เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เปิดภาพ น้องกาย ลูกชาย เง็ก กัลยา ที่ถูกสามีเก่าพรากออกจากอกนานนับ 10 ปี เรียกได้ว่าโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน สำหรับ เง็ก กัลยา นักแสดงรุ่นใหญ่ ที่พิสูจน์ฝีมือด้วยผลงานการแสดงมากมาย ทั้งภาพยนตร์ และงานละคร อาทิ ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม, คู่แท้ 2 โลก

ซึ่งหลายคนคงทราบกันดีว่าครั้งหนึ่ง เง็ก กัลยา ได้ออกมาเปิดใจว่าครั้งหนึ่งเคยถูกอดีตสามีพรากแม่พรากลูกไปนานนับ 10 ปี แล้วเพิ่งกลับมาเจอกันอีกครั้งตอนลูกโตเป็นหนุ่ม

วันนี้ทีมงานของเราจะขอพาทุกท่านไปชมภาพ น้องกาย ลูกชายของนักแสดงรุ่นใหญ่ เง็ก กัลยา กันค่ะ ปัจจุบันน้องอายุ 20 ปีแล้ว จะบอกเลยว่าหล่อ เท่ เหมือนพระเอกเกาหลีมากๆ เลยค่ะ

‘เง็ก กัลยา’เผยชีวิตรัก เปิดใจถูกพรากลูกนานนับ10ปี โลดแล่นอยู่ในวงการมานานพอสมควร สำหรับ นักแสดงมากฝีมืออย่าง เง็ก-กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ ที่เธอนั้นเคยแต่งงานมาแล้ว แต่น้อยครั้งที่เจ้าตัวจะพูดถึงเรื่องครอบครัว ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจว่าเคยถูกอดีตสามีกีดกันไม่ให้เจอลูกนานนับ 10 ปี

“เคยแต่งงานมาแล้ว แต่ไม่เคยพูดเรื่องครอบครัวเลย ส่วนมากจะไม่ค่อยพูดเรื่องครอบครัวสักเท่าไหร่ คือมันผ่านมานานมาก เพราะตอนนี้ลูกชายก็อายุ 20 ปีแล้ว ซึ่งตอนที่แต่งก็แต่งกันเงียบๆไม่ได้หวือหวาหรือมีพิธีใหญ่โตอะไร มันก็ไม่ได้ถึงขั้นปิดข่าวนะคะ

คือช่วงที่เรามีสามี มีครอบครัว ก็เลี้ยงลูกใช้ชีวิตไปตามปกติ แต่ด้วยผ่านมาสักระยะ เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เลยต้องแยกทางกันไป ใช้ชีวิตคู่ได้สักประมาณ 4 ปีกว่า

เหตุผลหลักที่ต้องตัดสินใจแยกทางกับสามี คือการที่ผู้ชายเจ้าชู้อะไรแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วเรื่องมันก็จบ แต่ในความรู้สึกลึกๆของเราแล้ว เรารู้สึกได้เลยว่าอันนี้มันไม่ใช่ แล้วพอมันเริ่มรู้สึกเยอะๆ เราก็จะเป็นคนที่แบบว่าตัดออกเลย ก็ปล่อยเขาไป

จริงๆมันก็เห็นกันมานั่นแหละ แต่ไม่คิดว่ามันจะมาเป็นแบบนี้ พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ ก็เลยต้องตัดสินใจแยกกันไปดีกว่า ก็คิดอยู่นานนะ จนถึงวันที่เรารู้สึกแบบไม่ไหวแล้ว แล้วเราเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ มันรู้สึกแบบจี้หัวใจ คิดแล้วรู้สึกมันเจ็บ ก็เลยตัดสินใจไม่เอาแล้วดีกว่า น่าจะแยกทางกัน

