เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง นักแสดงจิตอาสาคนดังอย่าง ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ในวัย 51 ปี ที่ปกติเป็นคนสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่ล่าสุดต้องล้มหมอนนอนโรงพยาบาลเพราะการงานหนักลุยป่า ถ่ายละครเรื่องใหม่ พร้อมกันสองเรื่อง จนไข้ขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาลซึ่งเจ้าตัวเล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่า

โพสต์นี้เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่านนะครับ ถือเป็นกรณีตัวอย่าง อาจจะยาวหน่อย..ไม่ต้องตกใจนะครับตอนนี้ออกจาก รพ.กลับมาบ้านเรียบร้อยแล้ว.. ผมจะเล่าไทม์ไลน์คร่าวๆ นะครับ.. วันที่ 8 สิงหา ผมไปรับรางวัลกินรีทองที่ ททบ.5 กลับมารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว รีบอาบน้ำกินยาลดไข้แล้วเข้านอน นอนไม่ค่อยหลับไข้ขึ้นหนาว ปวดเนื้อตัว กินยาทุก 4 ชม.ยาออกฤทธิ์ก็บรรเทาระดับนึง พอครบ 4 ชม.ไข้ขึ้นหนาว ปวดตัวสลับแบบนี้ เช้าวันที่ 9 ตื่นนอนพอทรงตัวก็อาบน้ำไปร่วมทำบุญที่โคลีเซี่ยม ไปอยู่ได้ประมาณชั่วโมงอาการเดิมหมุนเวียนมาหา คราวนี้มีกลืนน้ำลายเจ็บคอเพิ่มมา ไม่ทันอยู่ในพิธีทำบุญต้องรีบขับรถยนต์กลับที่พัก ตอนนำรถจอดขับรถถอยเข้าซองเบียดเสาคอนโดกระจกเกือบหัก

ซึ่งเหมือนสมรรถนะเราเริ่มแปลกๆ กลับขึ้นไปนอน ต้มข้าวต้มใส่เกลือกินยานอน อย่างอื่นเหม็นกินไม่ได้ วันนั้นจนถึงกลางคืนพยายามอดทนฝืนนอนด้วยอาการวนเวียนไข้ขึ้น หนาวสั่น ปวดตัวจนเริ่มเข้ากระดูก สายๆ ประมาณ 10 โมงรู้สึกว่าพอไหวแต่มั่นใจว่าอาการไม่ปกติล่ะเลยรีบประคองตัวขับรถไป รพ. สติยังมีแต่สมองสั่งการทุกอวัยวะรู้สึกเลยว่าไม่ปกติ ฝืนจนถึงที่จอดรถและเดินโงนเงนจนถึงจุดลงทะเบียนคนไข้ พบแพทย์เจาะเลือดแอดมิดทันที

หมอสันนิษฐานเบื้องต้นจากอาการและประวัติย้อนหลังภายในสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นไข้เ ลื อ ด ออกที่กำลังระบาดหนัก (วันที่ 2 สิงหา ถ่ายละครที่กันตนา ศาลายา บ่ายถึงดึกยุงเยอะมากโดนกัดกระจาย วันที่ 5 สิงหาถ่ายที่ป่าหุบเมย นครนายก สารพัดเลย ยุง ไร ลิ้น เป็นป่ารกชื้น ถ่ายตั้งแต่เช้ายัน 3-4 ทุ่มทั้งสองวันมีฝนตกสลับทั้งวันทั้งคืน ) หมอเลยค่อนข้างมั่นใจว่าไข้เ ลื อ ด ออกเพียงแต่ผื่นอาจจะยังไม่ขึ้น ตอนพบแพทย์ไข้ 38.5 ได้ห้องที่ รพ.ตอนเที่ยงๆ หมอบอกรอผลเ ลื อ ด ประมาณ 2 ชม. ระหว่างรอก็ให้ยาฆ่าเชื้อพร้อมกับน้ำเกลือ และยาลดไข้ชนิดเม็ด ตลอดเวลาจากนั้นประมาณ 5-6 ชม. อาการหนักขึ้นสุดๆ ไข้ไต่ระดับจาก 38.5 ไล่ขึ้นจนถึง 41 หนาวสั่นเกร็งกระตุก ปากเขียว เท้ามือตัวเหลืองซีด เพ้อพูดจาไม่รู้เรื่องห่มผ้าซ้อน 6 ผืนเอาไม่อยู่ยากินลดไข้ไม่อยู่

