เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สำหรับนางเอกซุปตาร์ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ นับตั้งแต่ที่มีข่าวว่าเจ้าตัวกำลังปลูกต้นรักครั้งใหม่อยู่กับไฮโซหนุ่มโปรไฟล์หรู ณัย-ประณัย พรประภา แถมช่วงหลังมานี้ทั้งคู่ก็ยังขยันเสิร์ฟโมเมนต์หวานๆ ออกสื่ออยู่บ่อยๆ จนหลายคนพากันอิจฉา

ซึ่งงานนี้ แต้ว ณฐพร ได้ออกมาเปิดใจถึงความสัมพันธ์กับไฮโซหนุ่ม ณัย ประณัย พร้อมเผยถึงฟีดแบคต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

ล่าสุดเห็นพากันไปทานอาหารญี่ปุ่น ?
“คุณแม่ไม่ค่อยออกข้างนอกเท่าไหร่ ชวนกันไปทานข้าวจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”

เห็นไฮโซณัยไปด้วย ?
“ใช่ค่ะ ได้มาเจอกันหลายๆ คน”

หลายคนมองว่าเป็นการเปิดตัวแบบเป็นทางการหรือเปล่า ?
“ไม่นะคะ ถ้าเป็นวันนั้น เป็นการผ่าน ไอจีสตอรี่ของไอจีคนอื่น จะเป็นการเปิดตัวเป็นทางการ ถ้าเป็นทางการไม่น่าจะเผลอขนาดนั้น”

ตัวเราเองยังไม่พร้อมด้วยใช่ไหมที่จะเปิดตัวแบบเป็นทางการ ?
“อุ้ย แต้วว่ามันเป็นเรื่องที่เราต้องค่อยๆ เรียนรู้ค่ะ มันไม่ใช่อีเวนต์ที่จะต้องเปิดตัวหรือแกรนด์โอเพ่นนิ่งอะไร”

คนแซวมากๆ เขินไหม ?
“ไม่เรียกเขินอ่ะ แต่แค่แบบว่าทำไมต้องเหมือนหาวาระอะไรให้กับเรื่องพวกนี้ด้วย”

เวลาไปทานข้าวกับเขา แล้วหยิบโทรศัพท์มาถ่ายติดเขาไปด้วย มีแอบพะวงไหมว่าจะลงหรือไม่ลงไอจีดี ?
“เอ่อ… ไม่นะคะไม่ แต้วรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เข้ามาในชีวิตเรา เราไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องพะวงว่าจะติดไม่ติด เพราะเรารู้สึกโอเคค่ะ”

ช่วงที่แต้วเศร้ามากๆ เรื่องงานคุณพ่อ เขาก็อยู่ข้างกายเราตลอด ?
“ก็มีหลายคนค่ะที่อยู่รอบๆ มีพี่ๆ ในวงการ ช่างแต่งหน้า มาช่วยกัน มาเป็นกำลังใจให้เราทุกคน รวมถึงพี่ต้นด้วย เจมส์ด้วย หลายคนเพื่อนๆ นักแสดงมาเป็นกำลังใจให้ เราก็รู้สึกซาบซึ้งมากๆ ที่เขาช่วยเราตั้งแต่วันแรก”

การพาไปทานข้าวกับคุณแม่วันนั้น เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เจอไฮโซณัยด้วยไหม ?
“ไม่ค่ะ เคยไปทานกันหลายรอบค่ะ”

หลายคนก็ชื่นชมต้น ที่ในวันงานดูแลแต้วและครอบครัวดีมาก ?
“ค่ะ คือเราก็มองเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัวอยู่แล้วค่ะ อย่างพี่เต๋าเองเวลามีงานอะไรก็จะชวนพี่ต้นมาด้วย เราก็รู้สึกว่าอยากให้เขามา อีกอย่างเขาเองก็ผูกพันกับคุณพ่อมาก คุณพ่อเห็นเขามาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยกัน และเขาก็มาด้วยความเต็มใจ ตั้งใจจริงๆ เขาอยากที่จะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณคุณพ่อด้วย”

แสดงว่าพี่ต้นก็เปรียบเสมือนอีกคนในครอบครัวไปแล้ว ?
“มันรู้สึกแบบนั้นนะ เพราะเราเองก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่หวังดีกับเราคนหนึ่ง และเราก็หวังดีกับเขา”

เหมือนเป็นพี่ชายคอยช่วยดูแลทุกคนในงานเลย ?
“ใช่ค่ะ”

ความสัมพันธ์กับไฮโซณัยเป็นอย่างไรบ้าง ?
“ก็ดีค่ะ เหมือนเราค่อยๆ รู้จักกันไปนะคะ ทุกอย่างมันก็ต้องใช้เวลาเนอะ ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปค่ะ”

ตัวเขาเขินไหม ที่ถูกจับตามองแบบนี้ ?
“เอ่อ… คงไม่เป็นเชิงเขินมั้งคะ ไม่รู้เหมือนกันต้องไปถามเขาดู (หัวเราะ) เวลามีภาพตามโซเชียลถามว่าเขาซีเรียสไหม ไม่นะคะ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรค่ะ”

ถ้าให้สถานะตอนนี้ เราจะเรียกว่าอะไร ?
“ก็เรียกว่า เป็นเพื่อนที่เราพยายามรู้จักกันให้มากขึ้น เรียนรู้กันอะไรแบบนี้ค่ะ”

