เข้าสู่เดือนที่ 7 สิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองไทยจะเป็นอย่างไรนั้น ท่ามกลางการเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องคุมให้อยู่หมัด และพิษเศรษฐกิจ ยืดเยื้อยาวนาน จนมาเจอโควิดถล่มซ้ำเกิดผลกระทบอย่างหนักหน่วง ไม่รวมม็อบ กำลังดาหน้าถล่มรัฐบาล นำไปสู่การถอดรหัสดวงเมือง ตามตำราโหราศาสตร์ ฉายภาพอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณาญาณของแต่ละคนจะเชื่อหรือไม่
ขณะนี้ “ดวงเมือง” อายุย่าง 239 ปี มีความสัมพันธ์กับดาวมฤตยู ดาวราหู ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ และดาวอื่นๆ ล่าสุดดาวหาง ได้โผล่ให้เห็นบนโลก จะส่งอิทธิพลอย่างไรกับดวงเมืองครึ่งปีหลังปี 63 นี้ “อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ดาวมฤตยูโคจรอยู่ราศีเมษ ก่อให้เกิดความอาเพศทั้งหลาย เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง มีความลึกลับซับซ้อนฉับพลัน โดยดาวมฤตยูจะอยู่ยาวไปอีก 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2557 ในช่วงคสช.ยึดอำนาจปฏิรูปประเทศ จนมาถึงยุคโควิด ก่อนย้ายไปในเดือนก.ค. ปี 2565 จากราศีเมษ ไปราศีพฤษภ ทางทิศตะวันออก ซึ่งบ่งบอกบ้านเมือง เริ่มมีปัญหาทางการเงินและเศรษฐกิจ
ส่วนดาวพระราหู กำลังโคจรมาจากราศีมิถุนเรือนสหัชชะของดวงเมือง หมายถึง การคมนาคมขนส่ง และการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศ จะย้ายเข้าราศีพฤษภ ในวันที่ 10 ก.ย. 2563 ไปทางทิศตะวันตก จะเกิดการโคจรย้อนวิถี หรือสวนกันกับดาวมฤตยู ในปี 2565 ซึ่งเมื่อดาวพระราหู ย้ายจากราศีมิถุน เข้าราศีพฤษภ ถือเป็น “ราหูค้นทรัพย์” มีการนำทรัพย์สินเงินทองที่เคยมีออกมาใช้จนหมด หรือร่อยหรอ ทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ กระทบความเป็นอยู่ประชาชน โดยดาวพระราหู อยู่ราศีพฤษภ ยาวไปอีก 1 ปี จนถึงต้นปี 2565 ยิ่งทำให้เกิดปัญหาการเงินการคลัง จากการใช้งบประมาณสิ้นเปลือง โดยไม่เกิดประโยชน์ เพราะพระราหูเป็นศรีจร มีเงินให้กู้ หาเงินมาใช้ ทำให้เกิดภาระหนี้สินมโหฬา
ขณะที่ดาวอังคาร ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “ดวงเมือง” โดยปีนี้ค่อนข้างสำคัญได้โคจรมาราศีมีน กำลังเข้าราศีเมษ ในวันที่ 10 ส.ค. 2563 จะเดินหน้าไปราศีเมษ ไปจนถึงวันที่ 8 ก.ย.2563 และอยู่นิ่ง และเดินผิดวิถีในลักษณะเดินถอยหลังถึงวันที่ 9 ต.ค. 2563 และถอยหลังข้ามราศีจากราษีเมษ มาราศีมีน ในวันที่ 26 พ.ย. 2563 ไปจนถึงวันที่ 27 ธ.ค.2563 และกลับเข้ามาราศีเมษอีกครั้ง ถือเป็นห้วงเวลาที่ดาวอังคารอยู่ใน 2 ราศี ซึ่งในตำราโหราศาสตร์ กล่าวไว้อย่างน่าศึกษา โดยเฉพาะกลางเดือน ต.ค 2563 จะมีดาวอังคารโคจรเข้าใกล้โลก จนเกิดความสว่างสามารถเห็นดาวอังคารดวงใหญ่ ขึ้นตรงกับราศีเมษ และราศีมีน ในลีลาถอยหลัง ซึ่งจะเกิดปัญหารุนแรง
