โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 62 ธีร์ และ เอ็มมี่ ได้ออกมาตั้งโต๊ะเคลียร์เรื่องทั้งหมดกับสื่อมวลชน โดย ธีร์ ยอมรับว่าได้เงินบริจาค 8 ล้านบาทจริงและตอนนั้นเงินเหลือ 7.5 ล้านบาท อีก 5 แสนบาทที่หายไปนั้นมีการนำไปใช้หนี้บางส่วน และเงินที่อยู่ที่แฟนอีกประมาณ 6.4 ล้านบาท และที่ไว้ใจแฟนขนาดที่เอาเงินหลายล้านไว้ที่เขาเพราะเขาไม่เคยทอดทิ้งแม้ยามลำบาก สาเหตุที่บอกว่าได้ 5 หมื่น ก็เป็นหนี้บัตรเครดิต กลัวจะโดนอายัด และจะไม่มีเงินเก็บไว้ให้แม่ ก็เลยไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดแต่ภายหลังแล้วกลับกลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหลังจากที่ได้เงินบริจาคจำนวนมากแล้ว กลับพบว่า ธีร์ ได้ย้ายออกจากห้องที่บ้านเอื้ออาทร ไปอยู่บ้านข้างนอก และเก็บตัวเงียบ แม้กระทั่งเอ็มมี่ จะขอให้ช่วยนำเงินที่ได้รับบริจาคมาประช่วยประกันตัว แต่ ธีร์ กลับปฎิเสธอย่างไม่ใยดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เอ็มมี่ เป็นคนที่ช่วยเหลือ ธีร์ ไว้
หลังข่าวคราวหายเงียบไปนาน ธีร์ ก็ได้กลับเข้าวงการบันเทิงอีกครั้ง โดยได้รับแสดงซีรีส์ ของค่ายแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นซีรี่ย์เกี่ยวกับผี ซึ่งล่าสุด 23.มิ.ย.2563 นักแสดงหนุ่มธีร์ ได้เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ถึงประเด็น เงินบริจาค 8 ล้าน และเหตุผลที่ทำไมไม่ช่วยเหลือ “เอ็มมี่ แม็กซิม”
ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ เผยว่า “สุขภาพดีขึ้น ตับไตทหัวใจม่ามปอดกลับมาดีขึ้น 100% แล้ว กลับมาซ่า และกลับมาทำงานที่ตัวเองรักได้เหมือนเดิม ต้องกราบพระคุณ ทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ทีอย่างท่วมท้น อย่างสุขภาพตอนนี้ก็95 %แล้ว อีก 5% ดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้แข็งแรงไม่เครียด”
“ย้อนกลับไปตอนนั้น อาการหนัก โคม่าเลย ล้มหมอนนอนเสื่ออยู่ 2เดือน ทานไม่ได้ กินไม่ได้ ปวดเนื้อตัวไปหมด ก็คิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ไปต่อ คงไม่รอดแล้ว แต่จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็รวดเร็วเหมือนกัน จนหลายคนถามเหมือนกันว่าทำไมฟื้นตัวเร็วไปทำอะไรมา จริงๆก็ไปหาหมอตรงตามนัดและทำตามคำแนะนำของหมอ เพราะทุกโรคมีทางหายได้หมด ขอแค่เรามีวินัยในการทานยา รวมถึงการรับประทานอาหาร ”
นักข่าวถามต่อ ถึงประเด็นที่ช่วงป่วยหนัก เอ็มมี่ แม็กซิม ออกมาช่วยแชร์เรื่องราวจนมีคนเข้ามาบริจาคเงินมพูดได้เต็มปากหรือไม่ว่าเธอเป็นจุดเริ่มต้น โดย ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ เผยว่า “พูดได้เต็มปาก ว่าน้องเอ็มมีเป็นผู้มีพระคุณและจุดประกายให้พี่ๆในวงการบันเทิงหลายๆคนออกมาช่วย จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยลืมบุญคุณของน้องเลย ต้องขอขอบคุณน้องอีกครั้งครับ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนและเอ็มมี่ก็มีเฟซบุ๊ก