เหมือนทางครอบครัว คุณแม่ รวมไปถึงแก๊งเฟอร์บี้ก็ไฟเขียวแล้ว ?
“ก็เป็นคนที่เรารู้สึกหวังดีด้วย และเราก็เชื่อว่าเขาหวังดีกับเรา เราเลยอยากจะพาไปรู้จักกับคนที่เราอยากให้รู้จัก คำว่าไฟเขียวถ้าจะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ หรือจะใช่ก็ไม่ได้ อย่างตอนที่เราเป็นแฟนกับพี่ต้น เราก็ยังอยู่ในสายตาคุณพ่อคุณแม่มาตลอด ยังโดนว่า ยังโดนติ เราเลยคิดว่ามันไม่ได้มีคำว่าไฟเขียวขนาดนั้น เพราะทุกๆ อย่างในชีวิตเรา เราจะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ตลอด คงไม่ได้มีไฟแดงไฟเขียวอะไร”

แก๊งเฟอร์บี้มีคอมเมนต์ไหม ?
“ไม่ได้มีนะคะ เราก็เจอกันคุยกันปกติไม่ได้มีนอกรอบ”

เหมือนก่อนหน้านี้ก็เจอกระแสเยอะเหมือนกัน อย่างดราม่าเรามูฟออน แล้วติดโควิดไม่มีโอกาสได้พูด เราอยากพูดอะไรไหม ?
“ใช่ค่ะ คือแต้วก็เห็นนะคะ แต่ไม่ได้เอามาคิด แต้วว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการพูดแต่แต้วคิดว่าเป็นการตัดสินใจของเราในทุกๆ เรื่อง กว่าจะมาถึงวันนี้มันก็ใช้เวลา ทั้งตอนที่เรามีปัญหา ใช้เวลาในการแก้ไขมาประมาณหนึ่ง จนถึงวันนี้ ถามว่าเสียใจไหม เราก็เสียใจอยู่แล้ว แต่ทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความทุกข์ หรือความสุข เราก็เรียนรู้ที่จะก้าวออกมา ทุกข์ก็อย่าไปทุกข์นาน เรื่องที่ทุกข์ที่สุดในชีวิต กลัวมากๆ คือการเสียคุณพ่อ เราก็ต้องมูฟออนออกมาให้เร็ว เพราะต้องกลับใช้ชีวิตเหมือนเดิม หรือเวลาเรามีความสุขมากๆ ก็อย่าไปยึดติดมากพยายามอยู่กับตรงนี้ อนาคตจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้แล้วมันก็เกิดขึ้นเร็วมากๆ พยายามมีสติ ไม่ว่าคนจะพูดอะไรแต้วก็ไม่ตัดสิน ไม่ไปพูดกับเขาว่ามันไม่ควรพูด แต้วก็ฟรีๆ เพราะไม่สามารถห้ามใครได้ และไม่มีใครสามารถห้ามแต้วได้เหมือนกัน เพราะมันคือการตัดสินใจของเราที่เราจะรับผลกระทบเอง”

เรามูฟออนแต่เขาไม่ยอมมูฟออน ยังคอมเมนต์แต่เรื่องเดิมๆ หงุดหงิดใจไหม ?
“ไม่เลยค่ะ เรารู้สึกว่าพูดได้เต็มที่ไม่เป็นไร เราก็ใช้ชีวิตของเรา สิ่งที่เราทำวันนี้ ก็มีผลในอนาคตของเรา คำพูดของใครไม่ได้จะมาทำให้มีผลกระทบอะไรกับชีวิต เราแคร์คนรอบๆ ข้าง ไม่ทำให้ใครเสียใจกับการตัดสินใจของเราก็พอแล้วค่ะ”

คนเม้าท์สุดท้ายเราก็คบไฮโซตามเพื่อน ?
“ก็เป็นเหมือนคำสรุปสั้นๆ แต่แต้วว่าจริงๆ มองตื้นไป กว่าจะมาถึงวันนี้เราผ่านมาเป็น 10 ปี กว่าจะพิสูจน์ว่าเราไปกันไม่ได้ ผ่านการแก้ไขและไม่แก้ไขมาเยอะมาก การที่ไปตัดสินใจแบบนั้นก็ตื้นไป เรื่องคำว่าไฮโซแต้วก็ไม่รู้ เพราะแต้วก็ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ยังไง หรือว่าคนที่ถูกเรียกเขาจะชอบหรือไม่ชอบ คนที่เขาไม่ชอบก็ไม่ค่อยแฟร์เหมือนกัน ที่จะต้องถูกจำกัดความแค่คำนี้ เขาอาจจะอยากถูกมองเป็นอย่างอื่นหรือเปล่าในสิ่งที่เขาทำ แต่ถ้าคนชอบแต้วก็ไม่แตะอะไร”

ไฮโซณัยทำใจแล้วใช่ไหมถ้าเกิดสนิทกับแต้ว ต้องถูกจับตามอง ?
“ไม่รู้ค่ะ (หัวเราะเขิน) แต้วก็ใช้ชีวิตของแต้วค่ะ แต้วก็บาลานซ์ให้ทุกคนแฮปปี้ เพราะแต้วรู้สึกว่าไม่อยากทำให้ใครไม่แฮปปี้ค่ะ”