เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ภรรยาของตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง พร้อมด้วย เอก ธเนศ พี่ชาย ได้ให้สัมภาษณ์กรณีที่ตั้ว ศรัณยู เสียชีวิต โดยในตอนหนึ่ง เอก ธเนศ ได้เล่าเรื่องช่วงที่รู้ข่าวว่าตั้ว ศรัณยู ป่วยตอนแรกว่า ตนทราบเรื่องตอนที่ตั้วป่วยตอนที่เข้าโรงพยาบาล ตนรู้ว่า เขากินอะไรไม่ค่อยได้ ซึ่งเรื่องนี้ตั้วก็ไม่ได้บอกใครเลย รู้กันเพียง 2 คนคือ ตนกับเปิ้ลเท่านั้น ลูกสาวก็ไม่บอกเลยนะ ตั้วก็เป็นคนแบบนี้แหละ เขาไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน อยากแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

หลังจากนั้น ตนก็มาหาตั้วบ่อยขึ้น แม้ว่าเขาจะพูดช้าลง แต่ก็รับรู้ทุกอย่าง ใช้วิธียักคิ้วตอบโต้กับเรา ยกมือได้นิด ๆ หน่อย ๆ

ส่วนช่วงสุดท้ายที่ตั้วใกล้จะไป ตนมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี คือ เขานอนนิ่ง ๆ เหมือนเขาหลับไปเฉย ๆ ตอนนั้นเราก็บอกเขาว่า หลับไปได้นะตั้ว ถ้ามันเหนื่อยก็หลับไป ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็เหมือนตื่น ไปตื่นที่ไหนก็ไม่รู้ ตื่นเมื่อไรก็ช่างมัน

ตอนนี้ขอให้เขาสบายใจได้แล้ว ลูกเมียอยู่กับเขา ญาติพี่น้องอยู่กับเขา เพื่อนฝูงมาอยู่กับเขาหมดแล้ว ทุกคนมาส่งเขาแล้ว ให้เขาคิดว่าเขาไปเที่ยว ให้คิดซะว่าตัวเองกำลังจะขึ้นเครื่องบิน แล้วทุกคนมาส่งเขาที่สนามบิน แล้วเขาก็ค่อย ๆ ไป ที่ผ่านมาเขาพยายามสู้ เพราะเหมือนชีพจรคงที่โดยตลอด กระทั่งทุกคนเดินทางมาครบ ทุกคนที่เขาอยากเจอเดินทางมาถึง ชีพจรก็ค่อย ๆ ลงไปเรื่อย ๆ ไม่มีอาการแบบว่า ลงแล้วขึ้นอะไรเลย ไม่มีภาวะยื้อใด ๆ ทั้งสิ้น

เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ภรรยาได้แถลงถึงสาเหตุการเสียชีวิต และวาระสุดท้าย ว่า เป็นความตั้งใจของ พี่ตั้ว ที่อยากดูแลสุขภาพตัวเอง จึงไม่ได้บอกใคร อาการที่เจ็บหนักครั้งแรกเมื่อตรวจ มีกระดูกข้อที่สามของกระดูกสันหลังยุบลงไป ขอบคุณทีมคุณหมอ รพ.จุฬา ที่ไปพบว่า กระดูกที่ทรุดลงมา มาจากอย่างอื่น โดยเกือบจะผ่าตัดแต่คุณหมอดูแล้วว่ากระดูกส่วนอื่นยังแข็งแรงอยู่ แต่พบลิ่มเลือดด้วยจนพบว่าเกิดจากอะไร จึงเรียกไปคุยว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งที่ผ่านมา มีโรคไวรัสตับอักเสบบี และดูแลตัวเองมาตลอด แต่ 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เช็กร่างกาย พบว่า สิ่งที่อยู่ในตับโตขึ้น และพบว่าเป็นมะเร็ง ตัวที่ตั้วเองก็สงสัยว่าเกิดจากอะไรเพราะตรวจร่างกายมาตลอด มะเร็งได้ลามจากกระดูกข้อที่ 3 มาที่ T11 และ ที่ปอด

