เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เรียกได้ว่าเป็นกระแสข่าวที่ดังเป็นอย่างมากเมื่อเฟซบุ๊ก นกกระจิบ นกกระจาบได้โพสต์คลิปวิดีโอ ที่เธอถูกรถนำขบวนปาดในระยะกระชั้นชิด เป็นอันตรายอย่างหนัก พร้อมกับระบุข้อความอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในขณะที่เธอขับรถมาจากจันทบุรี ได้มีรถขบวน รถตำรวจ และรถของกระทรวงเกษตรฯ ปาดเบียดแบบอันตรายคันแล้วคันเล่า ถนนนั้นเป็นถนนสองเลนสวนกัน ทางแคบ รถคันแรกเป็นรถนำขบวนเปิดหวอ คันต่อมาเป็นรถตู้สีดำ คันต่อมาเป็นรถตู้ที่มีข้อความติดว่า “สป.กษ.” รถนำขบวนดังกล่าวก็พยายามมาเบียดรถของเธอจนแทบตกถนน แต่โชคดีที่เธอนั่งในรถยี่ห้อหนึ่งซึ่งมีระบบอัตโนมัติไม่ให้คันอื่นมาปะทะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุไปแล้วก็ได้ นอกจากนี้รถนำขบวนดังกล่าวยังฝ่าไฟแดง สร้างความตกใจให้ชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก

ภาพข่าว รถนำขบวน บิ๊กเกษตร ขับปาดหน้า

น.ส.พัชรินทร์ วิกิตเศรษฐ เจ้าของคลิป ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะนั้นตนและเพื่อนกำลังเดินทางกลับ กทม. ระหว่างที่เดินทางมาตามเส้นทางลัด แกลง-จันทบุรี เป็นถนนแคบ ๆ เพียงสองช่องทางจราจรวิ่งสวนไป-มา ปรากฏว่ามีรถตำรวจนำขบวนรถตู้อีก 3 คัน ขับมาจี้ท้ายรถและเปิดไซเรน แต่ตนไม่สามารถขับหลบได้

น.ส.พัชรินทร์ เผยอีกว่า ด้วยความที่เป็นเลนสวนกัน ข้างทางก็มีไหล่ทางเพียงเล็กน้อย ก็ไม่รู้จะขับหลบให้ขบวนเขาไปทางไหน พอได้จังหวะที่เลนสวนมาไม่มีรถ ทางรถตำรวจนำขบวนก็เร่งเครื่องแซงขวา และตบเข้าซ้ายปาดหน้ารถของตนทันที ตามด้วยรถตู้คันสีดำที่คาดว่าบุคคลภายในรถจะเป็นข้าราชการระดับสูง ได้ขับแซงไปอย่างเดียว แต่รถตู้ตามหลังอีกคันที่ด้านข้างมีสัญลักษณ์หน่วยงานราชการ “สป.กษ.” หรือสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับขับมาเบียดข้าง ๆ จนระบบเซ็นเซอร์ป้องกันความปลอดภัยของรถตนทำงาน แล้วหักอัตโนมัติให้ เขาก็เร่งเครื่องแซงปาดหน้าไป หลังจากแซงไปไม่นาน ก็พบว่าขบวนดังกล่าวยังมีการฝ่าไฟแดงบนเลนเลี้ยวขวา จนรถประชาชนรอบข้างต้องเบรกแบบกะทันหันอีกด้วย

ต่อมา สำนักข่าว INN รายงานว่า พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นรถของหน่วยงานใด รวมถึงขบวนดังกล่าวมีคุณสมบัติที่จะสามารถมีรถนำขบวนได้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นรถนำขบวนของสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ขับรถนำขบวนจะต้องมีทักษะในการขับขี่ และต้องเคร่งครัดกว่าประชาชนทั่วไป ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งการแซงในที่คับขันต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตราย

ส่วนกรณีที่ทางผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถนำขบวนดังกล่าว ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่สามารถกระทำได้ ส่วนจะมีความผิดมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

สำหรับป้ายทะเบียนรถที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบเป็นประเภทขนส่งทั่วไป ไม่ใช่ทะเบียนสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีทั้งรถเช่า และรถที่จัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งกรณีนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการนำรถคนนอกมาใช้หรือไม่