มีไลน์ ไม่เคยบล็อค เวลาน้องจะโพสต์อะไร ก็เห็นตลอด แต่ก็เข้าใจว่ามีบางช่วง เราอาจเครียด น้องอาจจะเครียด ก็เป็นเรื่องของการงาน ของชีวิตกันไป แต่ถามว่าร่วมงานกันได้ไหม ตอบเลยว่าได้ เพราะตนก็อยากมีโอกาสนั้นด้วย และส่วนตัวตนก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว น้องเองก็เป็นผู้ที่มีบุญคุณกับตนเสมอ ที่ตนนั่งอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะน้องเอ็มมี่”
หากย้อนถามว่าทำไมถึงไม่ช่วยเหลือตอนที่เอ็มมี่เดือดร้อน “จริงๆไม่อยากพูดถึง แต่ในปัจจุบันก็ช่วยเหลือกันเป็นพี่เป็นน้องกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอ ไม่ได้ช่วยเหลือกันอีก แต่ก็เป็นเรื่องที่เราตกลงคุยกัน2คน ส่วนใหญ่จะเคลียร์กับน้องเอ็มมี่ไปแล้วทุกประเด็นเรียบร้อย ไม่มีอะไรคาใจกันแล้ว ทางด้านน้องเอ็มมี่เองก็บอกจบไปไม่อยากอะไรแล้ว อันที่น้องช่วยก็คือช่วย นับถือน้ำใจน้องจริงๆ เพราะจริงๆส่วนตัวตอนนั้นก็ช่วยไปบ้างนิดหน่อยตามสมควร เหตุผลก็เพราะตนเองก็นั้นก็มีภาระ มีเจ้าหนี้ตามทวงถึงบ้าน ส่วนตัวเลขว่าช่วยไปเท่าไหร่ขอไม่บอก ถือเป็นน้ำใจให้แก่กัน ด้านเรื่องคดีโกงแชร์ของเอ็มมี่ที่คลี่คลายแล้วนั้น ตนบอกก็ทราบข่าว แต่ไม่ได้คุยกันส่วนตัว เพราะตอนนี้ตนด็ยุ่งกับงานถ่ายซีรีส์”
ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ เผยต่อว่า “ตั้งแต่หายป่วย รายได้ตอนนี้ก็มาจากการแสดง และเขียนบท ส่วนเงินที่พี่น้องประชาชนบริจาคช่วยเหลือมาให้รักษาตัว ตนนั้นก็นำมาดูแลในเรื่องปัจจัย4ปัจจัย5 อย่างประหยัด และก็ใช้ซื้อบ้านมือสองให้แม่อยู่ ตอนนี้ก็ยังเหลือเงินอยู่บ้าง ตนก็ไม่กล้าใช้ฟุ่มเฟือย เพราะเคยอดมาแล้ว รุ้ว่ายามไม่มีคือไม่มีจริงๆ บากหน้าไปหาใครไม่ได้เลย”
นักข่าวถามต่อถึงประเด็นที่กระแสสังคมมองว่าได้รับเงินบริจาคไป8ล้านทแล้วชีวิตดีขึ้น แต่กลับลืมบุญคุณผู้ที่เคยช่วยเหลือ เรื่องนี้ ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ เผยว่า “ตนไม่เคยลืมบุญคุณใครเลยที่เคยช่วยเหลือทุกบาททุกสตางค์ แม้แต่น้องเอ็มมี่ตนก็ไม่เคยลืม ตนพูดเสมอ ไม่ว่าใครจะมาสัมภาษณ์ ก็ยังพูดและยืนยันว่าน้องเอ็มมี่คือผู้ที่มีพระคุณกับตนมากๆ ทั้งคนที่ไม่ได้เอ่ยนาม ขอบคุณมากๆที่ทำให้ตนมีชีวิตรอด กลับมานั่งตรงนี้อีกครั้ง”
“สรุปแล้วชีวิตตอนนี้ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ ตอนนี้ไม่ได้ไปรับยามาทาน3เดือนแล้ว เพราะติดช่วงโควิด แต่อาการยังปกติ เดี๋ยวกลางเดือนหน้าจะไปตรวจร่างกายอีกครั้ง ว่าค่า ตับ ไต หัวใจ ปอด ม่าม ดีขึ้นแล้วหรือไม่ ส่วนประเด็น เกาเหลากับเอ็มมี่ เราขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เ ให้เวลาเป็นกาวใจ ถามว่ามีคุยกันหลังไมค์ไหม ก็ไม่ได้คุย ตั้งแต่มีประเด็นกัน แต่น้องก็น่ารัก บอกว่าอะไรที่แล้วจบ ก็แล้วกันไป” ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ กล่าวทิ้งท้าย