คอเริ่มตีบกลืนน้ำลายเจ็บมากจนหมอต้องสั่งยาลดไข้ชนิดรุนแรงแบบฉี ดเข้าเส้น และให้พยาบาลใช้ผ้าชุบน้ำชุ่มๆ เช็ดตัวอยู่นาน เป็นการหนาวสั่นแบบสุดชีวิตปวดตัวเข้ากร ะดูก ปากสั่นฟันกระทบกันแบบมาราธอน 5-6 ชม. จนประมาณทุ่มนึงไข้ลด อาการดีขึ้น สติเริ่มกลับมา แต่ยังเวียนหัวมีอาเจียนออกมาหนึ่งครั้งหมดไ ส้หมดพุง ประมาณ 2 ทุ่ม แพทย์เวรมาแจ้งว่าผล เลือดไม่เป็นไข้เลือดออก สันนิษฐานว่าคงจะได้รับไวรัส ตัวใดตัวหนึ่งมาทำให้ไข้ขึ้นสูง (อ้าวแล้วมันตัวไหนวะ) ต่ออีกสเตตัสนะ

ต่อภาค 2 ครับ..(หลังจากได้ยาเข็มนั้นลดไข้ไป ลดลงมาปกติเป็น 36 กว่าๆ ตลอดจนออกจาก รพ.)เช้าวันที่ 11 สิงหา หมอเจ้าของไข้มาแจ้งว่าไม่เป็นไข้เลือดออก พูดเหมือนคนแรก ก็ใหรักษาตามอาการถ้าไม่มีอะไร ไ ว รั ส ตัวนี้มันจะหายไปเองถ้ารักษาทัน ภายใน 3-4 วันจากที่เกิดอาการ เราก็แบบ เอ้อ..หมอครับในชีวิตผมไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ผมคิดว่ามันไม่น่าจบง่ายแบบนี้ งั้นเพื่อเป็นการไม่เ ห วี่ ย งแห เรามาเจาะเลือดแล้วตรวจอีกรอบดีมั้ยครับ มี โ ร ค อะไรที่มันจะเกิดจากการเข้าป่าแล้วทำให้เกิดอาการแบบนี้บ้างเรามาหาสาเหตุให้เจอคำตอบเถอะครับ ว่าใช่ มาลาเรียมั้ย หรือฉี่หนู บลาๆๆ

หมอตกลงตามนั้นเจาะเลือดไปตรวจและนอนดูอาการอีกหนึ่งคืน ช่วงบ่ายแก่ๆ วันนั้นหมอมาแจ้งว่าพบล่ะ ไม่ใช่มาลาเรีย แต่เป็นไข้รากสาดใหญ่ (โ ร คสครับไทฟัส) ที่เป็นเชื้อผสมทั้ง ไ ว รั ส และแบ คทีเรียมีตัวไรอ่อนในป่ารกชื้น ทุ่งหญ้าเป็นพาหะ ถ้าไม่ทันถึงมือหมอก็อันตรๅยถึงชีวิต เท่าที่เช็คค่าตั บผมคือมีขยายไปกินเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับน่าวิตกถ้ายๅที่ให้กดมันอยู่ และระหว่างนี้วิธีที่ดีที่สุดคือการสังเกตุอาการตัวเองถ้ามีอาการเดิมรีบกลับมา ถ้าปกติก็อีก 7 วันให้กลับไปเจาะ เ ลื อ ด ตรวจอีกรอบเพื่อความชัวร์ตรงจุดที่มันระเมิดพื้นที่ไปตรงตั บเล็กน้อยว่าตอนนั้นจะเป็นยังไง

ตอนนี้ก็พักฟื้นครับ อีก 7 วันรู้ผลจะมารายงานครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบทั้งสองสเตตัส หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ รายละเอียด โ ร ค ตัวนี้เช็คกูลเกิ้ลได้เลยละเอียดยิบ ขอบคุณทุกความห่วงใยครับ