับชาวบ้าน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล เดินขึ้นเขาเพื่อไปที่จุดพบศพ และไปดูตามขอนไม้ ในจุดที่คาดว่าคนร้ายอาจจะซ่อนเสื้อน้องชมพู่ไว้ หลังจากที่ชาวบ้านได้ยินเสียงหลังจากจุดธูป ระหว่างทางก็มีการหาเสื้อ และหลักฐานต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่พบ โดยระหว่างทางได้พูดคุยกับนายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ ระบุว่า ตนมาหาน้องชมพู่บ้าง ซึ่งก็อยากจะพบเสื้อของน้อง อยากจะเจอหลักฐาน แต่หลังจากติดตามข่าวก็ยอมรับว่า เวลาเห็นว่าเจอหลักฐานใหม่ ๆ ก็มีความแปลกอยู่ว่า การวางหลักฐานของคนร้ายที่เรียงกันเป็นจุด ๆ เหมือนกับนิสัยของนายพรานหรือไม่ รวมถึงมีการถามลุงน้องชมพู่ว่า ในโลกโซเชียลฯ และหลายคนอาจจะพุ่งเป้ามาที่ตน ว่าเป็นคนร้ายในการก่อเหตุกับหลานตัวเอง ตนยอมรับว่ามีเครียดบ้าง แต่ไม่ได้กังวล เพราะวันที่เกิดเหตุตนก็ไม่ได้อยู่บ้าน ตนยังช่วยออกตามหาอยู่ทุกวัน ตนก็เป็นห่วงและรักน้องชมพู่เหมือนลูกของตัวเอง ยอมรับว่า บางครั้งที่ตำรวจเรียกไปสอบก็เครียดบ้าง เพราะตำรวจก็ถามซ้ำไปซ้ำมา ส่วนใครจะสงสัยว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุก็ไปห้ามไม่ได้ เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์สงสัยได้ หลังจากนี้หากตำรวจทำงานเสร็จแล้วความจริงจะปรากฏออกมาเอง พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า เพราะเวลานึกถึงหน้าหลาน ก็จะมีน้ำตาไหลอยู่ตลอดทุกวัน นึกถึงเวลาชมพู่ไปอยู่ด้วย คิดถึงเพราะความผูกพัน

ล่าสุด รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ผลตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยออกแล้ว หลังตำรวจเก็บเส้นบางอย่างใกล้จุดพบศพน้องชมพู่ ลักษณะคล้ายเส้นผมหรือเส้นขน แต่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยได้ และไม่แน่ชัดว่าผลการตรวจนี้จะสามารถนำไปสู่การออกหมายจับได้หรือไม่

ขณะที่ ทีมข่าวอมรินทร์ รายงานว่า เดินทางมาที่ จ.มุกดาหาร พบกับนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า ตนยังยืนยันมั่นใจในความบริสุทธิ์ แต่มีกังวลเรื่องผลดีเอ็นเออยู่บ้าง เนื่องจากวันที่ตนขึ้นไปพบศพน้องชมพู่ ได้สะพายกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้า และผ้าขนหนูของน้องชมพู่ไป ซึ่งพ่อของน้องชมพู่ เป็นคนเตรียมให้ เผื่อว่าจะเจอน้อง

โดยขณะขึ้นไปกลับพบว่าหลานสาวเสียชีวิต ซึ่งตนอยู่ใกล้กับศพที่สุด ระยะราว 1-2 เมตร โดยก็กังวลว่าเหงื่อตนอาจจะหยดอยู่รอบ ๆ หรือกระเด็นไปถูกตัวน้องชมพู่ แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้สัมผัสตัวหลานเลย ประกอบกับขณะเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมา ตนได้หยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ของชมพู่ที่เตรียมไป โดยใช้มือเปล่าหยิบส่งให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อคลุมร่างน้องไว้ เนื่องจากขณะนั้นสภาพหลานสาวไม่ได้สวมเสื้อผ้า ซึ่งตนก็กังวลเรื่องนี้อยู่บ้าง ส่วนคดีความหากหมายจับออกมาที่ตนจริง ตนก็พร้อมสู้คดี เพราะยังยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ และรักหลานเหมือนลูก

ด้าน พ.ต.อ.ชัชชัย วงค์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ให้ข้อมูลเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ ระบุว่า กรณีเส้นพบที่พบใกล้เคียงศพของชมพู่นั้น ผลตรวจตั้งต้นนั้นมีข้อมูลอยู่บ้างแล้ว แต่ต้องมีการนำเข้าไปตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจ และยังไม่สามารถระบุช่วงวันได้ว่าจะมีผลออกมาอย่างละเอียดเมื่อใด ซึ่งหลังจากได้ผลโดยละเอียด จะนำไปเทียบเคียงเพื่อสรุปผลอีกครั้งหนึ่ง