เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายคนเสมอสำหรับการจากไปของ น้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 และในวันที่ 14 มิ.ย. 2563 จะครบกำหนด 1 ปีเต็ม ที่วงการบันเทิงได้สูญเสียน้องน้ำตาลไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยวัยเพียง 29 ปี เท่านั้น ด้วยอาการเลือดออกจากปาก-จมูก และมาตรวจเจอพบว่าเป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก

ซึ่งอาการของน้องน้ำตาลถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาของวงการแพทย์ได้เลยและทำให้หลายคนตื่นตัวกับโรคนี้เพื่อแทบไม่มีอาการอะไรให้เห็นชัดเจนถ้าไม่รู้สึกผิดปกติตัวตัวเองก็จะไม่ทราบเลย ด้านครอบครัวของน้องน้ำตาในตอนนั้นจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คาดฝันมาก่อนว่าวัณโรคหลังโพรงจมูกจะเกิดขึ้นกับน้องน้ำตาลผู้เป็นลูกสาวที่แข็งแรงและดูปกติทุกอย่าง

ล่าสุดวันนี้ 13มิ.ย.2563 นายวิโรจน์ ทองชิว ผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้ำตาล ก็ได้ลงภาพลูกสาวตั้งแต่ในวัยเด็ก พร้อมบรรยายสั้นๆ แต่แฝงไปด้วยอารมณ์ความคิดถึงว่า พรุ่งนี้14มิย.จะครบ1ปีที่หนูจากพ่อไป โดยมีแฟนคลับเข้ามาร่วมคอมเมนต์อาลัยแสดงความคิดถึงด้วยเช่นกัน

ข้อแนะนำสำหรับประชาชนจากกรณีของ น้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว
1. อุบัติการณ์ของวัณโรคในประเทศไทยยังไม่ลดลง สามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นได้ในหลากหลายอวัยวะ
2. ควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี หากพบสิ่งผิดปกติใดๆ จำต้องสืบค้นจนพบสาเหตุของความผิดปกตินั้น
3. แม้การตรวจร่างกายจะปกติ แต่หากมีอาการผิดปกติระยะเวลาหนึ่ง เช่น น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำๆ คลำได้ก้อนผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. 2562 ณ ห้องประชุมอาทิตยาทรกิตติคุณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 รพ.ศิริราช ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา และ รศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวรายงานผลการตรวจวินิจฉัยชิ้นเนื้อหลังโพรงจมูกของนักร้องนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ น้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 โดยผลการวินิจฉัยพบว่ามีเชื้อวัณโรคหลังโพรงจมูก ซึ่งในเมืองไทยมีผู้ป่วยโรคนี้รวมทั้งหมด 39 คน

ถ้าเจอเคสในลักษณะแบบนี้ จะมีวิธีการดูแลหรือรักษาอย่างไร และจะทราบล่วงหน้าจากการมีอาการอะไรแจ้งเตือนหรือเปล่า?
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ “อันดับแรก การเข้าดูที่ด้านหลังโพรงจมูกไม่ใช่สิ่งที่จู่ๆ เราจะเห็น เราเปิดตาส่องดูก็ไม่เห็น และไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ หากจะให้ไปส่องกล้องทุกราย ผมว่ามันลำบากมากและมันก็มีโอกาสเจอน้อยมาก

เพียงแต่อย่างที่ผมเรียนการตรวจร่างกายประจำปีนี่แหละ มันจะครอบคลุมให้เราทราบโรคต่างๆ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ถ้าตรวจร่างกายประจำปีแล้ว ไม่เจออะไรผิดปกติแต่ร่างกายเรามีอะไรผิดปกติ เช่น น้ำหนักลดผิดปกติ มีไข้ต่ำๆ รู้สึกเบื่ออาหาร ไม่ค่อยอยากทานอาหาร ขอให้นึกไว้ก่อน

4 อย่างที่ผมพูดไปไม่ได้เป็นเฉพาะวัณโรคนะครับ มะเร็งทั้งหลายก็มาแบบนี้ได้เหมือนกัน เมื่อไหร่ที่มีอาการแบบนี้ให้ไปพบแพทย์เถอะ ไปตรวจหาอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจหลุดจากการตรวงร่างกายประจำปีไป แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับโรคนี้เพราะโอกาสที่เจอน้อยมาก แต่เราต้องเฝ้าระวังสุขภาพตัวเอง และตรวจร่างกายประจำปี อันนี้จะช่วยได้เยอะมาก”

by TVPOOL ONLINE