เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ติ๊ก ยอมรับกลางรายการว่าเป็นหนี้จริง ไปยืมเงินคนรู้จัก 2 แสนบาท แล้วโดนทวงถามมาตลอด และยังขู่จะไปบอกนักข่าวด้วย ทำให้ต้องแอบกดเงินของศรรามไปกว่า 4 แสนบาท และยังเล่น เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับยิ่งเป็นหนี้ และสุดท้ายเรื่องก็แดงจนศรรามประกาศหย่าขาด

พี่หนุ่มน่าจะรู้เรื่องหนี้นะ เรื่องมีหนี้สิน หนูไม่เคยโกหก พี่หนุ่มรู้ว่าเป็นหนี้ และพี่หนุ่มก็ใช้ให้หนูทุกครั้ง ความรู้สึกพี่เขาน่าจะพังตอนหนี้ล่าสุดเรื่องเงินมัดจำเล่นคอนเสิร์ต เพราะไม่จบสิ้นเสียที”ติ๊กกล่าว

กรรชัย ถามว่า ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าศรรามไปแจ้งความว่าเงินในธนาคารหายไป 5 แสน ติ๊กกล่าวว่า หนูเป็นคนกดเงินไปเอง พี่หนุ่มก็รู้แล้วว่าเป็นหนู และเรื่องนี้้ป็นต้นเหตุให้พี่หนุ่มโพสต์ใบหย่า และให้ออกจากบ้านเมื่อ 9 วันก่อน

หนูไม่รู้ว่าพี่หนุ่มจำได้หรือเปล่า หนูกดเงินไป 4 แสน ทุกอย่าง หนูคุยกับพี่หนุ่มทุกอย่าง เคลียร์กันจบแล้ว พี่หนุ่มบอกว่าตังค์พี่หาย หนูบอกว่าอยู่กับหนูเอง แต่พี่หนุ่มก็ยังดำเนินคดี”ติ๊กกล่าว

ส่วนที่เล่น เพราะต้องหาเงินไปใช้หนี้ 2 แสนกว่าบาท ซึ่งพี่หนุ่มไม่ให้เงินใช้หนี้ จึงตัดสินใจไปเสี่ยงเล่นพนันออนไลน์ ทำให้กลายเป็นหนี้เพิ่มขึ้น

กรรชัยถามว่า ตอนอยู่ด้วยกัน ศรรามให้เงินเดือนหรือไม่ ติ๊กกล่าวว่า ไม่เคยได้เงินเดือน แต่พี่หนุ่มให้เงินหนูอาทิตย์ละ 500 บ้าง 2 พันบ้าง ไม่ให้เป็นเดือน เพราะพี่หนุ่มเพิ่งเริ่มมีงาน กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว

ติ๊กกล่าวว่า ตอนนี้มีหนี้แค่ 4 แสน เพราะอยากได้ที่น่าจำนวน 14 ไร่ ซึ่งหนี้สินนี้พี่หนุ่มก็รู้ทั้งหมด

กรรชัยกล่าวว่า ศรรามบอกว่าต้องเก็บเงินทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาว และขอให้ติ๊กกลับเนื้อกลับตัวเพื่อจะมีโอกาสได้เลี้ยงลูกในอนาคต ติ๊กปล่อยโฮ กล่าวว่า เมื่อไหร่ถึงหนูจะได้เจอลูก หนูยังไม่ได้เจอหน้าลูกเลย

ล่าสุด หนุ่ม ศรราม ภายหลังอดีตภรรยา ติ๊ก เปิดเผยถึงปมหย่าโดย หนุ่ม ศรราม กล่าวว่าสิ่งที่ติ๊กพูดเปิดใจในรายการดัง มีบางอย่างจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่ขอให้ปล่อยผ่านจุดนี้ไป เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ยืนยันจะไม่มีการออกมาให้สัมภาษณ์อย่างแน่นอน เพราะอยากให้เรื่องจบแค่ตรงนี้ หากติ๊กตั้งใจทำงานทำการ เป็นคนใหม่ มีชีวิตที่ดีขึ้น ตนก็จะโอเคเพราะเขาคือแม่ของลูก อยากให้เขามาดูแลลูก แต่หากเป็นในตอนนี้ ดูแล้วคงจะไม่พร้อมจริง ๆ

ในส่วนของสภาพจิตใจ มองว่าคงไม่มีใครสนุกกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน ต่างคนต่างเสียใจ โดยส่วนตัวตนเป็นคนทุ่มเทให้กับทุกเรื่อง หลักๆ ก็คือครอบครัว ยิ่งมี “วีจิ” ยิ่งทุ่มเทมากขึ้น เงินทองทั้งหมดก็ทุ่มไปกับบ้าน ดูแลติ๊ก และวีจิ

ส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่าการเป็นคนดัง ผู้คนก็จะติดตามข่าว แต่ตนอยากให้จบเพียงเท่านี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความทุกข์พออยู่แล้ว

สำหรับแผนชีวิตหลังจากนี้ แน่นอนที่สุดคือการเลี้ยงดูวีจิ ซึ่งตอนนี้มีพี่เลี้ยงดูแลเรียบร้อย ซึ่งตนก็หมดกังวลแล้วว่าใครจะมาทวงหนี้ที่บ้านแล้ว

ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่าทำไมต้องออกมาโพสต์สิ่งต่าง ๆ นั้น ขอแจงว่าว่าเป็นสิ่งที่ตนต้องเลือกและต้องแลกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อที่ติ๊กจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับปรุงตัว และมีชีวิตที่ดีขึ้น เผื่อวันหนึ่งจะได้กลับมาดูลูกได้