เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม ที่ผ่านมา นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่ายเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น สาว เจนนี่ได้ออกมาโพสต์ประกาศข่าวดีกันแฟนๆ ว่า คอนเสิร์ต ค่ายได้หมดถ้าสดชื่น กำลังจะเริ่มขึ้น ตนรู้สึกตื่นเต้น หลังจากที่หยุดไปหลายเดือนเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งสาว เจนนี่ยังขอบคุณเจ้าภาพที่ติดต่อมาและขอบคุณเอฟซีที่ถามหา ท่ามกลางแฟนๆ ที่เข้ามาคอมเมนท์แสดงความยินดีกับสาว เจนนี่เป็นจำนวนมาก
เลยเป็นประเด็นสุดร้อนในโลกออนไลน์อีกรอบ สำหรับสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เมื่อช่วงวันหยุดสาว เจนนี่ได้ไปออกงานคอนเสิร์ตในจ.กระบี่ และจ.นครศรีธรรมราช โดยมีแฟนเพลงมาติดตามผลงานจำนวนมากแต่สุดท้ายสาว เจนนี่ต้องเจอประเด็นดราม่าเข้าจนได้ เมื่อในคอนเสิร์ตมีแฟนเพลงเบียดเสียดกันแน่น และไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย จึงมีชาวเน็ตตั้งคำถามถึงมาตราการป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาลและศบค. ก็มีแฟนๆ บางคนเข้ามาคอมเมนต์ถามว่า เป็นช่วงโควิดไม่ใช่เหรอ ทำไมคนแน่นเหมือนปลากระป๋อง การ์ดอย่าตก ติดโรคมามันไม่คุ้ม พร้อมกับถามว่า ถ้าติดโควิดมา สาว เจนนี่จะรับผิดชอบมั้ย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ค. น.ส.ภาวินีย์ หรืออิฐ สมโย อายุ 34 ปี เจ้าภาพที่จัดคอนเสิร์ต เปิดเผยว่า นี่เป็นคอนเสิร์ตการกุศลฉลองวัน คล้ายวันเกิดของตน  ได้จัดเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สธ.และฝ่ายปกครอง คอยคัดกรองผู้เข้าชมทุกคน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าด้วย มีการวัดไข้ ล้างเจลแอลกอฮอล์ จะต้องสวมหน้ากากอนามัย ใครไม่สวมไม่ให้เข้างาน จัดเก้าอี้เว้นระยะห่าง และลงทะเบียน“อยากถามไปยังคนที่วิจารณ์ ว่าทำไมจะต้องมาดราม่ากับคอนเสิร์ตสาว เจนนี่ ด้วย ทั้งที่มีศิลปินอีกหลายคนที่มาร่วมงาน ยืนยันว่าในงานมีมาตรการคัดกรองเข้มงวดตั้งแต่ก่อนเข้างาน คนที่ไม่มีแมสก์หลายคนก็ต้องกลับบ้านไป เพราะเราไม่สามารถให้เข้าได้และมีประกาศตลอดงาน ยืนยันว่าคอนเสิร์ตวันนั้นมีการคัดกรอง ซึ่งมีภาพและคลิปตอนไลฟ์สดมีการประกาศตลอดให้สวมหน้ากากนามัย”