“ตามตำราอภิธรรมอรรถสาลินี กล่าวไว้อังคารพักรมีศึกต่างเมืองมา อังคารเสริดนั้นว่าเกิดยุคเข็ญ อังคารมนฑ์เกิดวิกลบังเกิดเป็น มหาชนจะเกิดเข็ญออกฝีตาย จะเจ็บท้องลงแดงตายเสียมาก ความทุกข์ยากในมนุษย์สิ้นทั้งหลาย และการที่พระอังคารถอยหลังโดยเฉพาะมาราศีมีน นั้นร้ายนัก จะเกิดความเสียหายวายชีวี พระธรณีดูดเลือดคนมีการตายจำนวนมาก เกิดอุบัติเหตุ แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม คนในชาติแบ่งแยก หรือเกิดขบวนการแบ่งแยกดินแดนรุนแรงมากขึ้น จะเกิดพายุ เกิดไข้ทรพิษ มหาชนพินาศ ตั้งแต่ 8 ก.ย.ไปจนถึง 26 พ.ย. 2563 ไม่ดีเลย”
ประการสำคัญที่ส่งผลต่อดวงเมืองในปี 2563 เมื่อดาวพฤหัส หมายถึง การเมืองการปกครอง และดาวเสาร์ หมายถึงมหาชน คนจำนวนมาก ซึ่งเป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย กำลังโคจรถอยหลัง จะเกิดความวุ่นวาย เกิดปัญหาเกี่ยวกับศาสนา สมณะ นักบวช วัดวาอาราม วงการศึกษา วงการกฎหมาย และวงการแพทย์ นอกจากนี้ยังเกิดฝนแล้ง ข้าวยากหมากแพง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศ ประมาณ 3-4 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ได้ผ่านไปแล้วเมื่อ 1 เม.ย. 2563 ครั้งที่ 2 ประมาณวันที่ 23 ก.ค. ในลีลาถอยหลัง แปลว่าเกิดการทบทวนตรวจสอบ นำมาแก้ไขปรับปรุง
ส่วนครั้งที่ 3 ดาวพฤหัส และดาวเสาร์ จะเดินหน้ามาทันกัน ประมาณวันที่ 20 ต.ค 2563 ตรงกับราศีธนูในภพที่ 9 และดาวสุดโต่ง 2 ขั้วนี้ จะมากุมกันในลักษณะซ้อนกันบนท้องฟ้า ในวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ตรงกับราศีมังกร เป็นภพที่ 10 ของดวงเมือง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองครั้งสำคัญ หรือภาษาโหร เรียกว่า “The Great Conjunction 2020” นำมาซึ่งความโกลาหล เชื่อมโยงไปถึงปลายปี 2563 ไปจนถึงปลายปี 2565
“ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อ 400 ปีก่อน ตอนนั้นกรุงเทพฯยังไม่เกิด และมาคราวนี้กรุงเทพฯ เกิดแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เห็นความแตกต่างระหว่างคนจนกับคนรวย คนชั้นสูงกับชนชั้นต่ำ เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เกิดการปรับตัว เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรง ก่อนหน้าเมื่อ 2 ปีก่อนเคยเตือนมาแล้ว หากฉวยโอกาสนี้มาเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีก็จะดีขึ้น โดยไม่มีการสูญเสีย ก็ควรมีการปรับปรุงเสีย”
นอกจากนี้เคยมีสถิติในอดีต เมื่อดาวเสาร์ เล็งดวงจันทร์ หมายถึงประชาชน จิตใจอารมณ์ที่มีความขัดแย้งกับรัฐบาลมาอยู่ราศีมังกร ภพที่ 10 ของดวงเมือง ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในปี 2535 เกิดพฤษภาทมิฬ หรือย้อนไปในปี 2505 มีการปราบปรามคอมมิวนิสต์ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และปี 2475 เกิดการปฏิวัติสยาม เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คณะราษฎรได้ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย
ข้อมูลจาก Thairath