หลังจากแยกทางกัน ก็ไม่ได้เจอลูกอีก ช่วงแรกๆมีการตกลงว่าเราจะจัดการดูแลลูกคนละอาทิตย์ ผ่านไปสักพักเขาก็พาลูกย้ายโรงเรียนหนีเราไปเลย ตอนนั้นเราตกใจมาก เราก็ตามหาไปจนทั่วนะคะ แต่ก็ไม่เจอ ก็หามาเรื่อยๆ จนได้มีการพูดคุยกับตัวเขา แล้วเขาก็ขอเอาลูกไปเลี้ยงเอง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอลูกอีกเลย สาเหตุที่ไม่ให้เราเจอลูกเราก็ไม่รู้ว่าเหตุผลของเขาคืออะไร

ตอนที่ตัดสินใจแยกทางกันจบกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือมันมีเรื่องเข้ามา อาจจะมีเรื่องผู้หญิงหรือมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วเราก็ตัดสินใจออกมาจากตรงนั้น ลูกไปอยู่กับแม่เลี้ยง คือเราบังคับมันไม่ได้ ในเมื่อเรื่องราวมันเป็นแบบนี้

และสุดท้ายเราก็ต้องปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถึงเราจะเสียใจร้องไห้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องอยู่ไป คือต้องบอกว่าเรื่องลูกเป็นอะไรที่เซนซิทีฟมาก เวลาไปกองถ่ายเจอใครที่พาลูกมาก็จะร้องไห้ตลอดเลย

แต่เราก็พยายามทำทุกอย่างที่จะได้เจอเขา แล้วได้เขากลับมาอยู่กับเรา ก็โดนแกล้ง โดนหลอกอยู่ตลอด บางทีโทรหาเราว่าลูกอยู่ที่นั่นที่นี่ เราก็รีบตามไปเพื่อจะเจอ แต่พอไปถึงปรากฏว่าไม่มี ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาต้องการอะไร ทำไปเพื่ออะไร

เวลาลูกไปโรงเรียนงานกีฬาสีอะไร เราก็ได้แต่ไปแอบดู ก็เป็นแบบนี้มาตลอดค่ะ จนวันหนึ่งก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาบอกว่า เดี๋ยวเวลาผ่านไปเราจะได้เจอลูกเอง เวลาเขาโต เขาก็จะมาหาเราเอง ซึ่งมันก็คือเรื่องจริง เราก็ได้เล่าให้ผู้ใหญ่ท่านนี้ฟัง แล้วเขาก็ช่วยพูดให้

“เง็ก-กัลยา เลิศเกษมทรัพย์” ถือได้ว่าเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่มีผลงานด้านการแสดงออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันอย่างมากมายโดยเฉพาะในบทของนางร้ายเธอก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ตีบทแตกกระจายแต่น้อยคนหนักที่จะรู้ว่าเธอนั้นมีลูกชายแล้ว โดยเมื่อหลายปีก่อนเธอได้เลิกรากับสามีและได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้เจอหน้าลูกชายอย่าง “น้องกาย” มาหลายปีแล้ว หลังจากที่ได้แยกทางกับสามีไปแต่ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอก็ได้มีโอกาสเจอกับลูกชายอีกครั้งถือว่าเป็นการเติมเต็มชีวิตคุณแม่ให้สดใสมากกว่าเดิมเลยทีเดียวแถมน้องกายยังหน้าตาดีเหมือนคุณแม่เป๊ะเลย วันนี้ก็ไม่พลาดที่จะรวมภาพของคุณแม่เง็กกับน้องกาย ลูกชายสุดหล่อมาฝากกันด้วย ‘น้องกาย’ ลูกชาย ‘เง็ก กัลยา’



หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆผ่อนลง ให้เราได้มีโอกาสเจอลูกบ้าง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นมา ความรู้สึกที่เจอกันคือเหมือนเราเจอแฟน เหมือนรักแรกพบ เจอแล้วตื่นเต้น หัวใจมันเต้นแรง มันดีใจมาก หัวใจเรามันพองโต ร้องไห้เลยค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาอาจจะยังไม่โตมาก และยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไร แต่เราก็ดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการแต่ละช่วงวัยของเขา หลังจากนั้นเราก็เจอกันบ่อยขึ้นค่ะ”