จากกรณี ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษา คดีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ร่วมกันไปชุมนุมหน้าบ้านพักของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ที่บ้านพักแยกสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จำเลยหนึ่ง ในนั้นคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช.
ภายหลังการตัดสินของศาล ซึ่ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกส่งตัวไปตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว ในเฟซบุ๊กของเจ้าตัว มีการโพสต์คลิปที่อัดไว้วันที่ 25 มิถุนายน ก่อนวันขึ้นศาล พร้อมกล่าวว่า หากท่านได้รับชมคลิปนี้ แสดงว่าตนได้รับคำพิพากษาให้จำคุก สูญสิ้นอิสระภาพจากคำพิพากษาศาลฎีกา
โดยในคลิปดังกล่าว นายณัฐวุฒิ ได้กล่าวถึงคดีความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงคดีที่กลุ่มพันธมิตรปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมือปี 2551 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง, คดีที่กลุ่มพันธมิตร ใช้คีมเหล็กตัดโซ่กุญแจทำเนียบรัฐบาล และชุมนุมในทำเนียบนาน 6 เดือน ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 8 เดือน
ขณะที่คดีของตน วันเกิดเหตุเดินขบวนจากท้องสนามหลวงไปชุมนุมปราศรัยหน้าบ้านสี่เสาเทวเวศร์ ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม มีการกระทบกระทั่งบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ตนเคารพในคำพิพากษาและพร้อมเผชิญความจริง เพราะทุกคดีความที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ทางการเมือง ตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตลอด
“ขอบคุณทุกกำลังใจทุกความห่วงใยของเพื่อนมิตรร่วมอุดมการณ์ พี่น้องประชาชนทั้งหลาย ผมได้รับครับ แล้วก็เป็นพลังให้ผมยังต่อสู้จนเวลานี้ จะสู้อย่างนี้ตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้กับทุกคนที่ยังต่อสู้ ขอยืนเคียงข้างทุกพลังที่เดินหน้านำพาประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พี่น้องที่ร่วมต่อสู้ทั้งหลายอย่าได้เป็นทุกข์ อย่าได้เสียกำลังใจนะครับ 10 กว่าปีที่แล้ว นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ณ วันนั้นเป็นอย่างไร มาวันนี้ก็ยังเป็นคนเดิม และขอยืนยันว่า จะกลับมายืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน กับการต่อสู้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”
พร้อมบอกว่า เรายังมีกันและกันอยู่เสมอ วันนี้ไม่ใช่วันพ่ายแพ้ และตนจะไม่ยอมแพ้ พร้อมฝากไว้ดังนี้…
– เรื่องแรก คือ โครงการด้วยรักและแบ่งปัน เกิดขึ้นจากการระดมทุน รับบริจาค จากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก เราได้มอบทุการศึกษาให้กับนักเรียนผู้ขาดแคลนไป 1,029 ทุน และได้คัดเลือกมา 60 คน เพื่อสนับสนุนการศึกษาให้ทุกเทอมจนจบปริญญาตรี ดังนั้น ในช่วงเวลาที่ตนไม่อยู่ ขอความกรุณาทุกท่านที่สละทุนทรัพย์ได้โดยไม่เดือดร้อน สนับสนุนโครงการด้วยรักและแบ่งปัน ให้ลูกหลานผู้ขาดแคลนของเราได้มีโอกาสทางการศึกษาต่อไป
– ส่วนอีกเรื่อง ตนยอมรับว่าการต่อสู้ทางการเมืองของตน ย่อมมีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของตน ไม่เกี่ยวกับครอบครัวหรือลูก ๆ ถ้าหากพี่น้องประชาชนที่เห็นด้วยและสนับสนุนร่วมต่อสู้ด้วยกันมา ขอฝากลูก ๆ ของผม 2 คนไว้ด้วย ให้ความเมตตาเอ็นดูในวันที่ตนไม่อยู่ สำหรับคนที่เห็นต่าง หรือมีความประสงค์จะเหยียบย่ำซ้ำเติม ขอความกรุณาให้พุ่งเป้ามาที่ตนเพียงคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัว
“ผมไม่ได้เสียใจกับการออกมายืนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตรงกันข้าม ผมกลับภาคภูมิใจที่ได้ยืนเคียงข้างประชาชน และยืนยันหลักการที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรกจนถึงวันปัจจุบัน ผมยังยืนยันหลักการเดิมนี้เสมอครับ ตลอดเวลาในการต่อสู้ ยังสามารถสบตาพี่น้องประชาชนผู้ร่วมอุดมการณ์ได้ตลอดเวลา ยังมองหน้าตัวเองในกระจกได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกกระดากอาย เพราะมั่นใจว่าไม่เคยเบียดบังผลประโยชน์ ทรัพย์สิน ชีวิต และอิสระภาพของประชาชน ขอขอบคุณทุกคน ทุกท่านอีกครั้ง เมื่อครบวาระตามคำพิพากษา ผมจะกลับมา และสัญญาว่าจะกลับมาแบบแข็งแกร่งกว่าเดิม
by TVPOOL ONLINE