เรียกว่า ทำเอาแฟนคลับช็อคเมื่อทราบว่า นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ตรวจพบเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้เข้าทำการผ่าตัดคอ เพราะเรื่องของไทรอยด์และต่อมน้ำเหลือง ซึ่งมีผลกระทบต่อเส้นเสียง
โดยล่าสุด นุ๊ก สุทธิดา ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า “การรักษาขั้นที่2 ทานเคมีบำบัด #อย่าตกใจไป สบายดีมากๆ ร่าเริงเบอร์10 แต่ตอนนี้ขอพักก่อนนะคะ ไม่ได้มึนเคมี แต่อิ่มมากค่ะ เพราะทานไม่หยุดปากเลยตั้งแต่ 12.00 จนถึง 17.00 แล้วเดี๋ยวจะทำรีวิวห้องตะกั่วให้ชมนะคะ”
ล่าสุด นุ๊ก ได้ออกมาเปิดใจให้ สัมภาษณ์ ถึง ฮากิม สามี พร้อมยอมรับว่า มีปัญหา งอนกันอยู่ เรื่องราวเลยไม่สมูทอย่างที่ควรจะเป็น
…ต้องเข้าใจว่าเราคุยในมุมของเรา เราก็จะเล่าว่าสามีไม่เชื่อ แต่ถ้ามองในมุมของนางที่โดนมา ตลอด 2 ปีที่เราทำยิมมา นุ๊กก็ไม่ได้ปล่อยให้เขากลับบ้านเลย
เพราะมันมีเหตุผลว่า นุ๊กทำยิม และยิมมันขาดทุนตลอด มีเขาคนเดียวจริงๆ ที่ทำให้เกิดการขาดทุนที่น้อยลง ถ้าวันไหนไม่มีเขา ยิมจะขาดทุนหนักมาก เพราะฉะนั้นนุ๊กปล่อยให้เขากลับบ้านไม่ได้แม้แต่วันเดียว
ตัวฮากริมเขาไม่มีวันหยุดเลยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเขาทำงานหนักมาก เขาก็คงเข้าใจว่าเรากีดกันไม่ให้เขากลับบ้านมาตลอด 2 ปี และวันที่น้องสาวเขาจะแต่งงาน ดันไปบอกก่อน 1 เดือนว่าป่วยเป็นมะเร็ง
มันเป็นความรู้สึกที่แบบ 2 ปีไม่ให้เขากลับบ้านเลย เขาอาจจะคิดว่ามันมีอะไร ว่าเราไม่ชอบครอบครัวเขา ครอบครัวเขาคงไม่ดีรึเปล่า อันนี้ในมุมที่นุ๊กคิดนะคะ พอน้องจะแต่งงานก็มาบอกว่าไม่สบาย จะตาย ก็เลยเกิดการไม่เชื่อ

แต่พอหลังจากที่เขาเห็นก้อนเนื้อแล้ว เขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่ปั้นปึงมาเป็นดีมาก ดูแลลูก ทำทุกอย่างอย่างดี เพราะคงจะรู้สึกผิด และคงรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ พอไม่มีเมีย เราต้องทำอะไรบ้าง 1 2 3 4
กลายเป็นว่าไม่ต้องสั่งเลย เราก็เลยรู้สึกว่า การที่เราอายุห่างกัน บางทีเรามองเขาเราก็มองแบบทำใจ มองแบบเข้าใจ และปล่อยวางมากขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงปะทะกันไปแล้ว เพราะเราก็ไม่เข้าใจ เขาก็คงอายที่จะบอกเราว่าเขาคิดแบบนี้กับเราอยู่
ใช้เวลาปรับความเข้าใจกันนานมั้ยหลังจากที่ปั้นปึงใส่กัน?
ตอนงอนนุ๊กรู้สึกว่านาน เพราะช่วงเวลาที่เรารู้สึกไม่ดี เราเลยรู้สึกว่านานมาก แต่พอเขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องจริง เราก็เปลี่ยนของเขาเองโดยที่เราไม่ได้พูดอะไร และสิ่งนี้แหละมันถึงตอบเราว่า อ๋อ ที่ผ่านมา คิดอย่างนี้นี่เอง
แต่เราไม่ได้ทะเลาะไม่ได้โต้เถียงกันนะคะ แค่งอน ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจ เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร และเขาก็งอนและคิดว่าให้เราเลิกเล่นละครสักที
แต่พอรู้ว่าเราเป็นจริงๆ ป่วยจริงๆ เปลี่ยนเลย หันมาบอกว่าไอเลิฟยู ที่รู้เพราะเขาเห็นรูปที่เพื่อนถ่ายมา และเขาก็ถามว่ามันคืออะไร อันนี้คืออะไร เขาอยากรู้อยากเห็น ไม่ใช่ว่าไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับเรา
by TVPOOL ONLINE