ตอนเข้า รพ.จุฬา คุณหมอบอกว่าน่าจะอยู่ระยะที่ 3 ให้ยาคุมตับ สามารถทำงานต่อได้เมื่อเดือน ก.พ. สามารถไปกำกับละครที่ค้างอยู่ จากนั้น ปวดสะบักปวดขา และพบว่า กระดูกทรุดเพิ่ม ทำการฉายแสง จากนั้นทำให้ไม่อยากทานอาหาร แคลเซียมสูงจนทำลายระบบต่างๆ ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน

ตอนแรกเดินได้ช้าๆ จากนั้นก็แข็งแรงขึ้นออกกองได้ แต่จากนั้นปวดสะบักมากขึ้น ต้องฉายแสงมากขึ้น ซึ่งตอนนั้นก็มีวิกฤติโควิด แต่ก็ไม่ได้บอกใครเพราะทุกคนเครียดเรื่องโควิดอยู่แล้ว สไตล์พี่ตั้วก็คิดว่าดูแลตัวเองได้

ตอนที่อาการไม่ค่อยดี พี่ตั้วตื่นมา ก็จะถามหาว่า กองถ่ายมาพร้อมหรือยัง วันนี้กี่คัท กล้องกี่ตัว จนต้องบอกว่า เราอยู่บ้านกันนะ จะเริ่มพูดช้าลง คิดช้าลง จากนั้นก็เริ่มทานอาหารไม่ได้มากขึ้น ทำให้เข้า รพ.เมื่อสัปดาห์ก่อนเมื่อวันพุทธ มีอาการติดเชื้อที่ปอด แคลเซียมสูง

“คิดว่ามันเร็ว และคิดว่าจะได้กลับบ้าน คิดว่ามาแค่เปลี่ยนยา รักษาอาการให้ดีขึ้น หมอเริ่มบอกว่า พี่ตั้วอยากเจอใครมั้ย จึงบอกพี่เอก ซึ่งก็เพิ่งทราบข่าวเช่นกัน เราคุยกันเรื่อยๆ เรื่องละคร เรื่องลูก วางแผนชีวิตยังไง บอกให้เปิ้ลทำความฝันให้เป็นจริงอย่าท้อ จนเมื่อมาอยู่ รพ. ก็ยังพูด ว่า ต้องทำสิ่งที่เราอยากทำให้เป็นความจริงให้ได้ ที่ผ่านมาเราต้องเข้มแข็งตั้งแต่คนถามแล้วว่า พี่ตั้วเป็นยังไง ”

ด้าน เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ พี่ชาย เปิดเผยว่า ทราบว่าไม่สบายเมื่อเดือนก่อน ทราบแค่ว่าปวดหลัง โดยตั้วไม่บอกใครเลย ญาติพี่น้องไม่มีใครรู้ ลูกก็ไม่รู้ เขาอดทนเข้มแข็งแก้ปัญหาด้วยตัวเอง คิดว่าพอผ่านไปแล้วจะบอก อาการก็โอเค แต่พูดช้าลง ยักคิ้ว ยกมือได้ ได้คุยกันสองวันหลัง และช่วงที่ตั้วจะไป ตั้วนอนนิ่งๆ เหมือนหลับไปเฉยๆ เราเลยบอกว่า เหนื่อยก็หลับไปนะ ตื่นเมื่อไหร่ที่ไหนก็ช่างมัน ทุกคนมาส่ง ทุกคนสบายนะ เดี๋ยวก็เจอกันนะ ทุกคนไม่มีใครต้องห่วง สุดท้ายตั้วก็ค่อยๆ ไปช่วงก่อนหน้านั้น หมอบอกว่า ตั้วพยายามสู้ อัตราการเต้นหัวใจคงที่มาก จนกระทั่ง ประมาณทุ่มกว่า อัตราเต้นหัวใจค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ สงบจนไม่รู้จะว่ายังไง ซึ่งเขาเป็นแบบนี้มาตลอดไม่อยากให้ใครเดือดร้อน อยู่รพ. 6 วัน ตอนสุดท้ายยังให้ญาติพี่น้องกลับบ้านทันเคอร์ฟิวอีก เป็นสิ่งที่เราคุยกันขำๆ ว่า เขาเป็นคนที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจนนาทีสุดท้าย สิ่งนี้จะเกิดกับใครก็ได้ ไม่มีใครคาดคิด เพราะฉะนั้นใช้เวลาทุกวัน ทุกขณะด้วยความไม่ประมาท ลองมองตั้วเป็นอุทาหรณ์