เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีสำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตของสหราชอาณาจักรนำผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและน้ำมันมะพร้าวออกจากชั้นวาง หลังพบว่าแหล่งที่มาของลูกมะพร้าวมาจากการใช้แรงงานลิงที่ถูกจับมาจากป่าและนำมาฝึกฝนเพื่อเก็บมะพร้าววันละถึง 1,000 ลูก

องค์กรประชาชนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (พีตา) ระบุว่าลิงกังในประเทศได้รับการปฏิบัติเหมือน “เครื่องเก็บมะพร้าว” และเรียกร้องให้คนดีไม่สนับสนุนการใช้แรงงานลิงด้วยการไม่ซื้อผลิตภัณฑ์มะพร้าวจากไทย โดยซูเปอร์มาร์เก็ตที่ออกมาให้คำมั่นที่จะหยุดขายสินค้าของตัวเองได้แก่ เวทโทรส โอคาโด โค-ออป และบู๊ทส์ ว่า ในฐานะผู้ค้าปลีกผู้มีจริยธรรม เราไม่อนุญาตการใช้แรงงานลิงหามะพร้าวมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของเรา

ด้าน แคร์รี ไซมอนด์ส คู่หมั้นนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งอังกฤษ ยินดีที่ห้างค้าปลีกอย่างน้อย 4 แห่ง ประกาศยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์มะพร้าวที่มาจากแรงงานลิง และเรียกร้องให้ผู้จำหน่ายรายอื่นดำเนินรอยตามนอกจากนี้ คู่หมั้นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังทวีตเรียกร้องให้ห้างใหญ่อย่าง เทสโก ให้คำมั่นว่าจะเลิกขายด้วย ขณะที่โฆษกเทสโก บอกสำนักข่าวบีบีซี ว่า ผลิตภัณฑ์น้ำกะทิและน้ำมะพร้าวยี่ห้อที่บริษัทวางขายอยู่ ไม่ได้ใช้แรงงานลิงในการผลิต และบริษัทจะไม่ขายสินค้ายี่ห้อที่พีตาระบุว่าใช้แรงงานลิง

ขณะที่ นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ระบุว่า คาดว่าภาพการใช้ลิงเก็บมะพร้าวในไทยน่าจะมาจากภาคการท่องเที่ยว ละครลิง การโชว์เก็บมะพร้าวในชุมชน ทำให้ต่างชาติเกิดภาพจำแบบนั้น และคิดว่าภาคอุตสาหกรรมของไทยเป็นเช่นนั้นด้วย ขอยืนยันไม่มีแน่นอน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาด้วยภาพจำในอดีตว่าไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าว ทำให้ไทยถูกตั้งคำถามจากองค์กรที่ดูแลสัตว์ โดยเฉพาะในประเทศแถบยุโรป ซึ่งผู้ประกอบการก็มีการชี้แจง ทั้งทางตรง ทั้งผ่านกระทรวงพาณิชย์ มีคลิปวีดิโอกระบวนการผลิตยืนยัน แต่ปัจจุบันมีสื่อโซเชียลมีเดีย ที่มักแชร์เหตุการณ์ในอดีตจนทำให้เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ดังนั้นภาคเอกชนคงจะชี้แจงต่อไป และจะประสานกับหน่วยงานรัฐในการแก้ปัญหานี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง และเป็นภาพบวกกับประเทศไทย

ล่าสุด นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล ผู้เชี่ยวชาญการค้าระะหว่างประเทศ เปิดเผยผ่าน สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงกรณีที่ซูเปอร์มาร์เก็ตของสหราชอาณาจักร นำผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและ น้ำกะทิของไทยออกจากชั้นวาง โดยอ้างว่าแหล่งที่มาของมะพร้าวมาจากการใช้แรงงานลิงที่ถูกจับมาจากป่ามาฝึกเพื่อใช้งาน เป็นการทารุณกรรมสัตว์ ว่า รัฐบาลไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ จะต้องหารือกับเอกชน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างประเทศ ว่า มะพร้าวและน้ำกะทิของ
ไทยที่ส่งออกไปนั้น ไม่ได้มาจากแรงงานลิง เพราะบางส่วนก็นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ทั้งนี้ มองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ประเด็นการเมือง

นอกจากนี้ นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า ไม่เพียงแต่เรื่องลิงเท่านั้นที่ต้องเร่งชี้แจง แต่ยังมีเรื่องเนื้อไก่อีก เพราะทางเทสโก้ที่อังกฤษได้วางระเบียบมาตรการแล้วว่า เนื้อไก่ที่นำเข้า จะต้องไม่ได้มาจากกากถั่วเหลืองที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์และผู้ประกอบการไทยจะต้องตรวจสอบ ว่า กากถั่วเหลืองที่ไทยนำเข้าจากประเทศต้นทางนั้น ได้ทำลายป่าไม้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อการส่งออกไก่ไทยในอนาคตได้